resident Park was born to a farming

resident Park was born to a farming family which was synonym of poverty in Korea in the past as the farmers had always been the target of extortion and exploitation by the monarchs and their vassals as well as wealthy merchants. Following the liberation of Korea from the Japanese colonial rule of 36 years in 1945, the situation did not improve very much as they were continuously taken advantage of by the corrupt high officials of the government and the business tycoons, many of whom had close ties of corrupt conglutination and collaboration for personal gains and interests.

The first-term President Syngman Rhee was one of the prominent Korean independence fighters who worked for the Korean independence operating mostly in the United States. Following his inauguration in Korea as the first-term President of the Republic of Korea (ROK) in 1948, Rhee tried to run the country as he had learned democracy in the US, but he was advanced in age and this was taken advantage of by the corrupt politicians in the ruling camp (Liberal Party) and business tycoons. Love was lost between Rhee and the common people and at length students rose up in a revolution on April 19, 1960, which toppled the Liberal Party government of President Rhee. Rhee left Korean and lived in Hawaii in exile.

Korea was obviously not ready for a full democracy. The next government that came in the wake of Rhee’s fall led by Prime Minister John M. Chang (from the opposition Democratic Party), did not fare well either because of the people wanting to secure everything by hitting the street and demonstrating in demand for what they wanted.

North Korea had, as always, been looking for a chance to re-invade the South which the Communists had ruled for three months during the Korean War (1950-3). Concerned with this situation, the then Maj. Gen. Park Chung-Hee caused a military revolution (coup d’etat) and took over the control of the government on May 16, 1960.

This development of situation was not very pleasant to the US that wanted to see a democratic government in Korea. Naturally, the relationship between the US of the then President John F. Kennedy and the ROK of President Park Chung-Hee became strained.

By virtue of repeated Five-year Economic Development Plans and people’s self-improvement movements such as Saemaeul Undong (New Community Movement) under President Park, the Korean economy grew at a ‘miraculously’ rapid pace with the per-capita GNI (general national income) of the people jumping from mere US$67 (in 1960 when the coup occurred) to US$1,693 (in 1979 when President Park died), which represented more than a 25-fold increase in 19 years. Because of this, President Park enjoyed a very strong popularity among the Korean people although some young people had reservations due to the restriction of basic rights of the people, especially against the opposition politicians and unionized workers.

Park thus succeeded in attaining his first goal (eradication of poverty from the people and a self-supporting economy), but his second goal (a self-reliant national defense) was hard to achieve.

To make the matter worse, South Vietnam fell to North Vietnam and Viet Cong, and the US Forces withdrew from Vietnam altogether. This situation struck fear into the people in South Korea while it was a strong encouragement for the North Korean regime. There also was much talk about the US’ withdrawing of its armed forces also from Korea during the Democratic Party government of President Jimmy Carter who pursued a ‘human rights’ policy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สวนประจำเกิดครอบครัวทำนาซึ่งมีคำความยากจนในประเทศเกาหลีในอดีตเกษตรกรจะได้รับเป้าหมายฐานกรรโชกทรัพย์และแสวงหาประโยชน์ โดยพระมหากษัตริย์ และผู้ vassals ตลอดจนพ่อค้าที่มั่งคั่ง ต่อการปลดปล่อยเกาหลีจากกฎอาณานิคมญี่ปุ่น 36 ปีในปีค.ศ. 1945 สถานการณ์ที่ยังไม่พัฒนามากมากอย่างต่อเนื่องที่ถ่ายเอาเปรียบ โดยเจ้าหน้าที่สูงเสียหายรัฐบาลและ tycoons ธุรกิจ มากมายที่มีความสัมพันธ์ปิด conglutination เสียหายและทำงานร่วมกันสำหรับกำไรส่วนบุคคลและประโยชน์ในระยะแรกประธานาธิบดี Syngman Rhee เป็นหนึ่งในนักรบเอกราชเกาหลีเด่นที่ทำงานเป็นอิสระเกาหลีส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ต่อนอกของเขาในเกาหลีเป็นประธานในระยะแรกของการสาธารณรัฐของเกาหลี (รอก) ในค.ศ. 1948, Rhee พยายามรันประเทศเขาได้เรียนรู้ประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกา แต่เขาถูกขั้นสูงในยุคนี้ถูกนำจากนักการปกครองค่าย (พรรคเสรี) และ tycoons ธุรกิจเสียหาย รักสูญหายระหว่าง Rhee และประชาชนทั่วไป และยาว ได้ลุกนักเรียนขึ้นในปฏิวัติบน 19 เมษายน 1960 ที่ toppled พรรคเสรีรัฐบาลประธานาธิบดี Rhee Rhee ซ้ายเกาหลี และอาศัยอยู่ในฮาวายพลัดถิ่นเกาหลีได้อย่างชัดเจนไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ รัฐบาลถัดไปที่มาในการปลุกของของ Rhee ตกนำ โดยนายกรัฐมนตรีจอห์นเมตรช้าง (จากฝ่ายค้านพรรคประชาธิปไตย) ค่าโดยสารไม่ได้ดี เพราะคนอยากจองทุกอย่างตีถนน และเห็นความต้องการสิ่งที่พวกเขาต้องการเกาหลีเหนือ เสมอ เป็นการหาโอกาสใหม่บุกภาคใต้ซึ่งมีปกครองคอมมิวนิสต์สามเดือนระหว่างสงครามเกาหลี (1950-3) เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้ แล้วทั่ว Maj. ปาร์คชุสังเกิดปฏิวัติทหาร (รัฐประหาร d'etat) และเอาเหนือการควบคุมของรัฐบาลในวันที่ 16 พฤษภาคม 1960สถานการณ์การพัฒนานี้ไม่ดีไปสหรัฐอเมริกาที่ต้องการเห็นรัฐบาลประชาธิปไตยในเกาหลี ธรรมชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐแล้วประธานาธิบดีจอห์นเอฟเคนเนดี้รอกของประธานาธิบดี Park Chung-สังเป็นย้ำอาศัยซ้ำห้าปีเศรษฐกิจพัฒนาวางแผนและประชาชน self-improvement ไหว Saemaeul Undong (ใหม่ชุมชนเคลื่อนไหว) ภายใต้สวนใหญ่ เศรษฐกิจเกาหลีเติบโตที่ก้าวอย่างรวดเร็ว 'อัศจรรย์' กับ GNI ต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์จึง (ทั่วไปแห่งชาติรายได้) ของคนกระโดดจากสหรัฐอเมริกาเพียง $67 (ใน 1960 เมื่อเกิดการรัฐประหาร) กับสหรัฐอเมริกา $1,693 (ในปีค.ศ. 1979 เมื่อประธานปาร์คเสียชีวิต) การแสดงมากกว่าเพิ่ม 25-fold ในปี 19 ด้วยเหตุนี้ เพรสซิเดนท์พาร์คเข้าความนิยมมาก ๆ ในหมู่คนเกาหลีแม้ว่าวัยรุ่นบางคนมีการจองเนื่องจากข้อจำกัดของสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักการเมืองฝ่ายค้านและคน unionizedพาร์คจึงประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายแรกของเขา (ขจัดความยากจนจากคนและเศรษฐกิจตนเองสนับสนุน), ได้ประตูที่สองของเขา (พึ่งป้องกันประเทศ) ยากที่จะบรรลุเพื่อให้เรื่องแย่ลง เวียดนามใต้ตกเวียดนามเหนือและเวียดนามคอ และกองทัพสหรัฐฯ ต้องถอนตัวออกจากเวียดนามทั้งหมด สถานการณ์นี้หลงกลัวเป็นคนในเกาหลีใต้ขณะให้กำลังใจที่แข็งแกร่งสำหรับระบอบการปกครองเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมีมากพูดคุยเกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา ' ถอนของของกองทัพยังจากเกาหลีระหว่างรัฐบาลพรรคประชาธิปไตยประธานาธิบดีจิมมีคาร์เตอร์ผู้ติดตามนโยบาย 'สิทธิมนุษยชน'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถิ่นที่อยู่ในพาร์คเกิดมาเพื่อเป็นครอบครัวเกษตรกรรมซึ่งเป็นคำพ้องความหมายของความยากจนในประเทศเกาหลีในอดีตที่ผ่านมาเป็นเกษตรกรที่ได้รับมักจะเป็นเป้าหมายของการกรรโชกและการใช้ประโยชน์จากพระมหากษัตริย์และข้าราชบริพารของพวกเขาเช่นเดียวกับพ่อค้าผู้มั่งคั่งที่ ต่อไปนี้การปลดปล่อยของเกาหลีจากการปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่น 36 ปีในปี 1945 สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นมากเท่าที่พวกเขาถูกนำอย่างต่อเนื่องประโยชน์จากโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงทุจริตของรัฐบาลและวงการธุรกิจหลายคนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดของ conglutination เสียหายและการทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคลและผลประโยชน์. ประธานระยะแรกอีซึงเป็นหนึ่งในนักสู้อิสระเกาหลีที่โดดเด่นที่ทำงานให้ความเป็นอิสระในการดำเนินงานส่วนใหญ่ของเกาหลีในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากการเข้ารับตำแหน่งของเขาในประเทศเกาหลีเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดียาวของสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ในปี 1948 อีพยายามที่จะเรียกใช้ประเทศในขณะที่เขาได้เรียนรู้ประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกา แต่เขาก็สูงในยุคนี้และถูกนำประโยชน์จาก นักการเมืองทุจริตในค่ายปกครอง (พรรคเสรีนิยม) และวงการธุรกิจ ความรักที่หายไประหว่างอีและประชาชนทั่วไปและนักเรียนที่มีความยาวเพิ่มขึ้นในการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1960 ซึ่งโค่นล้มรัฐบาลพรรคเสรีนิยมของประธานาธิบดีอี อีซ้ายเกาหลีและอาศัยอยู่ในฮาวายในการเนรเทศ. เกาหลีเห็นได้ชัดว่ายังไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ รัฐบาลต่อไปที่มาในการปลุกของการล่มสลายของอีนำโดยนายกรัฐมนตรีจอห์นเอ็มช้าง (จากฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์) ไม่ได้ค่าโดยสารกันอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะคนที่ต้องการที่จะรักษาทุกอย่างโดยการกดปุ่มถนนและแสดงให้เห็นถึงความต้องการสำหรับสิ่งที่ พวกเขาต้องการ. เกาหลีเหนือได้เช่นเคยรับการมองหาโอกาสที่จะกลับมาบุกภาคใต้ซึ่งคอมมิวนิสต์ปกครองเป็นเวลาสามเดือนในช่วงสงครามเกาหลี (1950-3) ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์นี้แล้วพล. ตปาร์คจุงฮีก่อให้เกิดการปฏิวัติทางทหาร (รัฐประหาร) และเข้ามาควบคุมของรัฐบาลในวันที่ 16 พฤษภาคม 1960 การพัฒนานี้สถานการณ์ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจมากไปยังสหรัฐอเมริกา ที่อยากจะเห็นรัฐบาลประชาธิปไตยในเกาหลี ธรรมชาติ, ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯนั้นประธานาธิบดีจอห์นเอฟเคนเนดี้และเกาหลีใต้ของประธานาธิบดีปาร์คจุงฮีเริ่มตึงเครียด. อาศัยอำนาจตามความซ้ำแล้วซ้ำอีกห้าปีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวของการพัฒนาตนเองของผู้คนเช่น Saemaeul Undong (ชุมชนใหม่ การเคลื่อนไหว) ภายใต้ประธานาธิบดี Park, เศรษฐกิจเกาหลีขยายตัวใน 'ปาฏิหาริย์' ก้าวอย่างรวดเร็วกับ GNI ต่อหัว (ทั่วไปรายได้ประชาชาติ) ของคนที่กระโดดจากเพียง US $ 67 (ในปี 1960 เมื่อการรัฐประหารที่เกิดขึ้น) ไปยังสหรัฐอเมริกา $ 1,693 (ในปี 1979 เมื่อเสียชีวิต President Park) ซึ่งเป็นตัวแทนมากกว่าการเพิ่มขึ้น 25 เท่าใน 19 ปี ด้วยเหตุนี้ President Park มีความสุขกับความนิยมที่แข็งแกร่งมากในหมู่คนเกาหลีถึงแม้ว่าบางคนหนุ่มสาวที่มีการจองเนื่องจากการ จำกัด สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักการเมืองฝ่ายค้านและสหภาพแรงงาน. พาร์คประสบความสำเร็จดังนั้นในการบรรลุเป้าหมายแรกของเขา ( ขจัดความยากจนจากประชาชนและเศรษฐกิจที่ตนเองสนับสนุน) แต่ประตูที่สองของเขา (การป้องกันพึ่งตนเองแห่งชาติ) ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ. เพื่อให้เรื่องเลวร้ายภาคใต้เวียดนามลดลงไปเวียดนามเหนือและเวียดกงและสหรัฐอเมริกา กองกำลังถอนตัวออกจากเวียดนามโดยสิ้นเชิง สถานการณ์นี้หลงความกลัวเข้าไปในคนที่อยู่ในเกาหลีใต้ในขณะที่มันเป็นกำลังใจที่แข็งแกร่งสำหรับระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกันมากเกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา 'ถอนตัวของกองกำลังติดอาวุธที่ยังจากเกาหลีในช่วงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ของประธานาธิบดี Jimmy Carter ที่ไล่ตามนโยบายสิทธิมนุษยชน'

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถิ่นปาร์ค เกิดในครอบครัวชาวไร่ที่เป็นไวพจน์ของความยากจนในเกาหลีในอดีต เช่น เกษตรกรมีเสมอเป้าหมายของการกรรโชกเอารัดเอาเปรียบโดยพระมหากษัตริย์และ vassals เช่นเดียวกับพ่อค้าผู้มั่งคั่ง ต่อไปนี้การปลดปล่อยเกาหลีจากญี่ปุ่นอาณานิคมปกครอง 36 ปี 1945 ,สถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นมากตามที่พวกเขาอย่างต่อเนื่องเอาเปรียบโดยติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและ tycoons ธุรกิจหลายคนได้ใกล้ชิดของการรวมตัวที่เสียหายและความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ .

ประธานาธิบดีอี ซึงมันเป็นเทอมแรกของเกาหลีที่โดดเด่นเพื่ออิสรภาพที่ทำงานในเกาหลีอิสระปฏิบัติการส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ต่อไปนี้เขาเข้ารับตำแหน่งในเกาหลีในระยะประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐเกาหลี ( เกาหลีใต้ ) ในปี 1948 และ Rhee พยายามหนีประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเขาได้เรียนในสหรัฐอเมริกาแต่เขาเป็นขั้นสูงในสมัยนี้ และถูกเอาเปรียบจากนักการเมืองในค่ายปกครอง ( พรรคเสรีนิยม ) และ tycoons ธุรกิจ ความรักที่หายไประหว่าง Rhee และผู้คนทั่วไป และนักเรียนความยาวขยายตัวขึ้นในการปฏิวัติ วันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1960 ซึ่งโค่นล้มพรรคเสรีนิยมของรัฐบาลประธานาธิบดี Rhee . อาศัยอยู่ในฮาวายและ Rhee ซ้ายเกาหลี

ในการเนรเทศเกาหลีก็ยังไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ รัฐบาลต่อไปที่มาในการปลุกของ Rhee ฤดูใบไม้ร่วงที่นำโดยนายกรัฐมนตรีจอห์น เอ็ม ชาง ( จากที่ฝ่ายค้านพรรคประชาธิปไตย ) ไม่ได้ค่าโดยสารดีเหมือนกัน เพราะประชาชนต้องการความปลอดภัยทุกอย่างโดยการกดปุ่มถนนและแสดงความต้องการสำหรับสิ่งที่พวกเขาต้องการ .

เกาหลีเหนือ เป็นเสมอมองหาโอกาสจะบุกเกาหลีใต้ซึ่งปกครองคอมมิวนิสต์ได้สามเดือน ในระหว่างสงครามเกาหลี ( 1950-3 ) ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้ แล้วปาร์คชุงฮี Maj Gen ให้ทหารปฏิวัติ ( รัฐประหาร ) และยึดการควบคุมของรัฐบาลเมื่อ 16 พฤษภาคม 2503 .

นี้การพัฒนาของสถานการณ์ไม่ค่อยถูกใจกับเราว่า อยากเห็นรัฐบาลประชาธิปไตยในเกาหลี ธรรมชาติความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ และ รกของประธานปาร์คชุงฮีกลายเป็นเครียด

โดยอาศัยซ้ำห้าปีแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และเป็นคนพัฒนาตนเองการเคลื่อนไหว เช่น saemaeul undong ( ชุมชนการเคลื่อนไหว ) ภายใต้ประธานปาร์ค เศรษฐกิจเกาหลีเติบโตที่ ' ปาฏิหาริย์ ' รวดเร็วทันกับต่อหัว GNI ( รายได้ ) ของคนกระโดดจากเพียง $ 67 ( ในปี 1960 เมื่อรัฐประหารที่เกิดขึ้น ) ให้เรา $ 1693 ( ในปี 1979 เมื่อประธานปาร์คตาย )ซึ่งเป็นตัวแทนมากกว่า 25 พับเพิ่ม 19 ปี เพราะเหตุนี้ ท่านประธานปาร์คมีความสุขแข็งแรงมาก ความนิยมในหมู่ประชาชนเกาหลีแม้ว่าคนหนุ่มสาวบางคนมีการจองเนื่องจากการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักการเมืองฝ่ายค้าน และสหภาพคนงาน .

ปาร์ค จึงประสบความสำเร็จในการบรรลุ เป้าหมายแรกของเขา ( ขจัดความยากจน จากประชาชน และเศรษฐกิจของตัวเอง ) แต่เป้าหมายที่สองของเขา ( พึ่งตนเองกลาโหมแห่งชาติ ) ก็ยากที่จะบรรลุ .

เพื่อให้เรื่องเลว เวียดนามใต้ตกอยู่เวียดนามเหนือและเวียดกงและกองทัพสหรัฐถอนตัวออกจากเวียดนามทั้งหมดสถานการณ์นี้เกิดความกลัวในคน ในเกาหลีใต้ ในขณะที่มันเป็นแรงกระตุ้นที่แข็งแกร่งสำหรับระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมีถูกมากพูดคุยเกี่ยวกับเราถอนของกองทัพของตนจากเกาหลีระหว่างพรรครัฐบาลของประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ ที่ไล่ตามนโยบาย ' สิทธิมนุษยชน ' .