Burning Fossil Fuels: burning coal

Burning Fossil Fuels: burning coal to generate electricity, burning oil to power vehicles and aircraft (vehicle emissions), or burning wood in fires used for cooking or to provide heat, etc. changes the state of stored organic carbon from a liquid (e.g. oil) or solid (e.g. coal/wood) into a gas (carbon dioxide) which is released into the atmosphere.
Deforestation: vegetation absorbs carbon dioxide from the atmosphere during the process of photosynthesis, converting this to carbon which is stored within all plants (i.e it is a carbon sink). When vegetation is burned, this organic carbon is released into the atmosphere in the form of carbon dioxide, and in so doing becomes a carbon source rather than a carbon sink.
Decomposing organic matter: landfills, animal waste, sewerage and dams are all human sources of methane. For example, organic matter is trapped behind dam walls where it sinks to the bottom of the dam and decomposes. Bacteria produce methane in the decomposition process, which slowly escapes to the surface and is released into the atmosphere. Landfill gas operations and biodigesters provide a method of mitigation, and not only harness methane that would otherwise be released into the atmosphere, but also provide an alternative source of fuel.
Natural gas extraction: methane escapes during oil and gas extraction (e.g. fracking) operations and is released into the atmosphere.

Nitrous oxide is a potent greenhouse gas that is released primarily by fertilizers used in agriculture and landscaping, but also during the burning of fossil fuels and other organic matter. Atmospheric nitrous oxide levels have risen by roughly 18% since the Industrial Revolution, spiking rapidly towards the end of the 1900’s.

Water Vapor

Water is essential for life, and as it is constantly cycling from one state to another, it is not surprising that it is the most abundant of all the greenhouse gases. However, water vapor not only acts as a greenhouse gas, it also increases as the atmosphere gets warmer and provides climate feedbacks. While humans do not play a large direct role in producing water vapor, other human emissions promote atmospheric warming, which in turn promote evaporation that results in more water vapor in the atmosphere.

Chlorofluorocarbons

Chlorofluorocarbons (CFCs) are long-lasting greenhouse gases that also destroy the ozone layer. CFCs do not occur naturally in the atmosphere – they are synthetic compounds that only originate from human sources, including: aerosols, foaming agents, refrigerants, and other industrial applications.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล: ไหม้ถ่านหินไฟฟ้า น้ำมันเผาไหม้พลังงานยานพาหนะและเครื่องบิน (รถปล่อย), หรือการเผาไม้ในไฟที่ใช้ สำหรับทำอาหาร หรือ การให้ความร้อน ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงสถานะของคาร์บอนอินทรีย์ที่เก็บจากของแข็งหรือของเหลว (เช่นน้ำมัน) (เช่นถ่านหิน/ไม้) เป็นก๊าซ (คาร์บอนไดออกไซด์) ซึ่งถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศตัดไม้ทำลายป่า: พืชดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แสง การแปลงนี้เป็นคาร์บอนซึ่งถูกเก็บไว้ภายในโรงงานทั้งหมด (ตย.เป็นอ่างล้างคาร์บอน) เมื่อเขียนพืช อินทรีย์คาร์บอนนี้ถูกปล่อยสู่บรรยากาศในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วในนั้นทำกลาย เป็นแหล่งคาร์บอนมากกว่าอ่างล้างคาร์บอนย่อยสลายอินทรีย์: ฝังกลบ สัตว์ขยะ การจำกัดของเสีย และเขื่อนเป็นแหล่งมนุษย์ทั้งหมดของมีเทน ตัวอย่างเช่น อินทรีย์ถูกขังอยู่หลังกำแพงเขื่อนที่อ่างด้านล่างของเขื่อน และสลายตัวไป แบคทีเรียผลิตมีเทนในกระบวนการย่อยสลาย ซึ่งหนีไปยังพื้นผิวอย่างช้า ๆ และปล่อยสู่บรรยากาศ ดำเนินงานฝังกลบก๊าซและ biodigesters มีวิธีการบรรเทาสาธารณภัย และไม่เท่า เทียมมีเทนที่มิฉะนั้นจะออกสู่ชั้นบรรยากาศ แต่ยัง มีแหล่งมาอื่นของน้ำมันเชื้อเพลิงแยกก๊าซธรรมชาติ: หนีในระหว่างการดำเนินงาน (เช่น fracking) การสกัดน้ำมันและก๊าซมีเทน และจะถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศไนตรัสออกไซด์เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพที่นำออกใช้ โดยปุ๋ยที่ใช้ในการเกษตรและภูมิทัศน์ แต่นอกจากนี้ ในระหว่างการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลและอื่น ๆ อินทรีย์สำคัญ บรรยากาศไนตรัสออกไซด์ได้เกิดขึ้น โดยประมาณ 18% ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม องศาอย่างรวดเร็วในตอนท้ายของการ 1900ไอน้ำน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต และมันเป็นตลอดเวลาขี่จักรยานจากรัฐหนึ่งไปยังอีก จึงไม่น่าแปลกใจว่า มันเป็นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ไอน้ำไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นก๊าซเรือนกระจก แต่ยังช่วยเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นที่ได้รับ และแสดงผลตอบสนองของภูมิอากาศ ในขณะที่มนุษย์ไม่เล่นมีบทบาทสำคัญโดยตรงในการผลิตไอน้ำ ปล่อยมนุษย์อื่น ๆ ส่งเสริมบรรยากาศร้อน ซึ่งจะส่งเสริมการระเหยที่มีไอน้ำมากขึ้นในบรรยากาศผลChlorofluorocarbons พลังน้ำChlorofluorocarbons พลังน้ำ (CFCs) เป็นก๊าซเรือนกระจกนานที่ยัง ทำลายชั้นโอโซน CFCs เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบรรยากาศ – พวกเขาเป็นสารสังเคราะห์เท่านั้น มาจากแหล่งที่มนุษย์ รวมทั้ง: สเปรย์ โฟมแทน สารทำความเย็น และงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล: การเผาไหม้ถ่านหินเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า, การเผาไหม้น้ำมันพลังงานยานพาหนะและอากาศยาน (ปล่อยมลพิษของรถยนต์) หรือการเผาไหม้ไม้ในไฟที่ใช้สำหรับการปรุงอาหารหรือให้ความร้อน ฯลฯ เปลี่ยนสถานะของสารอินทรีย์คาร์บอนที่เก็บไว้จากของเหลว (เช่นน้ำมัน ) หรือของแข็ง (เช่นถ่านหิน / ไม้) เป็นก๊าซ (คาร์บอนไดออกไซด์) ซึ่งจะถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ.
ตัดไม้ทำลายป่า: พืชดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศในระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แปลงนี้เพื่อคาร์บอนที่ถูกเก็บไว้ภายในโรงงานทั้งหมด (เช่น มันเป็นคาร์บอน) เมื่อพืชถูกเผานี้อินทรีย์คาร์บอนจะถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศในรูปแบบของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และในการทำเช่นนั้นจะกลายเป็นแหล่งคาร์บอนมากกว่าอ่างคาร์บอน.
ย่อยสลายสารอินทรีย์: หลุมฝังกลบของเสียจากสัตว์, การระบายน้ำทิ้งและเขื่อนเป็นแหล่งของมนุษย์ ของก๊าซมีเทน ยกตัวอย่างเช่นสารอินทรีย์ที่ถูกขังอยู่หลังกำแพงเขื่อนที่มันจมไปด้านล่างของเขื่อนและสลาย แบคทีเรียผลิตก๊าซมีเทนในกระบวนการย่อยสลายซึ่งช้าหนีไปพื้นผิวและจะถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศ การดำเนินงานของก๊าซฝังกลบและ biodigesters ให้วิธีการในการบรรเทาผลกระทบและไม่เพียง แต่ใช้ประโยชน์จากก๊าซมีเทนที่มิฉะนั้นจะถูกปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ แต่ยังให้เป็นแหล่งทางเลือกของน้ำมันเชื้อเพลิง.
สกัดก๊าซธรรมชาติก๊าซมีเทนหนีระหว่างน้ำมันและก๊าซ (เช่น fracking) การดำเนินงาน และจะถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ.

ก๊าซไนตรัสออกไซด์เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพที่จะถูกปล่อยออกหลักจากการใช้ปุ๋ยที่ใช้ในการเกษตรและการจัดสวน แต่ยังระหว่างการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลและสารอินทรีย์อื่น ๆ บรรยากาศระดับก๊าซไนตรัสออกไซด์ได้เกิดขึ้นโดยประมาณ 18% นับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมองศาอย่างรวดเร็วในช่วงปลายปี 1900 ที่.

ไอน้ำ

น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตและเป็นมันอยู่ตลอดเวลาขี่จักรยานจากรัฐหนึ่งไปยังอีกก็ไม่น่าแปลกใจว่ามัน เป็นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของทั้งหมดก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตามไอน้ำไม่เพียง แต่ทำหน้าที่เป็นก๊าซเรือนกระจกก็ยังเพิ่มขึ้นเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นที่ได้รับการตอบรับและให้สภาพภูมิอากาศ ในขณะที่มนุษย์ไม่ได้มีบทบาทโดยตรงที่มีขนาดใหญ่ในการผลิตไอน้ำปล่อยก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ของมนุษย์ส่งเสริมภาวะโลกร้อนในชั้นบรรยากาศซึ่งจะส่งเสริมการระเหยที่ส่งผลให้ไอน้ำมากขึ้นในชั้นบรรยากาศ.

Chlorofluorocarbons

Chlorofluorocarbons (CFCs) เป็นก๊าซเรือนกระจกที่ติดทนนานที่ยังทำลาย ชั้นโอโซน CFCs ไม่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบรรยากาศ - พวกเขาเป็นสารสังเคราะห์ที่เพียงมาจากแหล่งที่มาของมนุษย์รวมไปถึง: ละอองตัวแทนฟองทำความเย็นและงานอุตสาหกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล : การเผาไหม้ถ่านหินเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า การเผาน้ำมันเพื่อยานพาหนะไฟฟ้าและเครื่องบิน ( ปล่อยรถ ) , หรือไม้การเผาไหม้ในไฟ ใช้ปรุงอาหารหรือให้ความร้อน ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงสภาพการเก็บรักษาของอินทรีย์คาร์บอนจากของเหลว ( เช่นน้ำมัน ) หรือของแข็ง ( เช่นถ่านหินไม้ ) เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ) ซึ่งถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศการทำลายป่า : พืชดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศในระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แสง แปลงนี้คาร์บอนซึ่งถูกเก็บไว้ภายในโรงงานทั้งหมด ( คือมันเป็นกักคาร์บอน ) เมื่อพืชเป็นเผา คาร์บอนอินทรีย์นี้ถูกปล่อยสู่บรรยากาศในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้กลายเป็นแหล่งคาร์บอนมากกว่าคาร์บอนซิงค์ย่อยสลายอินทรีย์ : หลุมฝังกลบของเสียสัตว์ ระบายน้ำและเขื่อนเป็นแหล่งมนุษย์ของมีเทน ตัวอย่างเช่น อินทรียวัตถุติดอยู่หลังเขื่อน กำแพงที่จมไปด้านล่างของเขื่อน และสลายตัว . แบคทีเรียที่ผลิตก๊าซมีเทนในกระบวนการย่อยสลาย ซึ่งค่อยๆหลบหนีไปยังพื้นผิวและถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศ ก๊าซและการดำเนินงาน biodigesters ให้วิธีบรรเทา และไม่เพียง แต่ควบคุมก๊าซมีเทนที่มิฉะนั้นจะถูกปล่อยสู่บรรยากาศ แต่ยังให้แหล่งทางเลือกของพลังงานการสกัดก๊าซธรรมชาติ : มีเทนหลบหนีในระหว่างการสกัดน้ำมันและแก๊ส ( เช่น fracking ) การดำเนินงานและถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศไนตรัสออกไซด์เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพที่ออกมาเป็นหลัก โดยปุ๋ยที่ใช้ในการเกษตร และภูมิทัศน์ แต่ยังในระหว่างการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล และสารอินทรีย์อื่นๆ บรรยากาศก๊าซไนตรัสออกไซด์ระดับได้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 18 ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนท้ายของ 1900 .ไอน้ำน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต และขณะที่มันเป็นอย่างต่อเนื่องจักรยานจากรัฐหนึ่งไปยังอีก มันไม่น่าแปลกใจว่ามันชุกชุมมากที่สุดของก๊าซทั้งหมดที่เรือนกระจก แต่ไอน้ำไม่เพียง แต่ทำหน้าที่เป็นก๊าซเรือนกระจก มันยังเพิ่มเป็นบรรยากาศที่อุ่นขึ้น และมีการตอบสนองที่สภาพอากาศ ในขณะที่มนุษย์ไม่ได้มีบทบาทโดยตรงขนาดใหญ่ในการผลิตไอน้ำ การปล่อยมนุษย์อื่น ๆส่งเสริมบรรยากาศอบอุ่น ซึ่งจะส่งเสริมการระเหยที่ผลลัพธ์เพิ่มเติมไอน้ำในบรรยากาศคลอโรฟลูออโรคาร์บอนคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ( CFCs ) ยาวนาน ก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายชั้นโอโซน ยังไม่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบรรยากาศ–พวกเขาเป็นสารสังเคราะห์ที่มาจากแหล่งที่มาของมนุษย์ ได้แก่ สเปรย์โฟม , ตัวแทน , สารทำความเย็นและอุตสาหกรรมอื่น ๆ