influenced by) formal court proceed

influenced by) formal court proceedings and understandings of
substantive IP law.
B. “Naming, Blaming, and Claiming”: Mapping and
Understanding Trademark and Copyright Enforcement in IP
Law’s Shadow
This section draws on insights developed by Felstiner, Abel,
and Sarat in their influential 1981 article “The Emergence and
Transformation of Disputes: Naming, Blaming, Claiming . . . .”67
Their article provides a useful framework for analyzing disputing
behavior in stages, especially the under-examined earlier stages of
disputes that occur outside of formal legal institutions and are
typically under the radar of both scholarly analysis and legal system
scrutiny.68 “Naming” is the initial stage of a dispute.69 This stage
occurs when the victim becomes aware he has suffered an injury or
violation of rights.70 The second stage of disputing is termed
“blaming,” where the victim assigns blame to a particular target for
the harm he has suffered.71 The third stage is “claiming,” in which the
victim gives voice to the grievance and demands a remedy.72
The main contribution of the Felstiner et al. framework is to
provide a way to describe and analyze process of how disputes
emerge and how and why they develop through each stage. This
framework also highlights the role of agents (such as lawyers),
cultural factors (such as ideologies of rights), and even psychological
factors (such as disputants’ own sensibilities) in shaping the
development of disputes.
The research interviews for the present study sought to
understand how trademark and copyright owners became aware that
their rights had been violated and the factors that influence whether
and how those rights are enforced.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รับอิทธิพลจาก) ตอนศาลอย่างเป็นทางการและเปลี่ยนความเข้าใจของกฏหมาย IP แน่นB. "ตั้งชื่อ Blaming และว่า": การแมป และเครื่องหมายการค้าความเข้าใจและการบังคับใช้ลิขสิทธิ์ใน IPเงาของกฎหมายส่วนนี้วาดบนความเข้าใจที่พัฒนา โดย Felstiner, Abelและในบทความของพวกเขาทรงอิทธิพล 1981 Sarat "เกิด และการเปลี่ยนแปลงของข้อพิพาท: ตั้งชื่อ Blaming อ้าง... " 67บทความของพวกเขาช่วยประโยชน์กำหนดการวิเคราะห์โต้แย้งเรื่องลักษณะการทำงานในขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ตรวจสอบก่อนขั้นตอนของข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนอกสถาบันทางกฎหมาย และโดยทั่วไปภายใต้เรดาร์ scholarly วิเคราะห์และระบบกฎหมายscrutiny.68 "ชื่อ" เป็นขั้นเริ่มต้นของการ dispute.69 ขั้นตอนนี้เกิดขึ้นเมื่อเหยื่อทราบเขามีประสบการบาดเจ็บ หรือการละเมิด rights.70 ขั้นตอนสองของการโต้แย้งเรื่องเรียกว่า"blaming ซึ่งเหยื่อกำหนดกล่าวโทษไปยังเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอันตรายมา suffered.71 ระยะที่สามคือ "ว่า ในที่นี้เหยื่อให้เสียงการร้องทุกข์ และต้องการ remedy.72เป็นสัดส่วนหลักของกรอบ Felstiner et al.ช่วยให้สามารถอธิบาย และวิเคราะห์ขั้นตอนวิธีข้อโต้แย้งเกิด และวิธีการ และเหตุผลจะพัฒนาผ่านแต่ละขั้นตอน นี้กรอบยังเน้นบทบาทของตัวแทน (เช่นทนายความ),ปัจจัยทางวัฒนธรรม (เช่นเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์สิทธิ), และจิตใจได้ปัจจัย (เช่นของ disputants sensibilities) ในการกำหนดทิศการพัฒนาข้อโต้แย้งการสัมภาษณ์การวิจัยการศึกษาปัจจุบันเข้าใจว่าเจ้าของเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์เริ่มตระหนักถึงที่มีการละเมิดสิทธิ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อว่าและวิธีการบังคับใช้สิทธิเหล่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ได้รับอิทธิพลจาก)
การพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการและความเข้าใจของกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่สำคัญ.
บี "การตั้งชื่อ, โทษและอ้างว่า"
การทำแผนที่และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าและการบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ในIP
เงากฎหมายในส่วนนี้จะดึงข้อมูลเชิงลึกที่พัฒนาโดย Felstiner, อาเบลและSarat ในอิทธิพล 1981 บทความ "การเกิดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของข้อพิพาท: ตั้งชื่อ, โทษ, อ้าง . . . "67 บทความของพวกเขาให้กรอบการทำงานที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์การโต้เถียงพฤติกรรมในขั้นตอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่ภายใต้การตรวจสอบขั้นตอนก่อนหน้าของข้อพิพาทที่เกิดขึ้นด้านนอกของสถาบันกฎหมายอย่างเป็นทางการและโดยทั่วไปภายใต้เรดาร์ของการวิเคราะห์ทั้งด้านวิชาการและระบบกฎหมายscrutiny.68" การตั้งชื่อ "เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของ dispute.69 ขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ตายทราบว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือละเมิดrights.70 ขั้นตอนที่สองของการโต้เถียงที่เรียกว่า" โทษ "ที่เหยื่อกำหนดโทษที่จะเป็นเป้าหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอันตรายที่เขาได้ suffered.71 ขั้นตอนที่สามคือ "อ้าง" ที่ตกเป็นเหยื่อให้เสียงไปยังข้องใจและความต้องการremedy.72 สนับสนุนหลักของ Felstiner et al, กรอบการทำงานคือการให้วิธีที่จะอธิบายและวิเคราะห์กระบวนการของวิธีการที่ข้อพิพาทโผล่ออกมาและวิธีการและเหตุผลที่พวกเขาพัฒนาผ่านแต่ละขั้นตอน นี้กรอบยังเน้นบทบาทของตัวแทน (เช่นทนายความ) ปัจจัยทางวัฒนธรรม (เช่นอุดมการณ์สิทธิ) และทางด้านจิตใจแม้ปัจจัย(เช่นคู่กรณี 'ความรู้สึกของตัวเอง) ในการสร้างการพัฒนาของข้อพิพาท. สัมภาษณ์การวิจัยเพื่อการศึกษาปัจจุบัน พยายามที่จะเข้าใจวิธีการที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ที่เริ่มตระหนักถึงสิทธิของตนได้รับการละเมิดและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อว่าและวิธีการที่สิทธิดังกล่าวมีผลบังคับใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อิทธิพลจาก ) ศาลอย่างเป็นทางการ และความเข้าใจของกฎหมายสารบัญญัติ
IP .
b " ตั้งชื่อตำหนิ และอ้างว่า " : แผนที่และความเข้าใจในการบังคับใช้เครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์


เงา IP กฎหมายมาตรานี้สามารถดึงข้อมูลเชิงลึกที่พัฒนาโดย felstiner เอเบิล และ ซารัตของผู้มีอิทธิพล
2524 บทความ " วิวัฒนาการและ
การเปลี่ยนแปลงของข้อพิพาท : ตั้งชื่อตำหนิ ค้า . . . . . . . . 67
"บทความของพวกเขาให้ใช้เป็นกรอบในการวิเคราะห์พฤติกรรมโต้แย้งในขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การตรวจสอบขั้นตอนก่อนหน้านี้ของข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนอก

เป็นทางการกฎหมายสถาบันและโดยทั่วไปภายใต้เรดาร์ของทั้งวิชาการและวิเคราะห์กฎหมาย
scrutiny.68 " ชื่อ " คือ ตอนเริ่มต้นของ dispute.69 ระยะนี้
เกิดขึ้นเมื่อเหยื่อจะทราบว่าเขามีอาการบาดเจ็บหรือ
ละเมิด rights.70 ขั้นที่สองของการโต้แย้งคือ termed
" โทษ " ที่เหยื่อกำหนดโทษมีเป้าหมายเฉพาะสำหรับ
ทำร้ายเขาได้ suffered.71 ขั้นที่สามคือ " อ้างว่า " ซึ่ง
เหยื่อให้เสียงที่ไม่พอใจและต้องการ เยียวยา . 72
ผลงานหลักของ felstiner et al .

กรอบคือให้วิธีการอธิบายและวิเคราะห์กระบวนการของวิธีการระงับข้อพิพาท
ออกและวิธีการและเหตุผลที่พวกเขาพัฒนาผ่านแต่ละขั้นตอน กรอบนี้
ยังเน้นบทบาทของตัวแทน ( เช่นทนายความ )
ปัจจัยทางวัฒนธรรม ( เช่นอุดมการณ์สิทธิ ) และแม้แต่ปัจจัยทางจิตวิทยา
( เช่นความรู้สึกของตัวเอง disputants ' ) ในการสร้างการพัฒนา

ข้อพิพาทการวิจัยทางการศึกษาหา
เข้าใจว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าและสิทธิของพวกเขาเริ่มตระหนักว่า
ได้รับการละเมิดและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อไม่ว่า
แล้วสิทธิดังกล่าวมีการบังคับใช้