การเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิงการเขียนบทความ ไม่ว่าจะเป็น บทความว การแปล - การเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิงการเขียนบทความ ไม่ว่าจะเป็น บทความว ไทย วิธีการพูด

การเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิง

การเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิง

การเขียนบทความ ไม่ว่าจะเป็น บทความวิชาการ หรือบทความโดยทั่วไป รายงานผลงานวิจัย หรือสารคดี ต้องมีรายชื่อเอกสารที่นำข้อมูลมาใช้อ้างอิงหรือใช้ประกอบการเขียนแนบท้าย เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าบทความหรือรายงานนั้น ผ่านการค้นคว้าอย่างมีเหตุผล มีสาระที่เชื่อถือได้
เอกสารที่นำมาอ้างจะต้องให้ข้อมูล รายละเอียดชัดเจนเพียงพอที่จะสามารถติดตามค้นหาข้อมูลที่อ้างถึงหรือเกี่ยวข้องได้ถูกต้อง

โดยทั่วไปแล้วเอกสารที่มีการนำข้อมูลมาอ้างอิงในเนื้อเรื่องของบทความหรือรายงาน จะเรียกว่าเอกสารอ้างอิง ซึ่ง ภาษาอังกฤษใช้ References, Literature Cited, หรือ Reference Cited ในปัจจุบันมักใช้คำว่า References แต่ถ้าเป็นเอกสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขียนและผู้เขียนนำมาศึกษาข้อมูลประกอบ แต่มิได้มีการนำข้อมูลมาอ้างถึงโดยตรง จะเรียกว่าบรรณานุกรม หรือ Bibliography บทความใดที่มีทั้งเอกสารอ้างอิงและบรรณานุกรม จะต้องจัดทำรายการแยกกันไว้ท้ายเรื่อง

การอ้างอิง หมายถึง การบอกแหล่งที่มาของข้อความที่ใช้อ้างอิง ในเนื้อหาที่นำมาเขียนเรียบเรียงจะมีการอ้างอิงแทรกปนในเนื้อหา ซึ่งมี 2 ระบบ คือ
1.1 ระบบนาม - ปี ( Author - date) เป็นระบบที่มีชื่อผู้แต่ง, ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า ที่อ้างอิงอยู่ภายในวงเล็บ ดังตัวอย่าง การอ้างอิงแบบ APA
(ชื่อผู้แต่ง. ปีที่พิมพ์ : เลขหน้าที่อ้างอิง)
1.2 ระบบหมายเลข (Number System) เป็นระบบที่คล้ายคลึงกับระบบนาม - ปี แต่ระบบนี้จะใช้หมายเลขแทนชื่อผู้แต่งเอกสาร ซึ่งปัจจุบันในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพนิยมใช้ เช่น การอ้างอิงแบบแวนคูเวอร์
ส่วนวิธีอ้างอิง มีอยู่ 2 วิธี คือ
1.2.1 ให้หมายเลขตามลำดับของการอ้างอิง
1.2.2 ให้หมายเลขตามลำดับอักษรผู้แต่ง

ส่วนบรรณานุกรม (Bibliography) หมายถึง รายการของทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดที่ผู้ทำรายงานได้ใช้ประกอบการเขียนรายงาน ทั้งที่ปรากฏชัดเจนโดยเขียนอ้างอิงไว้ และส่วนที่ไม่ปรากฏชัดเจน แต่อาจเป็นเพียงการรวบรวมความคิดหลาย ๆ แนว แล้วนำมาเรียบเรียงใหม่

นอกจากนี้การอ้างอิงอีกลักษณะหนึ่งที่ใช้กัน ได้แก่ เชิงอรรถ เป็นการนำข้อมูลวางไว้ส่วนล่างของแต่ละหน้าโดยมี เครื่องหมายหรือเลขลำดับที่กำกับ เชิงอรรถมักจะใช้กับบทความด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ แต่ปัจจุบันนิยมใช้กันน้อยมาก อย่างไรก็ตามการจัดทำรายชื่อเอกสารอ้างอิงท้ายเรื่องนั้นมีหลายรูปแบบ การเลือกใช้แบบใดขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสถาบันการศึกษา หรือวารสารของแต่ละสถาบัน

หลักเกณฑ์การเขียนเอกสารอ้างอิงตามระบบที่ใช้กันหลักๆ มีอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่
Harvard Style
Vancouver Style ซึ่งทั้งสองแบบนิยมใช้กันในสาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไปและทางการแพทย์
APA Style เป็นแบบที่แนะนำโดย The American Psychological Association ใช้กันมากในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิงการเขียนบทความไม่ว่าจะเป็นบทความวิชาการหรือบทความโดยทั่วไปรายงานผลงานวิจัยหรือสารคดีต้องมีรายชื่อเอกสารที่นำข้อมูลมาใช้อ้างอิงหรือใช้ประกอบการเขียนแนบท้ายเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าบทความหรือรายงานนั้นผ่านการค้นคว้าอย่างมีเหตุผลมีสาระที่เชื่อถือได้ เอกสารที่นำมาอ้างจะต้องให้ข้อมูลรายละเอียดชัดเจนเพียงพอที่จะสามารถติดตามค้นหาข้อมูลที่อ้างถึงหรือเกี่ยวข้องได้ถูกต้องโดยทั่วไปแล้วเอกสารที่มีการนำข้อมูลมาอ้างอิงในเนื้อเรื่องของบทความหรือรายงานจะเรียกว่าเอกสารอ้างอิงซึ่งภาษาอังกฤษใช้อ้างอิง เอกสารประกอบการอ้าง อ้างอิงออกเป็นอ้างในปัจจุบันมักใช้คำว่าอ้างอิงแต่ถ้าเป็นเอกสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขียนและผู้เขียนนำมาศึกษาข้อมูลประกอบแต่มิได้มีการนำข้อมูลมาอ้างถึงโดยตรงจะเรียกว่าบรรณานุกรมหรือบรรณานุกรมบทความใดที่มีทั้งเอกสารอ้างอิงและบรรณานุกรมจะต้องจัดทำรายการแยกกันไว้ท้ายเรื่อง การอ้างอิงหมายถึงการบอกแหล่งที่มาของข้อความที่ใช้อ้างอิงในเนื้อหาที่นำมาเขียนเรียบเรียงจะมีการอ้างอิงแทรกปนในเนื้อหาซึ่งมี 2 ระบบฯลฯ แล้วแต่คือ 1.1 ระบบนาม - ปี (ผู้แต่ง - วัน) เป็นระบบที่มีชื่อผู้แต่ง ปีที่พิมพ์และเลขหน้าที่อ้างอิงอยู่ภายในวงเล็บดังตัวอย่างการอ้างอิงแบบอาป้า (ชื่อผู้แต่งปีที่พิมพ์: เลขหน้าที่อ้างอิง) 1.2 ระบบหมายเลข (ระบบเลข) เป็นระบบที่คล้ายคลึงกับระบบนาม - ซึ่งปัจจุบันในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพนิยมใช้ปีแต่ระบบนี้จะใช้หมายเลขแทนชื่อผู้แต่งเอกสารเช่นการอ้างอิงแบบแวนคูเวอร์ ส่วนวิธีอ้างอิงมีอยู่ 2 วิธีคือ 1.2.1 คำให้หมายเลขตามลำดับของการอ้างอิง 1.2.2 ให้หมายเลขตามลำดับอักษรผู้แต่งส่วนบรรณานุกรม (บรรณานุกรม) หมายถึงรายการของทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดที่ผู้ทำรายงานได้ใช้ประกอบการเขียนรายงานทั้งที่ปรากฏชัดเจนโดยเขียนอ้างอิงไว้และส่วนที่ไม่ปรากฏชัดเจนแต่อาจเป็นเพียงการรวบรวมความคิดหลายๆ แนวแล้วนำมาเรียบเรียงใหม่นอกจากนี้การอ้างอิงอีกลักษณะหนึ่งที่ใช้กันได้แก่เชิงอรรถเป็นการนำข้อมูลวางไว้ส่วนล่างของแต่ละหน้าโดยมีเครื่องหมายหรือเลขลำดับที่กำกับเชิงอรรถมักจะใช้กับบทความด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แต่ปัจจุบันนิยมใช้กันน้อยมากอย่างไรก็ตามการจัดทำรายชื่อเอกสารอ้างอิงท้ายเรื่องนั้นมีหลายรูปแบบการเลือกใช้แบบใดขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสถาบันการศึกษาหรือวารสารของแต่ละสถาบัน หลักเกณฑ์การเขียนเอกสารอ้างอิงตามระบบที่ใช้กันหลัก ๆ มีอยู่ 3 รูปแบบได้แก่แบบฮาร์วาร์ดแวนคูเวอร์สไตล์ซึ่งทั้งสองแบบนิยมใช้กันในสาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไปและทางการแพทย์APA Style เป็นแบบที่แนะนำโดย The American Psychological Association ใช้กันมากในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ไม่ว่าจะเป็นบทความวิชาการหรือบทความโดยทั่วไปรายงานผลงานวิจัยหรือสารคดี ผ่านการค้นคว้าอย่างมีเหตุผล จะเรียกว่าเอกสารอ้างอิงซึ่งภาษาอังกฤษใช้อ้างอิงอ้างวรรณกรรม, หรือการอ้างอิงที่อ้างถึงในปัจจุบันมักใช้คำว่าอ้างอิง จะเรียกว่าบรรณานุกรมหรือบรรณานุกรม หมายถึง ซึ่งมี 2 ระบบคือ1.1 ระบบนาม - ปี (ผู้แต่ง - วันที่) เป็นระบบที่มีชื่อผู้แต่ง, ปีที่พิมพ์และเลขหน้าที่อ้างอิงอยู่ภายในวงเล็บดังตัวอย่างการอ้างอิงแบบ APA (ชื่อผู้แต่งปีที่พิมพ์:. เลข หน้าที่อ้างอิง) 1.2 ระบบหมายเลข (ระบบ Number) เป็นระบบที่คล้ายคลึงกับระบบนาม - ปี เช่น มีอยู่ 2 วิธีคือ1.2.1 ให้หมายเลขตามลำดับของการอ้างอิง1.2.2 (บรรณานุกรม) หมายถึง และส่วนที่ไม่ปรากฏชัดเจน ๆ แนว ได้แก่ เชิงอรรถ เครื่องหมายหรือเลขลำดับที่กำกับ แต่ปัจจุบันนิยมใช้กันน้อยมาก มีอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่รูปแบบฮาร์วาร์แวนคูเวอร์สไตล์ สไตล์เป็นแบบที่แนะนำโดยสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน





















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
การเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอ้างอิง

การเขียนบทความไม่ว่าจะเป็นบทความวิชาการหรือบทความโดยทั่วไปรายงานผลงานวิจัยหรือสารคดีต้องมีรายชื่อเอกสารที่นำข้อมูลมาใช้อ้างอิงหรือใช้ประกอบการเขียนแนบท้ายผ่านการค้นคว้าอย่างมีเหตุผลมีสาระที่เชื่อถือได้
เอกสารที่นำมาอ้างจะต้องให้ข้อมูลรายละเอียดชัดเจนเพียงพอที่จะสามารถติดตามค้นหาข้อมูลที่อ้างถึงหรือเกี่ยวข้องได้ถูกต้อง

โดยทั่วไปแล้วเอกสารที่มีการนำข้อมูลมาอ้างอิงในเนื้อเรื่องของบทความหรือรายงานจะเรียกว่าเอกสารอ้างอิงซึ่งภาษาอังกฤษใช้อ้างอิงวรรณคดีอ้าง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: