Almost all car makers around the wo

Almost all car makers around the world are responding to this issue and have begin their research to reduce the risk of climate change. The steps that the car manufacturers have to take to deal with this situation are to reduce the amount of CO2 emissions and waste produced by both of their manufacturing factories and vehicle by implementing new measures in their factories and by looking at using renewable fuels that produce cleaner emission. Another step could be to start producing more hybrid (petrol/electric) vehicles which consume less petrol and produce very small amount of CO2 emission. Leader car makers such as Toyota, Ford, and General Motors have developed technologies that are more environmental friendly. Toyota, as the market leader in the world, show that they are after a new car with economy fuel consumption and low CO2 with their new hybrid synergy drive program and have released an electric powered car such as Toyota Prius which use electric power that does not use petrol when running in a low speed or running out of petrol. This technology, clearly a result because of the climate change issue and they are answering to this global problem. On the other hand, the USA-based car manufacturer Ford also has been on its process in reducing the CO2 emission produced from their factories. From a report by Ford, it is a fact that since 2000, they have the cut the emission of CO2 from their operations by 15% and have benefited from the energy cost savings that go with it. Other manufacturer such as BMW have developed their own technologies in response to this issue by developing a car that only consume hydrogen and emit water vapor as the emission.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รถเกือบทุกผู้ผลิตทั่วโลกตอบสนองต่อปัญหานี้ และได้เริ่มการวิจัยเพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขั้นตอนที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องใช้เวลาในการจัดการกับสถานการณ์นี้ จะลดจำนวนการปล่อยก๊าซ CO2 และเสียผลิตโดยทั้งของโรงงานผลิตรถ โดยใช้มาตรการใหม่ในโรงงานของตน และ โดยใช้เชื้อเพลิงทดแทนที่ผลิตมลพิษทำความสะอาด ขั้นตอนอื่นจะสามารถ เริ่มการผลิตรถยนต์ไฮบริด (น้ำมัน/ไฟฟ้า) มากกว่าที่กินน้ำมันน้อยลง และผลิตมากน้อยของการปล่อยก๊าซ CO2 ผู้นำผู้ผลิตรถยนต์ เช่นโตโยต้า ฟอร์ด เจนเนอรัลมอเตอร์ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โตโยต้า เป็นผู้นำตลาดในโลก แสดงว่า มีรถใหม่ ด้วยเศรษฐกิจปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและ CO2 ต่ำกับโปรแกรมของพวกเขาไดรฟ์ synergy ไฮบริดที่ใหม่ และได้นำออกใช้เป็นรถขับเคลื่อนไฟฟ้าเช่นโตโยต้า Prius ที่ใช้ไฟฟ้าไม่ใช้น้ำมันเมื่อใช้ความเร็วต่ำ หรือทำงานออกจากน้ำมัน เทคโนโลยี ชัดเจนผลเนื่องจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงปัญหา และมีการตอบปัญหาระดับโลกนี้ บนมืออื่น ๆ ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกาฟอร์ดยังได้ของกระบวนการในการลดการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ผลิตจากโรงงานของตน จากรายงานโดยฟอร์ด มันเป็นความจริงที่ว่า ตั้งแต่ 2000 มีการตัดปล่อยก๊าซของ CO2 จากการดำเนินงาน 15% และได้รับประโยชน์จากพลังงานต้นทุนประหยัดที่ไปกับมัน ผู้ผลิตอื่น ๆ เช่น BMW ได้พัฒนาเทคโนโลยีของตนเองในการตอบสนองต่อปัญหานี้ โดยการพัฒนารถยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจน และคายไอน้ำเป็นการปล่อยก๊าซเท่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกือบทุกผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกมีการตอบสนองต่อปัญหานี้และได้เริ่มต้นการวิจัยของพวกเขาเพื่อลดความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขั้นตอนที่ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องใช้เวลาในการจัดการกับสถานการณ์นี้เพื่อลดปริมาณการปล่อย CO2 และของเสียที่ผลิตโดยทั้งสองโรงงานผลิตของพวกเขาและยานพาหนะโดยการใช้มาตรการใหม่ในโรงงานของพวกเขาและโดยดูที่การใช้เชื้อเพลิงทดแทนที่ผลิตที่สะอาด ปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกก้าวหนึ่งอาจจะเป็นที่จะเริ่มต้นการผลิตไฮบริดมากขึ้น (น้ำมัน / ไฟฟ้า) ยานพาหนะท​​ี่ใช้น้ำมันน้อยลงและผลิตจำนวนน้อยมากของการปล่อยก๊าซ CO2 ผู้นำผู้ผลิตรถยนต์เช่นโตโยต้าฟอร์ดและ บริษัท General Motors ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โตโยต้าเป็นผู้นำตลาดในโลกแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความหลังรถใหม่ที่มีการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเศรษฐกิจและ CO2 ต่ำกับโปรแกรมไดรฟ์การทำงานร่วมกันของพวกเขาใหม่ไฮบริดและมีการปล่อยพลังงานไฟฟ้ารถยนต์เช่นโตโยต้าพรีอุสที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ ใช้น้ำมันเมื่อใช้งานในความเร็วต่ำหรือวิ่งออกมาจากน้ำมัน เทคโนโลยีนี้อย่างเห็นได้ชัดเพราะผลของปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและพวกเขาจะตอบในการแก้ไขปัญหาระดับโลกครั้งนี้ ในทางกลับกันผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐอเมริกาตามฟอร์ดยังได้รับเกี่ยวกับกระบวนการในการลดการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ผลิตจากโรงงานของพวกเขา จากรายงานโดยฟอร์ดมันเป็นความจริงที่ว่าตั้งแต่ปี 2000 ที่พวกเขามีการตัดการปล่อย CO2 จากการดำเนินงานของพวกเขาโดย 15% และได้รับประโยชน์จากการประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานที่ไปกับมัน ผู้ผลิตอื่น ๆ เช่น BMW ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองในการตอบสนองต่อปัญหานี้โดยการพัฒนารถที่ใช้เพียงไฮโดรเจนและปล่อยไอน้ำการปล่อยก๊าซ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกือบทั้งหมดที่ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกจะตอบสนองต่อปัญหานี้ และได้เริ่มการวิจัยเพื่อลดความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขั้นตอนที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องใช้เพื่อจัดการกับสถานการณ์นี้ เพื่อลดปริมาณการปล่อย CO2 และของเสียที่ผลิตโดยทั้งสองโรงงานผลิตของพวกเขาและยานพาหนะ โดยการใช้มาตรการใหม่ในโรงงานของพวกเขาและโดยดูที่การใช้เชื้อเพลิงทดแทนที่ผลิตออกมาทำความสะอาดอีกก้าวอาจจะเริ่มการผลิตไฮบริด ( น้ำมัน / ไฟฟ้า ) ยานพาหนะที่ใช้น้ำมันน้อยลง และผลิตได้จำนวนน้อยมากของการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ หัวหน้าผู้ผลิตรถยนต์ เช่น โตโยต้า ฟอร์ด และเจเนอรัล มอเตอร์ ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในฐานะผู้นำตลาด ใน โลกแสดงให้เห็นว่าพวกเขาหลังจากที่รถใหม่กับการใช้เชื้อเพลิงเศรษฐกิจต่ำ CO2 ด้วยโปรแกรม Synergy ไดรฟ์ใหม่ไฮบริดและปล่อยไฟฟ้าขับเคลื่อนรถยนต์ เช่น โตโยต้า พรีอุส ซึ่งใช้ไฟฟ้าไม่ใช้น้ำมันเมื่อวิ่งในความเร็วต่ำ หรือน้ำมันหมด เทคโนโลยีนี้ชัดเจนว่าเป็นผลเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนออกและพวกเขาจะตอบปัญหาของโลกนี้ บนมืออื่น ๆที่ผู้ผลิตรถยนต์จากอเมริกา ฟอร์ด ยังมีกระบวนการในการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผลิตจากโรงงานของตน จากรายงาน โดย ฟอร์ด แต่ในความเป็นจริง ตั้งแต่ปี 2000พวกเขาตัดการปล่อย CO2 จากการดําเนินงานของพวกเขาโดย 15 % และได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนพลังงานที่ไปกับมัน ผู้ผลิตอื่น ๆเช่น BMW ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองในการตอบสนองต่อปัญหานี้โดยการพัฒนารถยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจน และปล่อยไอน้ำเป็นค่า