In 1964, the Sriorathaikul's family

In 1964, the Sriorathaikul's family (Mr. Pornsit and Dr. Shawnee) started Beauty Gems business, which is gem and jewelry manufacturer. It grew from a small business in Cha-roen Krung, Bangkok that gem and jewelry store. On the other hand, it grew quickly by taking advantage of the parallel emergence of Thailand's gem and jewelry industry and another reason was store’s location because in Cha-roen Krung had department stores and hotels that supported many foreign tourists so it was famous quickly and attracted accessories shops’s owner in Japan. In 1973, Beauty Gems business was a pioneer in Thailand's gem and jewelry industry that leading industry in Thailand and opened first manufacturing factory by invest 3 million Thai baht in capital and hiring 300 employees for manufactured and exported diamonds, gem and jewelry. In 1983, Beauty Gems hiring employees increase doubled and had invest went up to 13.5 million Thai baht for designed and manufactured diamonds diversified to meet the increasing demand of all customers. In addition, it developed itself from the trade with retail customers to wholesale jewelry giants company of Japan up to 12 companies and had the orders and manufactured between 1 - 12 million dollars per year. Until in 1990, Beauty Gems became a manufacturer and co-develop products with its customers in 2 brand was Lien d'Amour and Sriora that sold in Japan or simple explain that it set up 2 subsidiaries for providing top quality diamonds to its subsidiary and all customers. Moreover, it started focusing on exported neighbor country's markets another Japan and pioneer America’s market too.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1964 ครอบครัวของพรสิทธิ์ศรีอรทัยกุล (นาย Pornsit และดร.คาริบ) เริ่มธุรกิจอัญมณีบิวตี้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ มันเติบโตมาจากธุรกิจขนาดเล็กในกรุง roen ชะอำ กรุงเทพมหานครที่เก็บอัญมณีและเครื่องประดับ บนมืออื่น ๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยใช้ประโยชน์จากการเกิดคู่ขนานของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทย และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ที่ตั้งของร้านค้าเพราะในกรุง roen ชะอำมีห้างร้านและโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวนมากจึงได้มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว และดึงดูดเจ้าของทางญี่ปุ่น ในปี 1973 ธุรกิจอัญมณีงามเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับที่อุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศไทยและเปิดโรงงานผลิตครั้งแรกโดยลงทุน 3 ล้านบาทไทย และจ้างพนักงาน 300 คนสำหรับการผลิต และส่งออกเพชร อัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทย ในปี 1983 ความสวยงามอัญมณีการว่าจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และมีการลงทุนไปถึง 13.5 ล้านบาทสำหรับเพชรออกแบบ และผลิตที่หลากหลายเพื่อตอบสนองกับความต้องการลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ มันพัฒนาตัวเองจากการค้ากับลูกค้าขายปลีกเครื่องประดับขายส่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นได้ถึง 12 บริษัท และมีใบสั่ง และผลิตระหว่าง 1-12 ล้านเหรียญต่อปี จนในปี 1990 อัญมณีงามกลายเป็น ผู้ผลิต และร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับลูกค้าใน 2 แบรนด์ คือ d'Amour เลียน และ Sriora ที่ขาย ในญี่ปุ่น หรือง่ายอธิบายว่า มันตั้ง 2 บริษัทย่อยให้เพชรคุณภาพสูงสุดกับบริษัทและลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ มันเริ่มเน้นตลาดส่งออกเพื่อนบ้านประเทศญี่ปุ่นอีก และบุกเบิกตลาดของอเมริกาเกินไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1964 ครอบครัวศรีอรทัยกุล (นายพรสิทธิ์และดร. ชอว์) เริ่มต้นธุรกิจบิวตี้เจมส์ซึ่งเป็นอัญมณีและเครื่องประดับผู้ผลิต มันเพิ่มขึ้นจากธุรกิจขนาดเล็กใน Cha-Roen กรุงกรุงเทพมหานครอัญมณีและเครื่องประดับร้าน บนมืออื่น ๆ ที่จะขยายตัวได้อย่างรวดเร็วโดยการใช้ประโยชน์จากการเกิดแบบขนานของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยและอีกเหตุผลหนึ่งที่เป็นที่ตั้งของร้านค้าเพราะใน Cha-Roen กรุงมีห้างสรรพสินค้าและโรงแรมที่ได้รับการสนับสนุนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากดังนั้นมันเป็นที่มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วและดึงดูด เจ้าของร้านขายอุปกรณ์เสริมในประเทศญี่ปุ่น ในปี 1973 ธุรกิจบิวตี้เจมส์เป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยที่ชั้นนำของอุตสาหกรรมในประเทศไทยและเปิดโรงงานผลิตครั้งแรกโดยการลงทุน 3 ล้านบาทไทยในเมืองหลวงและการจ้างงาน 300 คนสำหรับการผลิตและส่งออกเพชรพลอยและเครื่องประดับ ในปี 1983 บิวตี้เจมส์จ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและมีการลงทุนก็ขึ้นไป 13.5 ล้านบาทไทยเพื่อการออกแบบและผลิตเพชรที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาตัวเองจากการค้ากับลูกค้ารายย่อยในการขายส่งเครื่องประดับ บริษัท ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นถึง 12 บริษัท และมีการสั่งซื้อและการผลิตระหว่าง 1-12000000 ดอลลาร์ต่อปี จนกระทั่งในปี 1990 บิวตี้เจมส์กลายเป็นผู้ผลิตและร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีลูกค้าใน 2 แบรนด์คือ Lien d'Amour และ Sriora ที่ขายในญี่ปุ่นหรือง่ายอธิบายว่ามันติดตั้ง 2 บริษัท ย่อยสำหรับการให้บริการเพชรคุณภาพสูงสุดให้กับ บริษัท ย่อยและ บริษัท ทั้งหมด ลูกค้า นอกจากนี้มันเริ่มต้นมุ่งเน้นไปที่ตลาดส่งออกประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่นอื่นและตลาดผู้บุกเบิกอเมริกาเกินไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1964 , ครอบครัวของ sriorathaikul ( นาย pornsit และ ดร. ชอว์ ) เริ่มต้นธุรกิจอัญมณีงาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ มันเติบโตจากธุรกิจเล็กๆ ในชานิตยสารกรุง กรุงเทพฯว่า อัญมณีและเครื่องประดับร้าน บนมืออื่น ๆ มันได้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยประโยชน์ของการขนานของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย และอีกเหตุผลคือร้านที่อยู่ในนิตยสาร เพราะชากรุงมีห้างสรรพสินค้าและโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนเลยที่มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วและดึงดูดเจ้าของร้านเครื่องประดับในญี่ปุ่น ในปี 1973 , ธุรกิจอัญมณีความงามเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมในไทย และเปิดโรงงานผลิตครั้งแรกโดยลงทุน 3 ล้านบาทในเมืองหลวง และจ้างพนักงาน 300 สำหรับผลิตและส่งออกเพชร พลอย และเครื่องประดับ ในปี 1983 , ความงาม อัญมณี การจ้างพนักงานเพิ่มเป็นสองเท่า และได้ลงทุนไปถึง 13.5 ล้านบาทไทย สำหรับการออกแบบและผลิตเพชรที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ จะพัฒนาตัวเองจากการค้ากับลูกค้าขายปลีก ขายส่งเครื่องประดับ บริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นได้ถึง 12 บริษัท และมีคำสั่ง และผลิต ระหว่าง 1 - 12 ล้านดอลลาร์ต่อปี จนในปี 1990 , พลอยสวยเป็นผู้ผลิตและ บริษัท พัฒนาผลิตภัณฑ์กับลูกค้าใน 2 แบรนด์ คือ เลียน และ d'amour sriora ที่ขายในญี่ปุ่น หรือง่าย ๆว่า มันตั้ง 2 บริษัทย่อย เพื่อให้เพชรที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับบริษัทย่อย และลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ยังเริ่มเน้นส่งออกตลาดประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่นอีก และตลาดบุกเบิกของอเมริกาด้วย