Ginkgo is sometimes called a living

Ginkgo is sometimes called a living fossil because there are no other members of its species and its age and uniqueness set it apart from other plants. It might owe its survival to the fact that it tolerates drought as well as pollution. Some trees are believed to be 2500 years old. Fossils from the Jurassic Period have been found.

The tree is hardy to zone 4 but grows slowly. Both male and female plants are required in order to produce seed, but the fruit (on the female plant) smells like rancid butter so female trees are seldom used for ornamental purposes.

In Chinese medicine, it was primarily the cooked seed that was used, but recent studies of the leaves suggest that they, too, have considerable medicinal benefits, including promoting circulation, especially to the brain. It is also used to treat tinnitus where the presumed cause is free radical damage or impaired circulation. The leaf contains a compound unknown in any other plant, ginkgolides. These have anti-allergenic actions that make ginkgo suitable for use in treating asthma.

The most popular uses of ginkgo leaf today are for conditions related "cerebral insufficiency" characterized by loss of memory, dizziness, confusion, and anxiety.(1) Traditionally, it is used for many of the diseases common to elderly persons, such as deafness, macular degeneration, diabetic retinopathy, memory loss, and vertigo. However, due to the success in protecting workers at the Chernobyl nuclear disaster site, it is being studied more and more for its radioprotective properties.

My interest in ginkgo began in 1962 when visiting Hiroshima and learning that six trees within 1-2 kilometers of the atomic bomb blast survived.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แปะก๊วยบางครั้งจะเรียกว่าซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตเนื่องจากมีไม่มีสมาชิกของพันธุ์ และอายุความเอกลักษณ์ตั้งจากพืชอื่น ๆ มันอาจเป็นหนี้ตนอยู่รอดในความเป็นจริงที่ว่า tolerates ภัยแล้งรวมทั้งมลพิษ ต้นไม้บางอย่างเชื่อว่ามีอายุ 2500 ปี พบซากดึกดำบรรพ์จากรอบระยะเวลาจูราสสิแผนภูมิเป็นฝรั่งโซน 4 แต่เติบโตช้า จำเป็นเพื่อผลิตเมล็ดพืชทั้งชาย และหญิง แต่ผลไม้ (ในหญิงไม้มีกลิ่นคล้ายเนย rancid จึงค่อยใช้หญิงต้นไม้สำหรับประดับในแพทย์แผนจีน มันเป็นเมล็ดที่สุกที่ใช้ แต่การศึกษาล่าสุดของใบแนะนำที่ พวกเขา เกินไป มีมากประโยชน์ยา รวมทั้งการส่งเสริมการไหลเวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสมอง นอกจากนี้มันยังถูกใช้เพื่อรักษาเครียดที่สาเหตุ presumed เป็นอนุมูลอิสระความเสียหาย หรือความบกพร่องทางด้านการหมุนเวียน ใบประกอบด้วยไม่รู้จักผสมใด ๆ อื่น ๆ โรงงาน ginkgolides เหล่านี้มีการดำเนินการป้องกันแพ้แปะก๊วยทำให้เหมาะสำหรับใช้ในการรักษาโรคหอบหืดใช้ใบแปะก๊วยนิยมมากที่สุดวันนี้ได้สำหรับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง "สมองไม่เพียงพอ" โดยสูญเสีย ความจำ มึน สับสน ความวิตกกังวล (1) แบบดั้งเดิม ใช้สำหรับหลายโรคผู้สูงอายุ หูหนวก เสื่อม macular โรคเบาหวาน สูญเสียหน่วยความจำ และอาการรู้สึกหมุนไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความสำเร็จในการปกป้องผู้ปฏิบัติงานที่ไซต์ภัยพิบัตินิวเคลียร์โรง มันจะถูกศึกษามากสำหรับคุณสมบัติ radioprotectiveฉันสนใจในแปะก๊วยเริ่มขึ้นในปี 1962 เมื่อฮิโรชิมาเยี่ยมชม และเรียนรู้ที่ 6 ต้นไม้ภายใน 1-2 กิโลเมตรจากการระเบิดของระเบิดปรมาณูที่รอดชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แปะก๊วยบางครั้งเรียกว่าฟอสซิลที่มีชีวิตอยู่เพราะไม่มีสมาชิกคนอื่น ๆ ของสายพันธุ์และอายุของมันและความเป็นเอกลักษณ์ของชุดมันนอกเหนือจากพืชอื่น ๆ มันอาจจะเป็นหนี้อยู่รอดกับความจริงที่ว่ามันทนแล้งเช่นเดียวกับมลพิษ ต้นไม้บางคนมีความเชื่อว่าจะเป็นปี 2500 ฟอสซิลจากจูราสสิระยะเวลาที่ได้รับพบ. ต้นไม้เป็นบึกบึนโซน 4 แต่เติบโตช้า ทั้งพืชชายและหญิงจะต้องเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ แต่ผลไม้ (บนพืชหญิง) มีกลิ่นเหมือนเนยหืนต้นไม้หญิงมากจะไม่ค่อยใช้เพื่อวัตถุประสงค์ประดับ. ในยาจีนก็เป็นหลักเมล็ดสุกที่ถูกนำมาใช้ แต่การศึกษาล่าสุดของใบแสดงให้เห็นว่าพวกเขาก็มีประโยชน์ทางยามากรวมทั้งส่งเสริมการไหลเวียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งไปยังสมอง นอกจากนี้ยังใช้ในการรักษาหูอื้อสาเหตุที่สันนิษฐานว่าเป็นความเสียหายอนุมูลอิสระหรือการไหลเวียนของการด้อยค่า ใบมีสารประกอบที่ไม่รู้จักในโรงงานอื่น ๆ ginkgolides เหล่านี้มีการดำเนินการป้องกันภูมิแพ้ที่ทำให้แปะก๊วยเหมาะสำหรับการใช้ในการรักษาโรคหอบหืด. ใช้ความนิยมมากที่สุดของใบแปะก๊วยในวันนี้สำหรับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับ "ความไม่พอเพียงสมอง" ที่โดดเด่นด้วยการสูญเสียของหน่วยความจำ, วิงเวียนสับสนและความวิตกกังวล. (1) เดิม มันถูกใช้สำหรับหลายโรคร่วมกันเพื่อผู้สูงอายุเช่นหูหนวก, จอประสาทตาเสื่อม, เบาหวาน, การสูญเสียความจำและวิงเวียน แต่เนื่องจากความสำเร็จในการปกป้องคนงานในเว็บไซต์ภัยพิบัตินิวเคลียร์เชอร์โนบิลก็มีการศึกษามากขึ้นและมากขึ้นสำหรับคุณสมบัติของ radioprotective. ความสนใจของผมในแปะก๊วยเริ่มในปี 1962 เมื่อไปเยือนฮิโรชิมาและการเรียนรู้ที่หกต้นไม้ภายใน 1-2 กิโลเมตรของ ระเบิดอะตอมรอดชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แปะก๊วยบางครั้งเรียกว่าชีวิตฟอสซิล เพราะไม่มีสมาชิกอื่น ๆของชนิดของมันและอายุ และไม่กำหนดมันนอกเหนือจากพืชอื่น ๆ มันอาจเป็นหนี้การอยู่รอดของความจริงที่ว่ามันอดทนกับความแห้งแล้ง รวมทั้งมลพิษ ต้นไม้บางต้นเชื่อว่าเป็น 2500 ปี ซากฟอสซิลจากยุคจูราสสิค ได้พบ .

ต้นไม้ Hardy โซน 4 แต่เติบโตช้าพืชทั้งชายและหญิงจะต้องเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ แต่ผลไม้บนต้นตัวเมีย ) มีกลิ่นเนยเน่า ดังนั้นต้นไม้หญิง มักใช้เพื่อวัตถุประสงค์ประดับ

ในยาแผนจีน มันเป็นเมล็ดที่สุกที่เคยใช้ แต่การศึกษาล่าสุดของใบแนะนำให้พวกเขาด้วย มีสรรพคุณเป็นยาค่อนข้างมาก รวมทั้งการส่งเสริมการโดยเฉพาะสมอง มันยังใช้เพื่อรักษาแพทย์เฉพาะทางที่สันนิษฐานว่าสาเหตุของความเสียหายอนุมูลอิสระ หรือบกพร่อง ฯลฯ ใบมีสารประกอบที่ไม่รู้จักใด ๆอื่น ๆของพืช กิงโกลาย . เหล่านี้มีการกระทำที่ต่อต้านภูมิแพ้ให้แปะก๊วยเหมาะสำหรับใช้ในการรักษาโรคหืด .

ประโยชน์ของใบแปะก๊วยเป็นที่นิยมมากที่สุดวันนี้สำหรับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง " สมองไม่เพียงพอ " ลักษณะการสูญเสียความทรงจำ วิงเวียน สับสน และกังวล ( 1 ) ดั้งเดิม มันถูกใช้สำหรับหลายของโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เช่น หูหนวกจอประสาทตาเสื่อม โรคเบาหวาน retinopathy , การสูญเสียความทรงจำและพิศวาส . อย่างไรก็ตามเนื่องจากความสำเร็จในการปกป้องแรงงานที่ภัยพิบัตินิวเคลียร์เชอร์โนบิล เว็บไซต์ เป็นการศึกษาเพิ่มเติม และเพิ่มเติมคุณสมบัติของ radioprotective

สนใจก๊วยเริ่มในปี ค.ศ. 1962 เมื่อเข้าสู่ฮิโรชิม่าและการเรียนรู้ที่ 6 ต้นไม้ภายใน 1-2 กิโลเมตรของระเบิดอะตอมรอด