In Ireland and Spain, cheap credit

In Ireland and Spain, cheap credit fueled enormous housing bubbles just as it did in the United States. Credit flowed, debt accumulated, and the economies in Europe became tightly intertwined. Companies began opening factories and offices across Europe. German banks lending to French companies, French banks lending to Spanish companies and so on and so forth. This made doing business incredibly efficient, while at the same time tying together the collective fate of the Euro area. Things continue this way as long as credit was available and credit was available until 2008.Spurred by a collapse in the US housing market,a credit crisis swept the globe bringing borrowing to a halt everywhere. Suddenly the Greek economy couldn't function. It couldn't borrow money to pay for all the new jobs and benefits it created. It couldn't borrow the new money it needed to pay its all debts. This was a problem for Greece but because of the unified monetary policy, it was also a problem for all of Europe Much of Europe have been on a spending spree and borrowed more money than it could ever repay. But the problem is somebody has to pick up the tabor else every country in the euro area will suffer. Since the countries that ran up the bill couldn't repay, everyone looked to Germany. Austerity Measures As the biggest and strongest economy in Europe Germany reluctantly agreed to help bail out the debtor countries. In other words, Germany agreed to repay the bill but only if the debtor countries agreed to implement strict austerity measures to ensure that it would never happen again. Austerity measures meant sucking it up, cutting spending, borrowing less and paying back more debt. This sounds like a simple solution, right? It's not. First of all, nobody wants austerity. Austerity means cutting government spending and since the government is by far the biggest spender in the economy when the government cut spending, it cuts the earnings of many of its citizens. People lose jobs, they get angry, they riot in the streets. And austerity also doesn't automatically balance a country's budget. You see, the government collects taxes based on people's earnings. So when earnings are reduced, the government collects lesser taxes. They still can't pay down their debts. The pain is so bad that it's almost politically impossible to accomplish. On top of that there are huge cultural differences within the Euro area. Extreme Cultural Differences Germany is very financially responsible. Ever since the terrible hyper-inflation the country experienced after World War I,it's been extremely inflation averse and incredibly careful about spending and borrowing. In general, Germans work hard, expect little in the line of state benefits and meticulously pay all of their taxes. Many Greeks, on the other hand, enjoy generous state benefits and don't pay taxes. Greece has a terrible problem, it has never collected the majority of the taxes it imposes on its citizens and its always been this way. Joining the Euro just amplified it. The German view is that doesn't work. If you want our money, you need our morals. As the debtor countries headed towards default the whole continent of Europe was in danger. Even though the economies of the debtor countries are relatively small, they posed a huge threat because the European financial system is so interconnected precisely because of the Euro Remember, the debtor countries borrowed money from banks, investors, and other governments throughout Europe, as the debtor countries get closer to default everyone who lent them money becomes weaker and everyone who lent those lenders money also becomes weaker, and so on and so forth. A problem in one country could reverberate across the whole continent, triggering a chain-reaction of default. If Greece defaults then Spain could default, Italy, Portugal, and Ireland would be next, then France, then Germany pretty soon it could spread not just across Europe but across the world, Fiscal Union or Breakup. The problem is even if the debtor nations adopt austerity measures and even if the bailout from Germany in the stronger countries helps them pay down their debts and avoid the immediate crisis. There's no system in place to prevent this from happening again, brings us back to that fundamental division of monetary policy and fiscal policy. Ultimately, the euro area requires a fiscal union to match its monetary union, or neither. That is, there must be a political organization with authority to set fiscal policy within every Euro area country. It must have the power to cut spending, raise taxes and set laws. A fiscal union like this could actually prevent excessive borrowing and spending. However, this is an enormously complicated and unpopular notion. It means surrendering sovereignty to a higher power, in essence, a United States of Europe Yet without a centralized fiscal union countries will continue to run deficits, accumulate debt, degrade the value of the Euro and threatens stability in Europe. Can Europe take the necessary steps and create a fiscal union alongside the monetary union? Or will the monetary union breakup and the Euro disappear?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในไอร์แลนด์และสเปน เครดิตราคาประหยัดเป็นเชื้อเพลิงฟองอากาศขนาดใหญ่ที่อยู่อาศัยเช่นเดียวกับที่ทำในสหรัฐอเมริกา สินเชื่อเกิด ขึ้น สะสม หนี้ และเศรษฐกิจในยุโรปเป็นพันแน่น บริษัทเริ่มเปิดโรงงานและสำนักงานทั่วยุโรป ธนาคารให้กู้ยืมกับบริษัทฝรั่งเศส ฝรั่งเศสธนาคารอื่น ๆ และการให้กู้ยืมกับบริษัทสเปนและเยอรมัน นี้ทำให้ทำธุรกิจอย่างเหลือเชื่อมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ในเวลาเดียวกันผูกชะตากรรมรวมพื้นที่ยูโร สิ่งต่อไปวิธีนี้ตราบใดที่เครดิตมีเครดิตมีจน 2008.Spurred โดยยุบในตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ วิกฤตสินเชื่อกวาดโลกนำกู้ยืมเงินเพื่อการหยุดชะงักทุก ทันใดนั้นเศรษฐกิจกรีกไม่ทำงาน มันไม่สามารถยืมเงินจ่ายสำหรับงานใหม่ทั้งหมดและประโยชน์ที่จะสร้าง มันไม่สามารถกู้เงินใหม่ที่จะต้องชำระหนี้ทั้งหมด นี้เป็นปัญหาสำหรับกรีซ แต่เนื่องจากนโยบายทางการเงินรวม ก็ยังเป็นปัญหาสำหรับทั้งหมดของยุโรปมากของยุโรปได้ในสนุกสนานใช้จ่าย และยืมเงินมากกว่าไม่เคยชำระ แต่ปัญหาคือ คนมีการรับตรงที่อื่นจะต้องทนทุกข์ทรมานทุกประเทศในเขตยูโร เนื่องจากประเทศที่วิ่งค่าตั๋วไม่ชำระ ทุกคนมองไปเยอรมนี มาตรการเข้มงวดเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด และแข็งแกร่งในเยอรมนียุโรปเต็มใจตกลงจะช่วยประกันออกประเทศลูกหนี้ ในคำอื่น ๆ เยอรมนีตกลงที่จะชำระรายการ แต่เมื่อประเทศลูกหนี้ตกลงที่จะใช้มาตรการเข้มงวดเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่า มันจะไม่เกิดขึ้นอีก มาตรการเข้มงวดหมายถึง ดูดมัน ตัดค่าใช้จ่าย กู้ยืมน้อย และจ่ายหนี้กลับเพิ่มมากขึ้น นี้เสียงเหมือนแก้ปัญหา ขวา ไม่ ครั้งแรกของทั้งหมด ไม่มีใครต้องเข้มงวด เข้มงวดหมายถึง ตัดการใช้จ่ายรัฐบาล และเนื่องจากรัฐบาลโดย spender ที่ใหญ่ที่สุดในเศรษฐกิจเมื่อรัฐบาลตัดค่าใช้จ่าย ตัดรายได้ของประชาชนนั้น คนสูญเสียงาน พวกเขาได้รับโกรธ พวกจลาจลในถนน และความเข้มงวดยังไม่อัตโนมัติดุลงบประมาณของประเทศ คุณดู รัฐบาลจัดเก็บภาษีตามรายได้ของประชาชน ดังนั้นเมื่อกำไรจะลดลง รัฐบาลเก็บภาษีน้อยกว่า นอกจากนี้พวกเขายังไม่จ่ายลงหนี้ อาการปวดเลวที่ไม่ทางการเมืองเกือบจะบรรลุได้ ด้านบนของที่ มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่ภายในเขตยูโร เยอรมนีความแตกต่างทางวัฒนธรรมมากรับผิดชอบทางการเงินมาก นับตั้งแต่กลัวไฮเปอร์อัตราเงินเฟ้อประเทศมีประสบการณ์หลังจากสงครามโลก มันถูกมากเงินเฟ้อ averse และระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้จ่าย และการกู้ยืมอย่างเหลือเชื่อ ทั่วไป ชาวเยอรมันทำงานอย่างหนัก คาดว่าน้อยในบรรทัดของรัฐสวัสดิการ และความปราณีจ่ายภาษีของพวกเขาทั้งหมด ในกรีก คง เพลิดเพลินไปกับประโยชน์รัฐใจกว้าง และไม่ชำระภาษี กรีซมีปัญหาแย่ ได้เคยรวบรวมไว้ส่วนใหญ่ภาษีจะเก็บบนของประชาชนและรับวิธีนี้เสมอ เข้าร่วมยูโรเพียงขยายมัน ดูเยอรมันจะทำงาน ถ้าคุณต้องการเงินของเรา คุณต้องคุณธรรมของเรา เป็นประเทศลูกหนี้หัวต่อเริ่มต้นทั้งทวีปยุโรป อยู่ในอันตราย แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศลูกหนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก พวกเขาเป็นภัยคุกคามขนาดใหญ่เนื่องจากเพื่อให้มีเข้าใจระบบการเงินยุโรปอย่างแม่นยำเนื่องจากจำยูโร ประเทศลูกหนี้ยืมเงินจากธนาคาร ลงทุน และรัฐบาลอื่น ๆ ทั่วยุโรป ตามลูกหนี้ประเทศได้ใกล้ชิดกับทุกคนที่ให้ยืมเงินค่าเริ่มต้นจะแข็งแกร่ง และทุกคนที่ยืมเงินผู้ให้กู้เหล่านั้นยังจะแข็งแกร่ง และดังนั้นมา ปัญหาในประเทศหนึ่งสามารถระลอกข้ามทวีปทั้งหมด เรียก chain-reaction เริ่มต้น ถ้ากรีซเริ่มต้นแล้วสเปน สามารถเริ่มต้น อิตาลี โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และจะถัดไป แล้วฝรั่งเศส แล้วเยอรมนีสวยเร็วมันสามารถแพร่กระจาย ทั่วยุโรปไม่เพียง แต่ ทั่ว โลก สหภาพทางการเงินหรือแบ่ง ปัญหาคือ แม้ว่าประเทศลูกหนี้นำมาตรการความเข้มงวด และ แม้ bailout จากเยอรมนีประเทศแข็งแกร่งช่วยให้พวกเขาจ่ายลงหนี้ และหลีกเลี่ยงวิกฤติทันที มีไม่มีระบบในการป้องกันนี้เกิดขึ้นอีก นำเรากลับไปที่พื้นฐานกองนโยบายการเงินและนโยบายทางการเงิน ในที่สุด ตั้งยูโรต้องสหภาพทางการเงินให้ตรงกับสหภาพการเงิน หรือไม่ นั่นคือ ต้องมีองค์กรทางการเมือง มีอำนาจในการกำหนดนโยบายทางการเงินภายในประเทศทุกพื้นที่ยูโร จะต้องมีอำนาจที่จะตัดค่าใช้จ่าย เพิ่มภาษี และกฎหมายกำหนด สหภาพทางการเงินเช่นนี้จริงอาจทำให้กู้ยืม และการใช้จ่ายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม นี้เป็นความคิดที่ซับซ้อนมหาศาล และกฏหมาย หมายถึง อำนาจอธิปไตยสูงกำลัง สาระสำคัญ กับสหรัฐอเมริกาของยุโรปยังไม่ มีประเทศเป็นสหภาพทางการเงินส่วนกลาง surrendering จะยังคงรันขาดดุล สะสมหนี้ ลดค่าของยูโร และข่มขู่ความมั่นคงในยุโรป ยุโรปสามารถทำตามขั้นตอนที่จำเป็น และสร้างสหภาพทางการเงินควบคู่ไปกับสหภาพทางการเงินหรือไม่ หรือจะแบ่งสหภาพทางการเงินและยูโรหายไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในไอร์แลนด์และสเปนที่ถูกผลักดันเครดิตฟองอากาศที่อยู่อาศัยอย่างมากเช่นเดียวกับที่มันทำในประเทศสหรัฐอเมริกา เครดิตไหลหนี้สะสมและเศรษฐกิจในยุโรปกลายเป็นพันแน่น บริษัท เริ่มเปิดโรงงานและสำนักงานทั่วยุโรป ธนาคารเยอรมันให้กู้ยืมแก่ บริษัท ฝรั่งเศส, ฝรั่งเศสธนาคารปล่อยสินเชื่อให้กับ บริษัท สเปนและอื่น ๆ และอื่น ๆ นี่เองที่ทำให้การทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อในขณะที่ในเวลาเดียวกันคาดกันชะตากรรมของกลุ่มยูโร สิ่งที่ยังคงวิธีนี้ตราบใดที่มีการเครดิตและบัตรเครดิตที่มีอยู่จนกว่า 2008.Spurred จากการล่มสลายในตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐวิกฤตสินเชื่อกวาดโลกนำการกู้ยืมจะหยุดทุกที่ ทันใดนั้นเศรษฐกิจกรีกไม่สามารถทำงานได้ มันอาจจะไม่ได้กู้เงินที่จะจ่ายสำหรับทุกงานใหม่และผลประโยชน์ที่มันสร้างขึ้น มันไม่สามารถกู้เงินใหม่มันจะต้องจ่ายเงินของหนี้ทั้งหมด นี่เป็นปัญหาสำหรับกรีซ แต่เนื่องจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบครบวงจรมันก็เป็นปัญหาสำหรับทั้งหมดของยุโรปมากของยุโรปได้รับในการใช้จ่ายและความสนุกสนานที่ยืมเงินมากขึ้นกว่าที่เคยได้ชำระคืน แต่ปัญหาก็คือค​​นที่มีการรับตะโพนอื่นทุกประเทศในเขตยูโรจะประสบ เนื่องจากประเทศที่วิ่งขึ้นไปเรียกเก็บเงินไม่สามารถชำระคืนทุกคนมองไปยังประเทศเยอรมนี มาตรการความเข้มงวดในฐานะที่เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในยุโรปประเทศเยอรมันตกลงอย่างไม่เต็มใจที่จะช่วยประกันตัวออกประเทศลูกหนี้ ในคำอื่น ๆ เยอรมนีตกลงที่จะชำระคืนการเรียกเก็บเงิน แต่ถ้าลูกหนี้ประเทศตกลงที่จะดำเนินการตามมาตรการความเข้มงวดอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง มาตรการความเข้มงวดหมายดูดมันขึ้นตัดค่าใช้จ่าย, การกู้ยืมเงินน้อยลงและการจ่ายคืนหนี้มากขึ้น นี้เสียงเหมือนเป็นทางออกที่ง่ายใช่มั้ย? มันไม่ใช่ ครั้งแรกของทั้งหมดไม่มีใครต้องการที่เข้มงวด เข้มงวดหมายความว่าตัดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลและตั้งแต่รัฐบาลคือไกลโดยที่อะไรต่อมิอะไรที่ใหญ่ที่สุดในระบบเศรษฐกิจที่รัฐบาลใช้จ่ายตัดก็ตัดกำไรของหลายของประชาชน คนที่สูญเสียงานของพวกเขาได้รับโกรธที่พวกเขาก่อความวุ่นวายในถนน และความเข้มงวดยังไม่ได้โดยอัตโนมัติสมดุลของงบประมาณของประเทศ คุณจะเห็นรัฐบาลเก็บภาษีขึ้นอยู่กับผลประกอบการของผู้คน ดังนั้นเมื่อผลประกอบการจะลดลงรัฐบาลเก็บภาษีน้อย พวกเขายังไม่สามารถชำระหนี้ของพวกเขาลง ความเจ็บปวดที่ไม่ดีเพื่อให้มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้ในทางการเมืองที่จะบรรลุ ด้านบนของที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ยูโร มากแตกต่างทางวัฒนธรรมเป็นอย่างมากเยอรมนีรับผิดชอบทางการเงิน นับตั้งแต่ไฮเปอร์ที่น่ากลัวอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่มีประสบการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่จะได้รับอัตราเงินเฟ้อเกลียดชังมากอย่างไม่น่าเชื่อและระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการกู้ยืม โดยทั่วไปชาวเยอรมันทำงานอย่างหนักคาดหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสายของผลประโยชน์ของรัฐและพิถีพิถันจ่ายทั้งหมดของภาษีของพวกเขา ชาวกรีกจำนวนมากในมืออื่น ๆ , เพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์ของรัฐใจกว้างและไม่ต้องจ่ายภาษี กรีซมีปัญหาที่น่ากลัวมันไม่เคยเก็บรวบรวมส่วนใหญ่ของภาษีที่เรียกเก็บกับประชาชนและรับเสมอด้วยวิธีนี้ของ เข้าร่วมยูโรเพียงขยายมัน มุมมองเยอรมันที่ไม่ได้ทำงาน ถ้าคุณต้องการเงินของเราคุณจะต้องประพฤติของเรา ในฐานะที่เป็นประเทศลูกหนี้ที่มุ่งหน้าไปยังทว​​ีปเริ่มต้นทั้งหมดของยุโรปตกอยู่ในอันตราย แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศลูกหนี้ที่มีขนาดค่อนข้างเล็กที่พวกเขาเป็นภัยคุกคามอย่างมากเพราะระบบการเงินยุโรปที่เชื่อมต่อกันอย่างแม่นยำเพราะยูโรจำไว้ว่าประเทศลูกหนี้ที่ยืมเงินจากธนาคาร, นักลงทุนและรัฐบาลอื่น ๆ ทั่วยุโรป ประเทศลูกหนี้ได้ใกล้ชิดกับทุกคนที่เริ่มต้นยืมเงินจะกลายเป็นปรับตัวลดลงและทุกคนที่ยืมเงินผู้ให้กู้ก็จะกลายเป็นปรับตัวลดลงและอื่น ๆ และอื่น ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่งจะก้องกังวานไปทั่วทั้งทวีปที่เรียกปฏิกิริยาลูกโซ่ของการเริ่มต้น หากเริ่มต้นแล้วกรีซสเปนจะเริ่มต้น, อิตาลี, โปรตุเกสและไอร์แลนด์จะเป็นต่อไปแล้วฝรั่งเศสเยอรมนีแล้วสวยเร็ว ๆ นี้มันอาจจะไม่ได้เป็นเพียงการแพร่กระจายไปทั่วยุโรป แต่ทั่วโลกสหภาพการคลังหรือกระจัดกระจาย ปัญหาคือแม้ว่าประเทศที่ลูกหนี้นำมาใช้มาตรการความเข้มงวดและแม้ว่า bailout จากประเทศเยอรมนีในประเทศที่แข็งแกร่งช่วยให้พวกเขาจ่ายหนี้ของพวกเขาและหลีกเลี่ยงวิกฤตทันที มีระบบในสถานที่ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกครั้งเป็นนำเรากลับไปที่ส่วนพื้นฐานของนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ในท้ายที่สุดเขตยูโรต้องสหภาพการคลังเพื่อให้ตรงกับสหภาพการเงินของตนหรือไม่ นั่นคือจะต้องมีองค์กรทางการเมืองที่มีอำนาจในการกำหนดนโยบายการคลังในประเทศทุกพื้นที่ยูโร มันจะต้องมีอำนาจที่จะลดค่าใช้จ่ายเพิ่มภาษีและชุดกฎหมาย สหภาพการคลังเช่นนี้จริงสามารถป้องกันการกู้ยืมเงินและการใช้จ่ายมากเกินไป แต่นี้เป็นความคิดที่ซับซ้อนและไม่เป็นที่นิยมอย่างมาก มันหมายถึงการยอมจำนนอำนาจอธิปไตยพลังงานที่สูงขึ้นในสาระสำคัญสหรัฐยุโรป แต่โดยไม่ต้องส่วนกลางประเทศสหภาพการคลังจะยังคงทำงานขาดดุลสะสมหนี้ลดค่าของเงินยูโรและคุกคามความมั่นคงในยุโรป ยุโรปสามารถใช้ขั้นตอนที่จำเป็นและสร้างสหภาพการคลังควบคู่ไปกับสหภาพการเงิน? หรือจะล่มสลายสหภาพการเงินและยูโรหายไป?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในไอร์แลนด์ และสเปน สินเชื่อที่อยู่อาศัยราคาถูกเชื้อเพลิงมหาศาลฟองเดียวกับมันในสหรัฐอเมริกา เครดิตไหล , หนี้สะสม และประเทศในยุโรปก็แน่นประสานกัน บริษัทเริ่มเปิดโรงงานและสำนักงานทั่วยุโรป ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้กับ บริษัท เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน และฝรั่งเศส การปล่อยสินเชื่อให้กับธนาคาร บริษัท เป็นต้นนี่ทำให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็คาดกันชะตากรรมร่วมกันของพื้นที่ยูโร แบบนี้ต่อไปตราบใดที่เครดิตที่มีอยู่และเครดิตที่สามารถใช้ได้จนถึงปี 2008 ขึ้นจากการล่มสลายในตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐวิกฤตสินเชื่อทั่วโลกนำกวาดยืมต้องหยุดชะงักไปหมด ก็เศรษฐกิจกรีกก็ใช้ไม่ได้เลยมันไม่สามารถยืมเงินที่จะจ่ายสำหรับทุกตำแหน่งงานใหม่และประโยชน์สร้าง มันไม่สามารถยืมเงินใหม่มันต้องชดใช้หนี้ทั้งหมดของ นี้เป็นปัญหากับกรีซ แต่เพราะนโยบายการเงินแบบครบวงจรนอกจากนี้ยังปัญหาทั้งหมดของยุโรปมากของยุโรปได้รับการใช้จ่ายสนุกสนานและยืมเงินมากกว่าที่ไม่สามารถจ่ายคืนได้แต่ปัญหาคือ มีใครบางคนหยิบสายวัดอื่นทุกประเทศในเขตยูโรจะประสบ เนื่องจากประเทศที่วิ่งขึ้นบิลไม่สามารถตอบแทน ทุกคนมองไปที่เยอรมนี มาตรการความเข้มงวดเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป เยอรมนีอย่างไม่เต็มใจตกลงที่จะช่วยประกันตัวลูกหนี้ในประเทศ ในคำอื่น ๆเยอรมันตกลงที่จะจ่ายบิล แต่ถ้าประเทศลูกหนี้ตกลงที่จะใช้มาตรการความเข้มงวดที่เข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก มาตรการความเข้มงวดหมายถึงดูดมันขึ้นมา ตัดการใช้จ่ายเงินน้อยลงและจ่ายคืนหนี้มากขึ้น นี้เสียงเหมือนโซลูชั่นที่ง่ายขวา ? มันไม่ ครั้งแรกของทั้งหมด ไม่มีใครต้องการความเข้มงวดหมายถึง การใช้จ่ายภาครัฐและความเข้มงวดตั้งแต่รัฐบาลคือโดยไกลที่ใหญ่ที่สุดในระบบเศรษฐกิจ เมื่อเสี่ยรัฐบาลตัดลดการใช้จ่าย มันลดกำไรของมากของประชาชน คนสูญเสียงานของพวกเขาโกรธ พวกเขาปราบจลาจลในถนน ความเข้มงวดและยังโดยอัตโนมัติไม่ดุลงบประมาณของประเทศ คุณรู้ว่ารัฐบาลจัดเก็บภาษีตามรายได้ของคนดังนั้นเมื่อรายได้ลดลง รัฐบาลเก็บน้อยภาษี พวกเขายังไม่สามารถจ่ายลงหนี้ของพวกเขา ความเจ็บปวดที่เลวร้ายแบบนั้นเกือบทางการเมืองเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุ ด้านบนของที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ยูโร ความแตกต่างทางวัฒนธรรมเยอรมันมากที่สุดทางการเงินที่รับผิดชอบตั้งแต่ที่น่ากลัว ไฮเปอร์เงินเฟ้อประเทศประสบหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มันเฟ้อมากอย่างเหลือเชื่อระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้จ่ายและเกลียดชังและการยืม โดยทั่วไปเยอรมันทำงานหนัก คาดหวังเล็ก ๆน้อย ๆในบรรทัดของผลประโยชน์ของรัฐและการจ่ายภาษีของพวกเขา กรีกหลาย บนมืออื่น ๆ , เพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์ของรัฐใจกว้างและไม่ยอมจ่ายภาษีกรีซมีปัญหาร้าย มันไม่เคยเก็บส่วนใหญ่ของภาษีของประชาชนมันเก็บภาษีและตลอดมา เข้าร่วมยูโรแค่ขยายมัน มุมมองของเยอรมันที่ไม่ทำงาน ถ้าคุณต้องการเงินของเรา คุณต้องการกำลังใจของเรา เป็นประเทศลูกหนี้ไปโดยปริยาย ทั้งทวีปยุโรปกำลังอยู่ในอันตรายแม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศลูกหนี้จะค่อนข้างเล็ก พวกเขาคุกคามอย่างมากเพราะระบบการเงินยุโรป เพื่อเชื่อมต่อกันเพราะยูโรจำประเทศลูกหนี้ยืมเงินจากธนาคาร นักลงทุนและรัฐบาลอื่น ๆทั่วยุโรปเป็นประเทศลูกหนี้ใกล้ชิดเริ่มต้นทุกคนที่ยืมเงินของพวกเขากลายเป็นอ่อนแอและทุกคนที่ยืม ตลอดจนเงินเหล่านั้นยังอ่อนแอลง และอื่น ๆและอื่น ๆ ปัญหาในประเทศหนึ่งก็ดังก้องทั่วทั้งทวีป ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ของการเริ่มต้น ถ้าเริ่มต้นสามารถเริ่มต้นแล้ว สเปน กรีซ อิตาลี โปรตุเกส และ ไอร์แลนด์จะถัดไป จากนั้นฝรั่งเศสจากนั้น เยอรมัน อีกไม่นานมันอาจกระจายไม่ทั่วยุโรปและทั่วโลก สหภาพการคลัง หรือเลิกกับแฟน ปัญหาคือ ถ้าลูกหนี้ในประเทศใช้มาตรการความเข้มงวดและแม้ว่า bailout จากเยอรมนี ในประเทศที่แข็งแกร่งช่วยให้พวกเขาจ่ายลงหนี้ของพวกเขาและหลีกเลี่ยงวิกฤตทันที ไม่มีระบบในสถานที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกพาเรากลับมาที่หน่วยพื้นฐานของนโยบายการเงิน และนโยบายการคลัง ในที่สุดพื้นที่ยูโรต้องมีสหภาพการคลังเพื่อให้ตรงกับสหภาพทางการเงิน หรือทั้งสองอย่าง นั่นคือ ต้องมีองค์กรทางการเมืองที่มีอำนาจกำหนดนโยบายการคลังในทุกพื้นที่ของประเทศยูโร . มันต้องมีอำนาจที่จะตัดลดการใช้จ่าย ขึ้นภาษีและกฎหมายสหภาพการคลังแบบนี้จริงจะป้องกันไม่ให้การกู้ยืมมากเกินไป และการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม นี่เป็นอย่างซับซ้อนและเสนอความคิด . มันหมายถึงสละอำนาจอธิปไตยเป็นอำนาจที่สูงขึ้น ในสาระสำคัญ , สหรัฐอเมริกา ยุโรปยังไม่มีการรวมศูนย์สหภาพการคลังประเทศจะยังคงใช้ขาดทุนสะสมหนี้ทำให้มูลค่าของเงินยูโร และคุกคามต่อเสถียรภาพในยุโรป ยุโรปสามารถใช้ขั้นตอนที่จำเป็น และสร้างสหภาพการคลังร่วมกับสหภาพการเงิน ? หรือจะเลิกกัน และสหภาพการเงินยูโรหายไป ?