sequent parities (–0.144 and –0.145

sequent parities (–0.144 and –0.145  liveborn piglets/
mm). Therefore, sows with 10 mm additional backfat had
almost 1.5 less liveborn piglets in the first two parities.
Backfat thickness did not influence lifetime productivity
(P-value = 0.6981). Our results confirmed poor relationship
between backfat thickness and lifetime productivity
reported by Rozeboom et al. (1996) and Williams et al.
(2005). Sows with 10 mm thicker backfat farrowed more
litters (0.41 in average) in lifetime and were culled 50
days later, but sow efficiency was not affected by backfat
depth.
Reproductive productivity and sow efficiency was
the highest for owner 2 (Table 2). According to smaller
number of litters in lifetime (–0.88) and age at culling,
owner 1 culled sows earlier. Owner 2 had the lowest cost
per piglet (–1.63 days and –0.8 days). Hybrids had larger
litters, farrowed 0.54 litters more in average and had fewer
days per piglet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

sequent parities (–0.144 และ –0.145 liveborn ทรูด /mm) . ดังนั้น มี sows กับ 10 มม.เพิ่มเติม backfatเกือบ 1.5 น้อย liveborn ทรูดใน parities 2ความหนา Backfat ไม่ได้มีอิทธิพลต่อผลผลิตอายุการใช้งาน(ค่า P = 0.6981) ผลของเรายืนยันความสัมพันธ์ที่ดีbackfat ความหนาและอายุการใช้งานประสิทธิภาพรายงาน โดย Rozeboom et al. (1996) และวิลเลียมส์ et al(2005) . farrowed sows กับ backfat หนา 10 มม.ขึ้นไปlitters (0.41 ในค่าเฉลี่ย) ในชีวิต และมี culled 50วันต่อมา แต่เสาไม่ได้ได้รับผลกระทบประสิทธิภาพ โดย backfatความลึกมีประสิทธิภาพประสิทธิผลและเสาการสืบพันธุ์สูงสุดสำหรับเจ้า 2 (ตารางที่ 2) ตามขนาดเล็กจำนวน litters ในชีวิต (–0.88) และอายุที่ cullingเจ้าของ 1 culled sows ก่อนหน้านี้ เจ้าของ 2 มีต้นทุนต่ำต่อลูกสุกร (วัน –1.63 และ –0.8 วัน) ลูกผสมมีขนาดใหญ่litters, farrowed litters 0.54 มากในค่าเฉลี่ย และมีน้อยวันต่อลูกสุกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

parities ลำดับ (-0.144 และ -0.145 ลูกสุกร liveborn /
มิลลิเมตร) ดังนั้นแม่สุกรที่มี 10 มมไขมันเพิ่มเติมได้
เกือบ 1.5 ลูกสุกร liveborn น้อยในสองครั้งแรก parities.
ความหนาของไขมันสันหลังไม่ได้มีผลต่อการผลิตอายุการใช้งาน
(P-value = 0.6981) ผลของเราได้รับการยืนยันความสัมพันธ์ที่ไม่ดี
ระหว่างความหนาของไขมันและการผลิตอายุการใช้งาน
ที่รายงานโดย Rozeboom et al, (1996) และวิลเลียมส์ et al.
(2005) แม่สุกรที่มี 10 มมหนาไขมันสันหลัง farrowed เพิ่มเติม
ลูกครอก (0.41 เฉลี่ย) ในชีวิตและได้รับการคัดมา 50
วันต่อมา แต่ประสิทธิภาพหว่านไม่ได้รับผลกระทบจากไขมัน
ลึก.
การผลิตและประสิทธิภาพการสืบพันธุ์หว่านเป็น
สูงสุด 2 เจ้าของ (ตารางที่ 2) ตามที่มีขนาดเล็ก
จำนวนลูกครอกในชีวิต (-0.88) และอายุที่เลือกสรร,
เจ้าของ 1 คัดแม่สุกรก่อนหน้านี้ เจ้าของ 2 มีค่าใช้จ่ายต่ำสุด
ต่อลูกสุกร (-1.63 วันและวันที่ -0.8) ลูกผสมมีขนาดใหญ่
ลูกครอก, farrowed 0.54 ลูกครอกมากขึ้นในการเฉลี่ยและมีน้อยกว่า
วันต่อลูกสุกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามลำดับ ( 0.144 parities –– 0.145 ไหมเกิดมีชีวิตจําแนกและสุกร /
มิลลิเมตร ) ดังนั้น แม่สุกร 10 mm เพิ่มเติมกันได้รึเปล่า
ลูกหมูเกือบ 1.5 เกิดมีชีวิตจําแนกน้อยกว่าสอง parities ก่อน ความหนาไขมันสันหลังไม่มีผลต่ออายุการใช้งานเพิ่มผลผลิต

( p-value = 0.6981 ) ผลของเรายืนยันความสัมพันธ์ระหว่างความหนาไขมันสันหลังและน่าสงสาร

อายุการผลิต รายงานโดย rozeboom et al . ( 2539 ) และวิลเลียม et al .
( 2005 ) แม่สุกร 10 มม. หนาไขมันสันหลังเหรอ farrowed ซากมากขึ้น
( 0.41 โดยเฉลี่ย ) ในชีวิตและถูกคัดออกหมด 50
วันหลังหว่าน ประสิทธิภาพ แต่ไม่มีผลต่อความลึกกัน
.
ประสิทธิภาพการสืบพันธุ์และประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับเจ้าของหว่านคือ
2 ( โต๊ะไหม 2 ) ตามเบอร์เล็กกว่า
ของซากในชีวิต ( ( 0.88 ) และอายุที่คัดเลือกสุกร 1
, เจ้าของก่อนหน้านี้ เจ้าของ 2
ต้นทุนต่ำสุดต่อลูกหมู ( – 1.63 ไหมวัน– 0.8 ไหมวัน ) ลูกผสมมีซากขนาดใหญ่
, farrowed 0.54 litters ในเฉลี่ย และมีวันน้อยลง
ต่อลูกสุกร