but at the poles, earth's surface i

but at the poles, earth's surface is much closer to the axis of rotation, so it moves more slowly (~ half the speed of equator)

these differences in speed of rotation cause additional atmospheric cells and deflections:

get a pair of circulation cells on either side of equator (Hadley cells); at mid-latitudes, air descending at 30° latitude turns poleward and is joined by air returning from the north/south (Ferrel cells); at the poles air at the surface blows towards the equator and by 50°/60° latitude, it has taken up enough heat to rise -- however because of density differences it can't mix with air in Ferrel cells, so it turns poleward, creating a polar cell

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ที่เสา พื้นผิวโลกมากใกล้แกนหมุน เพื่อให้เดินได้ช้ามาก (~ ความเร็วครึ่งหนึ่งของเส้นศูนย์สูตร)ความแตกต่างเหล่านี้ในความเร็วของการหมุนทำให้เซลล์เพิ่มเติมบรรยากาศและ deflections: รับคู่ของการหมุนเวียนเซลล์ด้านใดด้านหนึ่งของห้อง (เซลล์ Hadley); ที่กลาง latitudes เปิด poleward อากาศน้อยที่ละติจูด 30° และรวมเครื่องบินที่กลับมาจากเหนือ/ใต้ (Ferrel เซลล์); ที่เสาอากาศที่พัดผิว ไปทางเส้นศูนย์สูตร และละติจูด 60° 50° จึงได้ดำเนินการค่าความร้อนเพียงพอเพิ่มขึ้น - อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความแตกต่างความหนาแน่นจึงไม่สามารถผสมกับอากาศในเซลล์ Ferrel ดังนั้นมันจะ poleward สร้างเซลล์โพลาร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่ที่เสา, พื้นผิวของโลกเป็นมากใกล้กับแกนของการหมุนเพื่อให้มันเคลื่อนที่ช้ากว่า (~ ครึ่งความเร็วของเส้นศูนย์สูตร) ​​แตกต่างเหล่านี้ในความเร็วของเซลล์ในชั้นบรรยากาศทำให้เกิดการหมุนเพิ่มเติมและโก่งตัว: ได้รับคู่ของเซลล์ไหลเวียนในอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้านข้างของเส้นศูนย์สูตร (เซลล์ฮัดลีย์); ที่ละติจูดกลาง, ลงมาอากาศที่อุณหภูมิ 30 องศาละติจูดเปลี่ยน poleward และจะเข้าร่วมโดยอากาศที่กลับมาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือ / ภาคใต้ (เซลล์ Ferrel); ที่เสาอากาศที่พื้นผิวพัดไปทางเส้นศูนย์สูตรและ 50 ° / 60 °ละติจูดจะได้นำความร้อนมากพอที่จะเพิ่มขึ้น - แต่เพราะความแตกต่างความหนาแน่นของมันไม่สามารถผสมกับอากาศในเซลล์ Ferrel ดังนั้นมันจะเปิด poleward สร้างเซลล์ขั้วโลก