would remove only part (perhaps 25–

would remove only part (perhaps 25–35%) of the CO2 from smokestack emissions. No plants using CCS exist, and building and testing them could take 20–30 years and huge amounts of money with no guaranteed successes. A third problem is that this process requires large inputs of energy, which could increase CO2 emissions and cancel out some of the gains made from collecting and storing some of the CO2. A fourth problem is that CCS promotes the continued use of coal, which should probably be phased out. Coal companies talk about a future based on greatly increased use of clean coal technologies, such as coal-tosynfuels. But even with successful CCS and cleaner coal technologies, coal is by far the world’s dirtiest fuel to dig up and burn (Figures 15-15, right, p. 385, and 15-16, right, p. 386). And if coal’s harmful environmental costs were included in its price, burning coal would be a very costly way to produce electricity compared to most other alternatives (Table 16-1, p. 416). It is not surprising that coal companies are pushing for a shift to CCS coal-fired plants to be funded with the help of generous taxpayer subsidies and tax breaks. Indeed, without CCS, the conventional coal industry probably will not survive in the long term. And because converting coal to synfuels produces twice as much CO2 per volume of fuel as burning gasoline, CCS also helps to make the coal-to-synfuels industry more feasible. This helps to assure a future for the coal industry, which will ensure continued increasing CO2 emissions. A fifth problem is that providing huge government subsidies and taxbreaks for developing and testing CCS technology would divert or reduce the huge subsidies and taxbreaks needed for the rapid development of solar, wind, geothermal, and other forms of renewable energy that reduce rather than attempt to deal with CO2 emissions. A sixth very serious potential problem with CCS is that essentially no leaks are allowed. In effect, the stored CO2 would have to remain sealed from the atmosphere forever. Any large-scale leaks due to earthquakes, other geological events, or wars, as well as any number of smaller continuous leaks from storage sites around the world, could dramatically increase global warming and the resulting climate change in a very short time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จะเอาเพียงส่วนหนึ่ง (อาจเป็น 25-35%) ของ CO2 จากปล่อย smokestack พืชไม่ใช้ CCS มีอยู่ และอาคาร และการทดสอบพวกเขาอาจใช้เวลา 20 – 30 ปีและเงินจำนวนมากกับความสำเร็จไม่รับประกัน ปัญหาที่สามคือ ว่า กระบวนการนี้ต้องการพลังงาน อินพุตขนาดใหญ่ซึ่งสามารถเพิ่มการปล่อย CO2 และยกเลิกบางส่วนของกำไรจากการเก็บรวบรวม และเก็บบางส่วนของ CO2 ปัญหาสี่คือ ว่า CCS ส่งเสริมการใช้ถ่านหิน ที่ควรอาจจะค่อย ๆ ออก บริษัทถ่านหินพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตที่อิงเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด เช่น tosynfuels ถ่านหินใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่แม้จะ มี CCS ประสบความสำเร็จและเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในโลกก้า การขุดขึ้นมาเขียน (ตัวเลข 15-15 ขวา p. 385 และ 15-16 ขวา p. 386) โดย และถ้าต้นทุนสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายของถ่านหินรวมอยู่ในราคาของมัน การเผาไหม้ถ่านหินจะเป็นวิธีค่าใช้จ่ายมากในการผลิตไฟฟ้าเมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ มากที่สุด (ตาราง 16-1, 416 p.) จึงไม่น่าแปลกใจว่า บริษัทถ่านหินจะผลักดันสำหรับกะพืชถ่าน CCS การให้ทุนช่วยเหลืออุดหนุนน้ำใจผู้เสียภาษีและภาษีแบ่ง แน่นอน โดย CCS อุตสาหกรรมถ่านหินทั่วไปอาจจะอยู่รอดในระยะยาว และเนื่องจากการแปลงถ่านหินเป็น synfuels ผลิต CO2 สองเท่าต่อปริมาตรของน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเบนซินเผาไหม้ CCS ยังช่วยให้อุตสาหกรรมถ่านหิน-synfuels ไปได้ นี้ช่วยให้มั่นใจในอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมถ่านหิน ซึ่งจะช่วยให้การปล่อย CO2 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาห้าเป็นที่ให้เงินอุดหนุนจากรัฐใหญ่และ taxbreaks สำหรับการพัฒนา และทดสอบเทคโนโลยี CCS จะเบี่ยงเบน หรือลดอุดหนุนใหญ่และ taxbreaks ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ความร้อนใต้พิภพ และอื่น ๆ รูปแบบของพลังงานทดแทนที่ลด มากกว่าที่พยายามที่จะจัดการกับการปล่อย CO2 ปัญหาอาจเกิดขึ้นรุนแรงมากหกกับ CCS คือ ว่า รั่วเป็นหลักไม่ได้รับอนุญาต ผล CO2 เก็บไว้จะมีการปิดผนึกจากบรรยากาศยังคงอยู่ตลอดไป รอยรั่วขนาดใหญ่เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหว เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาอื่น ๆ หรือสงคราม เช่นเดียวกับจำนวนขนาดเล็กต่อเนื่องรั่วจากเก็บไซต์ทั่วโลก สามารถอย่างมากเพิ่มภาวะโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศเกิดเปลี่ยนแปลงในเวลาสั้น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จะเอาเพียงส่วนหนึ่ง (อาจจะ 25-35%) ของ CO2 จากการปล่อยก๊าซปล่องควัน ไม่มีพืชใช้ CCS อยู่และการสร้างและการทดสอบพวกเขาอาจจะใช้เวลา 20-30 ปีและเงินจำนวนมากโดยไม่มีการรับประกันความสำเร็จ ปัญหาที่สามคือว่ากระบวนการนี​​้ต้องใช้ปัจจัยการผลิตที่มีขนาดใหญ่ของพลังงานซึ่งสามารถเพิ่มการปล่อย CO2 และยกเลิกออกบางส่วนของกำไรที่ได้จากการจัดเก็บภาษีและการจัดเก็บบางส่วนของก๊าซ CO2 ปัญหาที่สี่คือการที่ CCS ส่งเสริมการใช้อย่างต่อเนื่องของถ่านหินซึ่งอาจจะต้องค่อย ๆ ออกมา บริษัท ถ่านหินพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตขึ้นอยู่กับการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมากของเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดเช่นถ่านหิน tosynfuels แต่แม้จะมีซีซีเอสที่ประสบความสำเร็จและเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดถ่านหินคือไกลโดยน้ำมันเชื้อเพลิงที่สกปรกที่สุดในโลกที่จะขุดขึ้นและการเผาไหม้ (ตัวเลข 15-15 ขวาพี. 385 และ 15-16 ขวาพี. 386) และหากค่าใช้จ่ายด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายถ่านหินถูกรวมอยู่ในราคาของการเผาไหม้ถ่านหินจะเป็นวิธีที่มีราคาแพงมากในการผลิตไฟฟ้าเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ มากที่สุด (ตารางที่ 16-1 พี. 416) มันไม่น่าแปลกใจที่ บริษัท ถ่านหินจะผลักดันให้มีการเปลี่ยนไปใช้ CCS โรงไฟฟ้​​าถ่านหินที่จะได้รับการสนับสนุนด้วยความช่วยเหลือของผู้เสียภาษีอากรเงินอุดหนุนใจกว้างและแบ่งภาษี อันที่จริงโดยไม่ต้อง CCS อุตสาหกรรมถ่านหินธรรมดาอาจจะไม่ได้อยู่รอดได้ในระยะยาว และเนื่องจากการแปลงถ่านหิน synfuels ผลิต CO2 สองเท่าต่อปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงการเผาไหม้น้ำมัน CCS ยังช่วยทำให้อุตสาหกรรมถ่านหินเพื่อ synfuels ไปได้มากขึ้น นี้จะช่วยให้มั่นใจในอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมถ่านหินซึ่งจะช่วยให้มั่นใจยังคงเพิ่มขึ้นการปล่อย CO2 ปัญหาที่ห้าคือว่าการให้เงินอุดหนุนที่รัฐบาลขนาดใหญ่และ taxbreaks สำหรับการพัฒนาและการทดสอบเทคโนโลยี CCS จะเบี่ยงเบนความสนใจหรือลดเงินอุดหนุนมากและ taxbreaks ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของพลังงานแสงอาทิตย์ลมความร้อนใต้พิภพและรูปแบบอื่น ๆ ของพลังงานทดแทนที่ช่วยลดมากกว่าความพยายามที่จะ จัดการกับการปล่อย CO2 ปัญหาที่อาจเกิดหกร้ายแรงมากกับ CCS เป็นที่เป็นหลักไม่มีการรั่วไหลจะได้รับอนุญาต ผล CO2 ที่เก็บไว้จะต้องยังคงปิดผนึกจากบรรยากาศตลอดไป ใด ๆ รั่วไหลขนาดใหญ่เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาอื่น ๆ หรือสงครามเช่นเดียวกับจำนวนของการรั่วไหลอย่างต่อเนื่องที่มีขนาดเล็กจากเว็บไซต์การจัดเก็บข้อมูลทั่วโลกใด ๆ อย่างมากสามารถเพิ่มภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในเวลาที่สั้นมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จะลบเฉพาะส่วน ( บางที 25 – 35 % ) ของการปล่อยก๊าซ CO2 จากปล่องควันสูง . ไม่มีพืชใช้ CCS อยู่ และการสร้างและการทดสอบพวกเขาอาจใช้เวลา 20 - 30 ปี และเงินจำนวนมาก ไม่รับประกันความสำเร็จ . ปัญหาที่สามคือ กระบวนการนี้ต้องใช้พลังงานมาก ซึ่งจะเพิ่มการปล่อยก๊าซ CO2 และยกเลิกบางส่วนของผลประโยชน์ที่ได้จากการรวบรวมและจัดเก็บบางส่วนของ CO2 ปัญหาที่สี่คือว่า CCS ส่งเสริมยังคงใช้ถ่านหิน ซึ่งอาจจะแบ่งออก บริษัทถ่านหินพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตตามเพิ่มขึ้นอย่างมาก การใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด เช่น tosynfuels ถ่านหิน แต่แม้จะมีความสะอาดเทคโนโลยี CCS และถ่านหิน ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงโดยไกลหนึ่งของโลกในการขุดและเผา ( 15-15 ตัวเลขด้านขวา , หน้า 385 , 15-16 , ขวา , หน้า 386 ) และถ้าถ่านหินต่อสิ่งแวดล้อมค่าใช้จ่ายถูกรวมอยู่ในราคาของการเผาไหม้ถ่านหินจะเป็นวิธีที่แพงมากในการผลิตไฟฟ้าเมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ มากที่สุด ( โต๊ะรวม , หน้า 416 ) มันไม่น่าแปลกใจที่ บริษัท ถ่านหินจะผลักดันให้กะการ CCS ถ่านหินพืชได้รับการสนับสนุนด้วยความช่วยเหลือของเงินอุดหนุนภาษีใจกว้างและภาษีแบ่ง แน่นอน โดยไม่ CCS , อุตสาหกรรมถ่านหินธรรมดาอาจจะไม่รอดในระยะยาว และเนื่องจากการแปลงถ่านหิน synfuels ผลิตมากเป็นสองเท่าของปริมาณ CO2 ต่อการเผาไหม้เชื้อเพลิง เช่น เบนซิน , CCS ยังช่วยให้ถ่านหินอุตสาหกรรม synfuels เป็นไปได้มากขึ้น นี้ช่วยให้มั่นใจในอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมถ่านหินซึ่งจะตรวจสอบอย่างต่อเนื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปัญหาที่ห้า คือ การให้เงินอุดหนุนที่รัฐบาลขนาดใหญ่และ taxbreaks สำหรับการพัฒนาและทดสอบเทคโนโลยี CCS จะเบี่ยงเบนหรือลดเงินอุดหนุนขนาดใหญ่และ taxbreaks ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และรูปแบบอื่น ๆของพลังงานที่ลดมากกว่าการพยายามที่จะจัดการกับการปล่อย CO2 . หกร้ายแรงมาก ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับ CCS เป็นหลักไม่รั่วจะอนุญาต ผล จัดเก็บ CO2 จะยังคงปิดสนิท จากบรรยากาศ ตลอดไป ขนาดใหญ่ใด ๆรั่วไหลเนื่องจากแผ่นดินไหว เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาอื่นหรือสงคราม รวมทั้งหมายเลขใด ๆของการรั่วไหลอย่างต่อเนื่องขนาดเล็กจากกระเป๋าเว็บไซต์ทั่วโลกอย่างมากสามารถเพิ่มภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในเวลาที่สั้นมาก