Case Number 3What is a growth compa

Case Number 3
What is a growth company?
An old established baker of bread and cakes, distributed widely in one of the country’s major metropolitan areas, was bought by a large publicly traded private-equity firm. The bakery’s stock was selling at eight times earnings on the stock market; the private-equity firm had offered fourteen times earnings, an irresistible offer. It paid with its own stock, which then sold at twenty-two times earnings-so every-body was happy or should have been. The president of the bakery-a middle-aged but very vigorous member of the founding family, in fact, a grandson of the Swedish immigrant who had started the business around 1890 agreed to stay on with a five-year contract.
Six months after the acquisition had been consummated, the bakery’s president was called to New York headquarters for a meeting with the corporate president. “You know, John,” the president said, “that it is our policy that each of our divisions show 10 percent growth a year and make a return of at least 15 percent pretax on investment. Your division is growing only at 1 or 2 percent a year and shows only 7 percent pretax – no more than we can get in a savings bank account. Our staff people are ready to sit down with you and turn your business around so that it can meet our growth and profit objectives.”
“I am afraid,” answered the bakery’s president, “that they would be wasting their time, and mine. A bakery is not a growth business, and nothing you do can make it into one. People don’t eat more bread, or even more cakes; as their incomes go up, they eat less. A bakery has built-in protection against a downturn; in fact, we’d probably do best in a really serious depression. But our growth isn’t going to be faster than that of population. And as for profits, we get paid for being efficient. I know we need to be far more efficient, but that would require fairly massive investment in new automated bakeries, and with our price-earnings ratio, we have never felt able to raise the kind of money we need. Even if we did automate, our rate of return isn’t going to be more than 12 percent pretax at best.”
“This is unacceptable,” snapped the president. “I agree,” said the bakery man. “Indeed, this is precisely the reason we gladly accepted your offer to buy us out: we had to free our family’s own money for more attractive investments, and all our money was in the bakery. That’s also the reason why all of us immediately sold your company’s stock. And that’s the reason that I am quite willing for you to buy up my employment contract. If you want to run a bread bakery as a growth company, you’d better buy me out – I wouldn’t know how to try.”
Questions
Can one be satisfied with a business that earns less than the minimum cost of capital and cannot raise the capital it needs to become efficient? If not, what (if anything) can be done? And who is right?: the man who says that this kind of business cannot be run at a 15 percent profit level, or the man who says that if the market is there, it is management’s job to earn a return that can attract the needed capital? Are both wrong? Or could both be right?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณีหมายเลข 3บริษัทเจริญเติบโตคืออะไรตัวเก่าก่อตั้งเบเกอร์ขนมปังและเค้ก กระจายอย่างกว้างขวางในพื้นที่มหานครสำคัญของประเทศ อย่างใดอย่างหนึ่งถูกซื้อ โดยบริษัทส่วนใหญ่ขายสาธารณะ เบเกอรี่สต็อกถูกขายที่กำไรแปดครั้งในตลาดหุ้น ส่วนบริษัทได้เสนอกำไรสิบครั้ง ข้อเสนอเจรจา มันชำระ ด้วยหุ้นของตัวเอง แล้วที่จำหน่ายที่ยี่สิบสองครั้งกำไรดังนั้นทุกตัวมีความสุข หรือควรจะ ประธานของเบเกอรี่เป็นวัยกลางคนแต่แข็งแรงมากสมาชิกของครอบครัวผู้ก่อตั้ง ในความเป็นจริง หลานของผู้อพยพสวีเดนที่ได้เริ่มต้นธุรกิจประมาณ 1890 ตกลงที่จะอยู่กับสัญญาห้าปี หกเดือนหลังจากได้รับ consummated ซื้อ เบเกอรี่ประธานถูกเรียกว่าสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กสำหรับการประชุมกับประธานบริษัท "คุณทราบ จอห์น ประธานาธิบดีกล่าวว่า "ว่า มันเป็นนโยบายของเราที่แต่ละหน่วยงานของเราแสดงเติบโตร้อยละ 10 ปีและให้ผลตอบแทนอย่างน้อยร้อยละ 15 pretax ลงทุน ส่วนของมีการเติบโตที่ 1 หรือ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่านั้น และแสดงเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ pretax – ไม่เกินกว่าที่เราจะได้รับในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคาร พนักงานของเราท่านก็พร้อมที่จะนั่งอยู่กับคุณ และเปิดธุรกิจรอบเพื่อให้มันสามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ของเราเจริญเติบโตและกำไร" ฉันกลัว ตอบประธานาธิบดีเบเกอรี่ "ว่า พวกเขาจะเสียเวลาของพวกเขา และเหมือง เบเกอรี่ไม่ใช่ธุรกิจเติบโต และอะไรที่คุณทำสามารถทำให้มันเข้า คนไม่กินขนมปังเพิ่มเติม หรือเค้กยิ่ง ขณะที่รายได้ของพวกเขาขึ้นไป พวกเขากินน้อย เบเกอรี่มีป้องกันเศรษฐกิจ ในความเป็นจริง เราคงทำดีที่สุดในภาวะซึมเศร้าที่รุนแรงจริง ๆ แต่ของเราไม่ได้ไปจะเร็วกว่าของประชากร และสำหรับกำไร เราได้รับเงินสำหรับการมีประสิทธิภาพ ฉันรู้ว่า เราต้องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่นั่นต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างใหญ่ในร้านเบเกอรี่ใหม่อัตโนมัติ และอัตราส่วนราคากำไร–ของเรา เราไม่เคยรู้สึกถึงสามารถเพิ่มชนิดของเงินที่เราต้องการ แม้ว่าเราไม่ทำ อัตราผลตอบแทนของเราไม่ได้ไปได้มากกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ pretax ที่ดีที่สุด" "นี้เป็นที่ยอมรับ จัดชิดประธาน "ฉันยอมรับ กล่าวว่า คนเบเกอรี่ "แน่นอน เป็นเหตุผลที่เรายินดีรับข้อเสนอของคุณเพื่อซื้อเราออกได้อย่างแม่นยำ: เรามีเพื่อดึงดูดเงินลงทุนเงินของครอบครัวของเรา และเงินของเราทั้งหมดในเบเกอรี่ นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเราทันทีขายหุ้นของบริษัทของคุณ และนั่นคือเหตุผลที่ผมสื่อสารในการซื้อสัญญาจ้างของฉัน ถ้าคุณต้องการทำเบเกอรี่ขนมปังเป็นบริษัทเติบโต คุณจะดีกว่าซื้อฉัน – ฉันไม่ทราบวิธีการลอง"คำถามหนึ่งจะพอใจกับธุรกิจที่ได้รับต่ำกว่าทุนขั้นต่ำ และไม่สามารถระดมทุนที่ต้องการจะมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่ (ว่า) จะทำอะไรได้ และใครถูก?: คนที่บอกว่า ธุรกิจประเภทนี้ไม่สามารถทำงานที่มีกำไรร้อยละ 15 ระดับ หรือคนที่บอกว่า ถ้าตลาดมี มันเป็นงานของฝ่ายจัดการจะได้รับผลตอบแทนที่สามารถดึงดูดเงินทุนจำเป็น มีทั้งที่ไม่ถูกต้อง หรืออาจทั้งสองจะเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คดีหมายเลข 3
อะไรคือสิ่งที่ บริษัท เจริญเติบโต?
ขนมปังเก่าแก่ของขนมปังและขนมเค้กกระจายอย่างกว้างขวางในหนึ่งในเขตปริมณฑลที่สำคัญของประเทศที่ถูกซื้อโดย บริษัท เอกชนส่วนใหญ่ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นเบเกอรี่ถูกขายที่กำไรแปดครั้งในตลาดหุ้น; บริษัท เอกชนผู้ถือหุ้นได้เสนอสิบสี่ครั้งกำไรข้อเสนอที่ไม่อาจต้านทาน มันจ่ายกับสต็อกของตัวเองซึ่งขายแล้วที่ยี่สิบสองครั้งกำไรเพื่อให้ทุกตัวมีความสุขหรือควรจะได้รับ ประธานาธิบดีของเบเกอรี่เป็นสมาชิกวัยกลางคน แต่แข็งแรงมากของครอบครัวผู้ก่อตั้งในความเป็นจริงเป็นหลานชายของผู้อพยพชาวสวีเดนที่ได้เริ่มต้นธุรกิจรอบ 1890 ตกลงที่จะอยู่ในที่มีสัญญาห้าปี.
หกเดือนหลังจากที่ การเข้าซื้อกิจการที่ได้รับการบริบูรณ์ประธานเบเกอรี่ที่ถูกเรียกไปยังสำนักงานใหญ่นิวยอร์กสำหรับการประชุมกับประธานขององค์กร "คุณรู้ว่าจอห์น" ประธานกล่าวว่า "ว่ามันเป็นนโยบายของเราว่าแต่ละหน่วยงานของเราแสดงให้เห็นการเติบโตร้อยละ 10 ต่อปีและทำให้การกลับมาของอย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์ก่อนหักภาษีจากการลงทุน ส่วนของคุณมีการเติบโตเพียง 1 หรือร้อยละ 2 ต่อปีและแสดงให้เห็นเพียง 7 ก่อนหักภาษีร้อยละ - ไม่เกินกว่าที่เราจะได้รับในบัญชีธนาคารออมทรัพย์ คนพนักงานของเราพร้อมที่จะนั่งลงกับคุณและทำให้ธุรกิจของคุณรอบเพื่อที่จะสามารถรองรับการเติบโตและกำไรวัตถุประสงค์ของเรา. "
" ฉันกลัว "ตอบประธานาธิบดีเบเกอรี่ฯ " ว่าพวกเขาจะเสียเวลาของพวกเขาและการเหมืองแร่ เบเกอรี่ไม่ได้เป็นธุรกิจการเจริญเติบโตและไม่มีอะไรที่คุณทำสามารถทำให้มันเป็นหนึ่งใน คนไม่กินขนมปังหรือขนมเค้กมากยิ่งขึ้น; เป็นรายได้ของพวกเขาขึ้นไปที่พวกเขากินน้อยลง เบเกอรี่มีในตัวป้องกันการชะลอตัว; ในความเป็นจริงเราอาจจะทำอย่างดีที่สุดในภาวะซึมเศร้าร้ายแรงจริงๆ แต่การเติบโตของเราจะไม่ได้ไปจะเร็วกว่าของประชากร และเป็นผลกำไรของเราได้รับการชำระเงินสำหรับการมีประสิทธิภาพ ฉันรู้ว่าเราจะต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ที่จะต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่อย่างเป็นธรรมในเบเกอรี่ใหม่โดยอัตโนมัติและมีอัตราส่วนกำไรราคาของเราเราไม่เคยรู้สึกสามารถที่จะเพิ่มชนิดของเงินที่เราต้องการ แม้ว่าเราจะไม่ได้โดยอัตโนมัติอัตราผลตอบแทนของเราไม่ได้ไปได้ก่อนหักภาษีเกินกว่าร้อยละ 12 ที่ดีที่สุด. "
" นี่เป็นที่ยอมรับไม่ได้ "snapped ประธาน "ผมเห็นด้วย" ชายเบเกอรี่กล่าวว่า "อันที่จริงนี่คือเหตุผลที่แม่นยำเรายินดียอมรับข้อเสนอของคุณที่จะซื้อเราออก: เราต้องฟรีเงินของตัวเองครอบครัวของเราสำหรับการลงทุนที่น่าสนใจมากขึ้นและเงินของเราทั้งหมดอยู่ในเบเกอรี่ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราทุกคนที่ขายหุ้นของ บริษัท ของคุณได้ทันที และนั่นคือเหตุผลที่ผมค่อนข้างยินดีสำหรับคุณที่จะซื้อสัญญาการจ้างงานของฉัน หากคุณต้องการที่จะเรียกใช้เบเกอรี่ขนมปังเป็น บริษัท การเจริญเติบโตคุณควรที่จะซื้อฉันออก - ฉันจะไม่ทราบวิธีการที่จะลอง ".
คำถาม
หนึ่งสามารถพอใจกับธุรกิจที่มีรายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของเงินทุนและไม่สามารถ ระดมทุนจะต้องเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ? ถ้าไม่ได้สิ่งที่ (ถ้ามีอะไร) สามารถทำได้? และผู้ที่เป็นสิทธิ ?: คนที่บอกว่าธุรกิจประเภทนี้จะไม่สามารถทำงานในระดับกำไรร้อยละ 15 หรือคนที่บอกว่าถ้าตลาดอยู่ที่นั่นมันเป็นงานของผู้บริหารที่จะได้รับผลตอบแทนที่สามารถดึงดูดที่จำเป็น เมืองหลวง? ทั้งสองมีความผิดหรือเปล่า? หรือทั้งสองอาจจะใช่มั้ย?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คดีหมายเลข 3อะไรคือการเติบโตของ บริษัท ?เก่าขนมปังเค้กและขนมปังขึ้นกระจายกันอย่างแพร่หลายในหนึ่งในประเทศหลักของกรุงเทพมหานคร พื้นที่ ถูกซื้อโดย บริษัท ซื้อขายสาธารณะขนาดใหญ่ ทุนส่วนตัว . หุ้นของเบเกอรี่ ขายในราคาแปดครั้งต่อหุ้น ; บริษัท ทุนส่วนตัวได้เสนอ 14 ครั้งโดยข้อเสนอตราซีพี มันจ่ายให้กับสินค้าของตัวเอง ซึ่งขายในราคา 22 ครั้งแล้วทุกตัวมีความสุข หรือควรจะได้รับ ประธานของ bakery-a วัยกลางคนแต่แข็งแรงมาก สมาชิกของครอบครัวผู้ก่อตั้ง ในความเป็นจริง , หลานชายของสวีเดนผู้อพยพที่ได้เริ่มต้นธุรกิจรอบ 1890 ตกลงอยู่ ด้วยสัญญา 5 ปีหกเดือนหลังจากการซื้อถูก consummated , ประธานของเบเกอรี่ ถูกเรียกไปที่สำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์คประชุมกับประธานองค์กร " คุณรู้ จอห์น , " ประธานกล่าวว่า " มันเป็นนโยบายของเราที่แต่ละหน่วยงานของเราแสดงการเติบโตที่ร้อยละ 10 ต่อปี และสร้างผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ กำไรในการลงทุน แผนกของคุณมีการเติบโตเพียง 1 หรือ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และแสดงให้เห็นเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสิ้นกว่าเราจะได้รับในบัญชีออมทรัพย์ของธนาคาร คน เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมที่จะนั่งลงกับคุณและเปิดธุรกิจของคุณรอบ ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ของการเติบโตและผลกำไรของเรา" ฉันกลัว " ตอบประธาน เบเกอรี่ " ที่พวกเขาจะเสียเวลาของพวกเขา และเหมือง เบเกอรี่ไม่ใช่การเจริญเติบโตของธุรกิจ และอะไรที่คุณสามารถทำให้มันเป็นหนึ่ง คนไม่กินขนมปังหรือเค้กมากยิ่งขึ้น อย่างรายได้ของพวกเขาไป พวกเขากินน้อยกว่า เบเกอรี่มีการป้องกันตัวในกับลูกค้า ในความเป็นจริง เราอาจจะทำได้ดีที่สุดในภาวะซึมเศร้ารุนแรงจริงๆ แต่การเติบโตของเราไม่ได้ไปจะเร็วกว่าของประชากร และสำหรับกำไร , เราได้รับการจ่ายเงินสำหรับการมีประสิทธิภาพ ผมรู้ว่าเราต้องอยู่ห่างไกลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ที่จะต้องมีการลงทุนที่ค่อนข้างใหญ่ในใหม่อัตโนมัติเบเกอรี่ และอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของเรา เราไม่เคยรู้สึกว่าสามารถเพิ่มชนิดของเงินที่เราต้องการ ถ้าเราทำแบบอัตโนมัติ อัตราของไม่ได้คืนจะมากกว่า 12 เปอร์เซ็นต์กำไรที่ดีที่สุด”" รับไม่ได้ " โค่นประธานาธิบดี " ผมเห็นด้วย กล่าวว่า ร้านเพื่อน " แน่นอน นี่คือสาเหตุที่แท้จริง เรายินดีรับข้อเสนอของคุณ ซื้อ เราว่าเรามีเงินเอง ครอบครัวของเราฟรีสำหรับการลงทุนที่น่าสนใจมากขึ้นและเงินทั้งหมดของเราอยู่ในร้านเบเกอรี่ นั่นคือเหตุผลที่เราทุกคนได้ทันทีขายหุ้นของ บริษัท ของคุณ และนั่นคือเหตุผลที่ผมค่อนข้างพร้อมสำหรับคุณที่จะซื้อสัญญาการจ้างงานของฉัน ถ้าคุณต้องการที่จะใช้ขนมปังเบเกอรี่ บริษัท เติบโต คุณน่าจะซื้อมา ( ผมไม่รู้ว่าต้องลองคำถามหนึ่งสามารถจะพอใจกับธุรกิจที่มีรายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่ายของเงินทุน และไม่สามารถเพิ่มทุน ก็ต้องกลายเป็นที่มีประสิทธิภาพ ? ถ้าไม่ , แล้ว ( ถ้ามี ) สามารถทำได้ ? ใครใช่มั้ย ? : คนที่บอกว่าชนิดนี้ของธุรกิจไม่สามารถจะวิ่งที่ระดับ 15 เปอร์เซ็นต์ กำไร หรือ คนที่บอกว่า ถ้าตลาดมี มันคืองานจัดการที่จะได้รับผลตอบแทนที่สามารถดึงดูดทุนต้อง ? มีทั้งผิด หรืออาจจะใช่ ?