7. Conclusions This investigation e

7. Conclusions
This investigation explored the possibility for natural ventilation in houses in a hot and humid climate region, such as Bangkok, Thailand. The study shows that natural ventilation could be effective in the region during the winter (from December to February). Recent studies have found that the Thai people can live comfortably with much higher temperatures than westerners, so natural ventilation could also work in other seasons.
To achieve a comfortable indoor environment, natural ventilation should provide an indoor air velocity of 0.4 m1s. The corresponding total area of the inlet and outlet apertures should be about 40% of the total floor area. Hf the aperture area were decreased to 25%, the indoor air velocity would be
0.3 m1s. A ceiling fan can be used to increase the air velocity in this case.
The prevailing wind direction in the winter in Bangkok is either from the NNE or the SS�. The house can still be oriented facing north-south to avoid excessive solar radiation. Ht is not necessary to align the house according to the prevailing wind direction.
Since the land lots are small (240-250 m2), and the house floor area is large (160 m2), a rectangular house is not good for natural ventilation. This study found that it is better to use a square shape for the houses.
Consideration of the Thai culture and climate shows that it is better to design houses with two and a half floors. The first floor should be elevated to avoid foods and create better natural ventilation. The ground floor can serve as a service area and/or parking space. A stairway can serve as a wind scoop to augment the natural ventilation benefits of the elevated floor.
Other measures needed to enhance natural ventilation for houses in Bangkok suburbs include:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

7.
สรุปผลการตรวจสอบนี้จะสำรวจความเป็นไปได้สำหรับการระบายอากาศตามธรรมชาติในบ้านในพื้นที่สภาพภูมิอากาศร้อนและชื้นเช่นBangkok, Thailand การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการระบายอากาศตามธรรมชาติอาจจะมีประสิทธิภาพในภูมิภาคในช่วงฤดูหนาว (จากธันวาคม-กุมภาพันธ์) การศึกษาล่าสุดพบว่าคนไทยสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างสะดวกสบายที่มีอุณหภูมิสูงกว่าชาวตะวันตกเพื่อระบายอากาศตามธรรมชาติยังสามารถทำงานในฤดูกาลอื่น.
เพื่อให้บรรลุสภาพแวดล้อมในร่มที่สะดวกสบายระบายอากาศตามธรรมชาติควรให้ความเร็วอากาศภายในอาคาร 0.4 M1s พื้นที่ทั้งหมดที่สอดคล้องกันของช่องทางเข้าและทางออกที่ควรจะเป็นประมาณ 40% ของพื้นที่ใช้สอยโดยรวม Hf พื้นที่รูรับแสงลดลงถึง 25% ความเร็วอากาศภายในอาคารจะเป็น
0.3 M1s มีพัดลมติดเพดานสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มความเร็วลมในกรณีนี้.
ทิศทางลมในช่วงฤดูหนาวในกรุงเทพฯเป็นทั้งจาก NNE หรือเอสเอส บ้านยังคงสามารถมุ่งเน้นการหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เพื่อหลีกเลี่ยงรังสีดวงอาทิตย์มากเกินไป ht ไม่จำเป็นต้องจัดบ้านให้เป็นไปตามทิศทางลม.
เนื่องจากจำนวนที่ดินที่มีขนาดเล็ก (240-250 m2) และพื้นที่บ้านที่มีขนาดใหญ่ (160 m2) บ้านสี่เหลี่ยมไม่ดีสำหรับระบายอากาศตามธรรมชาติ การศึกษาครั้งนี้พบว่ามันจะดีกว่าที่จะใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมสำหรับบ้าน.
พิจารณาของวัฒนธรรมไทยและสภาพภูมิอากาศแสดงให้เห็นว่ามันจะดีกว่าที่จะออกแบบบ้านที่มีสองชั้นครึ่ง ชั้นแรกควรได้รับการยกระดับให้หลีกเลี่ยงอาหารและสร้างระบายอากาศตามธรรมชาติดีกว่า ชั้นล่างสามารถใช้เป็นพื้นที่ให้บริการและ / หรือที่จอดรถ .
บันไดสามารถทำหน้าที่เป็นตักลมเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ที่ระบายอากาศตามธรรมชาติของพื้นยกระดับมาตรการอื่นๆ ที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศตามธรรมชาติสำหรับบ้านในเขตชานเมืองกรุงเทพฯรวมถึง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

7 . สรุปการสํารวจ
เป็นไปได้เพื่อการระบายอากาศตามธรรมชาติในบ้านในสภาพภูมิอากาศร้อนและชื้นในภูมิภาค เช่น กรุงเทพฯ ประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า การระบายอากาศแบบธรรมชาติ อาจจะมีประสิทธิภาพในภูมิภาคในช่วงฤดูหนาว ( ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ) การศึกษาล่าสุดพบว่า คนไทยจะได้อยู่อย่างสบายด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่าชาวตะวันตกดังนั้นการระบายอากาศแบบธรรมชาติสามารถทำงานในฤดูกาลอื่น ๆ
เพื่อให้บรรลุสภาพแวดล้อมในร่มสบาย การระบายอากาศแบบธรรมชาติ ควรมีความเร็วอากาศ 0.4 M1s พื้นที่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องของขาเข้าและขาออกแสงน่าจะประมาณ 40 % ของพื้นที่ทั้งหมด HF รูพื้นที่ลดลงถึง 25 % , ความเร็วลมภายในอาคารจะ
0.3 M1s .พัดลมเพดานสามารถใช้เพื่อเพิ่มความเร็วของอากาศในคดีนี้
มีทิศทางลมในฤดูหนาวในเขตกรุงเทพมหานครทั้งจาก nne หรือ SS � . บ้านยังสามารถวางหันหน้าทิศเหนือใต้ เพื่อหลีกเลี่ยงรังสีมากเกินไป HT ไม่จําเป็นต้องจัดบ้านตามธุรกิจ ทิศทางลม
ตั้งแต่ที่ดินมากมายมีขนาดเล็ก ( 240-250 m2 )และบ้านชั้นพื้นที่มีขนาดใหญ่ ( 160 ตารางเมตร บ้านสี่เหลี่ยม ไม่ดีสำหรับการระบายอากาศแบบธรรมชาติ ผลการศึกษาพบว่า มันเป็นการดีที่จะใช้รูปทรงสี่เหลี่ยม สำหรับบ้าน
พิจารณาของวัฒนธรรมไทยและสภาพภูมิอากาศ แสดงให้เห็นว่า มันจะดีกว่าที่จะออกแบบบ้าน 2 ชั้นครึ่ง . ชั้นควรจะยกระดับเพื่อหลีกเลี่ยงอาหารและสร้างดีกว่าธรรมชาติ ระบายอากาศชั้นล่างจะเป็น พื้นที่บริการและ / หรือพื้นที่จอดรถ บันไดสามารถใช้เป็นตักลมเพื่อเพิ่มการระบายอากาศแบบธรรมชาติ ประโยชน์ของพื้นยกระดับ
มาตรการอื่นที่ต้องเพิ่มการระบายอากาศโดยวิธีธรรมชาติสำหรับบ้านในเขตชานเมือง ได้แก่ :