The fatty acid content of the extra

The fatty acid content of the extracted oils was measured on the
GC–FID by response factor for each fatty acid, using external
curves, and their amounts were then calculated as mg of fatty acid
per g of oil (mg/g). The results summarised in Table 2 revealed that
the total fatty acid (TFA), DHA and EPA contents of SH and SB oils
were not significantly different (TFA: 795.0 and 794.8 mg/g; DHA:
78.8 and 79.7 mg/g; EPA: 77.6 and 78.0 mg/g, respectively). This
result was expected as the oils extracted from the two samples
(SH and SB) came from the same source (head section) while the
shells contained in the SB sample reduced yield by 20%. The SM
sample was not only a poor source of oil, but the extracted oil contained
significantly less fatty acids than SH and SB (p < 0.01) (TFA:
574.3 mg/g; DHA: 54.2 mg/g; EPA: 56.0 mg/g). Overall, the levels of
PUFAs contained in the SFE extracts of P. borealis by-products were
comparable to the levels found in traditional food sources of x-3
PUFAs (i.e. salmon) and fish oils available on the market which
were extracted using conventional methods (Table 3). The marine
crustacean krill, extracted by SFE has higher levels of both EPA and
DHA and krill meal represents an exceptional source of EPA. Previous
studies of hake and sardine by-products have demonstrated
the potential of this method for generation of a value added product
from a previously discarded waste stream. The yield and PUFA
profiles generated by SFE for P. borealis by-products provide rationale
that this source and method warrant further investigation as a
x-3 fatty acids natural health product with potential for commercialisation.
While the fatty acid composition of EPA and DHA in
krill is superior; 17.4% and 12.4%, respectively (Tou, Jaczynski, &
Chen, 2007), SFE of Northern shrimp by-products is an attractive
strategy as it does not compromise their primary use as food. Furthermore,
by using this technology, the residual biomass is available
for further extraction of additional bioactive materials (i.e.
chitin, polysaccharides).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เนื้อหากรดไขมันของน้ำมันแยกเป็นวัดในGC-FID โดยปัจจัยตอบสนองสำหรับแต่ละกรดไขมัน ใช้ภายนอกเส้นโค้ง และจำนวนของพวกเขาได้แล้วคำนวณเป็นมิลลิกรัมของกรดไขมันต่อกรัมของน้ำมัน (mg/g) ผล summarised ในตารางที่ 2 การเปิดเผยที่กรดไขมันทั้งหมด (TFA) ดีเอชเอและ EPA เนื้อหาของน้ำมันดีและ SBไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (TFA: 795.0 และ 794.8 mg/g ดีเอชเอ:78.8 และ 79.7 mg/g : 77.6 และ 78.0 mg/g ตามลำดับ) นี้ผลคาดว่าเป็นน้ำมันที่สกัดจากตัวอย่างที่สอง(SH และ SB) มาจากแหล่งเดียวกัน (ส่วนใหญ่) ในขณะเปลือกหอยที่มีอยู่ในตัวอย่าง SB ลดผลตอบแทน 20% เอสเอ็มตัวอย่างไม่เพียงแต่เป็นแหล่งที่ดีของน้ำมัน แต่ประกอบด้วยน้ำมันแยกอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่ากรดไขมันดีและ SB (p < 0.01) (TFA:574.3 mg/g ดีเอชเอ: 54.2 mg/g EPA: 56.0 mg/g) โดยรวม ระดับของPUFAs ที่อยู่ในสารสกัด SFE ของ P. เหนือสินค้าพลอยได้เทียบได้กับระดับที่พบในแหล่งอาหารของ x-3PUFAs (เช่นปลาแซลมอน) และน้ำมันปลาที่มีในตลาดซึ่งถูกสกัดโดยใช้วิธีการแบบเดิม (ตาราง 3) ทางทะเลครัสเตเชียนเคย สกัด โดย SFE มี EPA ทั้งระดับสูง และอาหารดีเอชเอและเคยแสดงแหล่งยอดเยี่ยมของ EPA ก่อนหน้านี้มีสาธิตการศึกษาสินค้าพลอย hake และปลาซาร์ดีนผลิตภัณฑ์เพิ่มศักยภาพของวิธีการนี้สำหรับการสร้างค่าจากกระแสข้อมูลเสียก่อนหน้านี้ถูกละทิ้ง ผลผลิตและ PUFAโพรไฟล์ที่สร้างขึ้น โดย SFE สำหรับสินค้าพลอยเหนือ P. ให้เหตุผลที่นี้แหล่งที่มาและวิธีรับประกันเพิ่มเติมตรวจสอบเป็นการผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพกรดไขมัน x 3 มีศักยภาพสำหรับ commercialisationขณะที่องค์ประกอบกรดไขมันของน้ำมันเบนซินและดีเอชเอในเคยได้ 17.4 12.4% และ%ตามลำดับ (Tou, Jaczynski, &เฉิน 2007) สินค้าพลอยกุ้ง SFE ภาคเหนือเป็นที่น่าสนใจกลยุทธ์ที่ทำใช้เป็นอาหารหลัก นอกจากนี้โดยใช้เทคโนโลยีนี้ ชีวมวลเหลืออยู่สำหรับต่อแยกกรรมการกวัสดุเพิ่มเติม (เช่นไคทิน polysaccharides)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนื้อหากรดไขมันของน้ำมันสกัดวัดใน
GC-FID
โดยปัจจัยการตอบสนองสำหรับกรดไขมันแต่ละภายนอกโดยใช้เส้นโค้งและจำนวนเงินของพวกเขาจะถูกคำนวณแล้วเป็นมิลลิกรัมกรดไขมันต่อกรัมของน้ำมัน
(mg / g) ผลที่ได้สรุปไว้ในตารางที่ 2
แสดงให้เห็นว่ากรดไขมันรวม(TFA) ดีเอชเอและเนื้อหา EPA ของ SH และน้ำมัน SB
ไม่แตกต่างกัน (TFA: 795.0 และ 794.8 มิลลิกรัม / g; DHA:
78.8 และ 79.7 มิลลิกรัม / g; EPA: 77.6 และ 78.0 มิลลิกรัม / กรัมตามลำดับ)
ซึ่งผลที่คาดว่าเป็นน้ำมันที่สกัดจากทั้งสองตัวอย่าง
(SH และ SB) มาจากแหล่งเดียวกัน (ส่วนหัว)
ในขณะที่เปลือกหอยที่มีอยู่ในตัวอย่างSB ผลผลิตลดลง 20% เอสเอ็มตัวอย่างไม่เพียง แต่เป็นแหล่งที่ดีของน้ำมัน แต่น้ำมันสกัดที่มีอยู่อย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่ากรดไขมันกว่าSH และ SB (p <0.01) (TFA: 574.3 มก. / g; DHA: 54.2 มก. / g; EPA: 56.0 mg / g) โดยรวม, ระดับของPUFAs ที่มีอยู่ในสารสกัดจาก SFE พีเหนือโดยผลิตภัณฑ์ได้เทียบได้กับระดับที่พบในแหล่งอาหารแบบดั้งเดิมของx-3 PUFAs (เช่นปลาแซลมอน) และน้ำมันปลาที่มีอยู่ในตลาดซึ่งถูกสกัดโดยใช้วิธีการเดิม(ตารางที่ 3) ทะเลเคยกุ้งสกัดโดย SFE มีระดับที่สูงขึ้นของทั้ง EPA และ DHA และกากเคยแสดงให้เห็นถึงแหล่งที่มาที่โดดเด่นของ EPA ก่อนหน้าการศึกษาของเฮคและปลาซาร์ดีนโดยผลิตภัณฑ์ที่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของวิธีการนี้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์จากน้ำเสียทิ้งไปก่อนหน้านี้ ผลผลิตและ PUFA โปรไฟล์ที่สร้างขึ้นโดย SFE สำหรับ borealis พีโดยผลิตภัณฑ์ให้เหตุผลว่าแหล่งที่มานี้และใบสำคัญแสดงสิทธิวิธีการตรวจสอบต่อไปเป็นกรดไขมันx-3 ผลิตภัณฑ์สุขภาพจากธรรมชาติที่มีศักยภาพเพื่อการค้า. ในขณะที่องค์ประกอบของกรดไขมัน EPA และ DHA ในเคยเป็นผู้บังคับบัญชา 17.4% และ 12.4% ตามลำดับ (Tou, Jaczynski และเฉิน2007) SFE กุ้งภาคเหนือโดยผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจคือกลยุทธ์ที่จะไม่ยอมใช้หลักของพวกเขาเป็นอาหาร นอกจากนี้โดยการใช้เทคโนโลยีนี้ชีวมวลที่เหลือสามารถใช้ได้สำหรับการสกัดต่อไปของวัสดุที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพเพิ่มเติม(เช่นไคติน, polysaccharides)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และกรดไขมันของน้ำมันที่สกัดได้บน
GC – FID โดยปัจจัยการตอบสนองของแต่ละกรดไขมัน ใช้เส้นโค้งภายนอก
และปริมาณของพวกเขาแล้วคิดเป็นมิลลิกรัมของกรดไขมัน
/ กรัมของน้ำมัน ( mg / g ) ผลสรุปในตารางที่ 2 พบว่า กรดไขมันรวม (
, กรดไขมัน DHA และ EPA ) เนื้อหาของ SH และ SB ขับ
ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ : 795.0 794.8 มิลลิกรัม / กรัมและ DHA :
;และ อามา 79.7 mg / g ; EPA และ : 77.6 78.0 มก. / กรัม ตามลำดับ ) ผลนี้
คาดว่าเป็นน้ำมันที่สกัดได้จากสองตัวอย่าง
( SH และ SB ) มาจากแหล่งเดียวกัน ( หัวหน้า ) ในขณะที่
หอยที่อยู่ใน SB ตัวอย่างผลผลิตลดลง 20% SM
ตัวอย่างไม่เพียงเป็นแหล่งที่ดีของน้ำมัน แต่น้ำมันที่สกัดได้มีกรดไขมันมากกว่า
น้อยกว่า SH และ SB ( P < 0.01 ) ระดับ :
เธอ .3 mg / g ; DHA : 54.2 mg / g ; EPA : 56.0 mg / g ) โดยรวม ระดับของกรดไขมันที่มีอยู่ในเทคโนโลยี
กาก
สารสกัดจากหน้า borealis ) เทียบเท่ากับระดับที่พบในอาหารแบบดั้งเดิมแหล่งของกรดไขมัน x-3
( เช่น เนื้อปลาแซลมอนและน้ำมันปลาที่มีอยู่ในตลาดซึ่ง
ถูกสกัดโดยใช้วิธีการแบบเดิม ( ตารางที่ 3 ) ทะเล
วาสุเทพ Krill สกัดด้วยเทคโนโลยีที่มีระดับที่สูงขึ้นของทั้ง EPA และ
DHA และกุ้งเคยอาหารเป็นแหล่งที่ยอดเยี่ยมของ EPA ก่อนหน้านี้
การศึกษาแฮกและผลิตภัณฑ์ปลาซาร์ดีนได้แสดงให้เห็นศักยภาพของวิธีนี้

รุ่นของผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าจากขยะก่อนทิ้งลำธาร ผลผลิตและ PUFA
โปรไฟล์ที่สร้างขึ้นโดยเทคโนโลยีสำหรับหน้า borealis โดยให้เหตุผลว่า แหล่งนี้และวิธีการรับประกัน

การสืบสวนเพิ่มเติมเป็นx-3 กรดไขมันธรรมชาติผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีศักยภาพสำหรับการพาณิชย์ .
ในขณะที่องค์ประกอบของกรดไขมัน EPA และ DHA ใน
krill ดีกว่า ; สินค้า % และ 12.4% ตามลำดับ ( โถว jaczynski &
, เฉิน , 2007 ) , เทคโนโลยีของกุ้งเหนือผลิตภัณฑ์เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
มันไม่ประนีประนอม ใช้หลักของพวกเขา เป็นอาหาร นอกจากนี้
โดยการใช้เทคโนโลยีนี้สามารถใช้ได้
ตกค้างสำหรับการสกัดเพิ่มเติมของวัสดุทางชีวภาพเพิ่มเติม ( เช่น
ไคติน , polysaccharides )