Colonial India is a part of the Ind

Colonial India is a part of the Indian subcontinent which was under the control of European colonial powers, through trade and conquest. The first European power to arrive in India was the army of Alexander the Great in 327–326 BC. The satraps he established in the north west of the subcontinent quickly crumbled after he left. Later, trade was carried between Indian states and the Roman Empire by Roman sailors who reached India via the Red Sea and Arabian Sea, but the Romans never sought trading settlements or territory in India. The spice trade between India and Europe was one of the main types of trade in the world economy and was the main catalyst for the period of European exploration.[1][2] The search for the wealth and prosperity of India led to the accidental "discovery" of the Americas by Christopher Columbus in 1492. Only a few years later, near the end of the 15th century, Portuguese sailor Vasco da Gama became the first European to re-establish direct trade links with India since Roman times by being the first to arrive by circumnavigating Africa (1497–1499). Having arrived in Calicut, which by then was one of the major trading ports of the eastern world,[3] he obtained permission to trade in the city from Saamoothiri Rajah.

Trading rivalries brought other European powers to India. The Netherlands, England, France, and Denmark established trading posts in India in the early 17th century. As the Mughal Empire disintegrated in the early 18th century and then the Maratha Empire became weakened after the third battle of Panipat, the relatively weak and unstable Indian states which emerged were increasingly open to manipulation by the Europeans through dependent "friendly" Indian rulers.

In the later 18th century Britain and France struggled for dominance through proxy Indian rulers and also by direct military intervention. The defeat of the redoubtable Indian ruler Tipu Sultan in 1799 marginalised French influence. This was followed by a rapid expansion of British power through the greater part of the subcontinent in the early 19th century. By the middle of the century, the British had already gained direct or indirect control over almost all of India. British India contained the most populous and valuable provinces of the British Empire and thus became known as "the jewel in the British crown".

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาณานิคมอินเดียเป็นส่วนหนึ่งของอนุทวีปอินเดียซึ่งภายใต้การควบคุมของยุโรปอำนาจอาณานิคม ค้าและชนะ อำนาจยุโรปครั้งแรกจะมาถึงในอินเดียถูกกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราช 327-326 BC Satraps ที่เขาตั้งขึ้นเหนือทางตะวันตกของอนุทวีปที่รวดเร็วได้ขยี้หลังจากเขา ภายหลัง ค้าทำระหว่างอินเดียอเมริกาและจักรวรรดิโรมัน โดยเรือโรมันที่มาถึงอินเดียผ่านทางทะเลแดงและทะเลอาหรับ แต่ชาวโรมันไม่เคยขอจับคู่ค้าหรือดินแดนในอินเดีย การค้าเครื่องเทศระหว่างอินเดียและยุโรปของประเภทหลักของการค้าในโลกเศรษฐกิจ และถูกเศษหลักสำหรับรอบระยะเวลาของยุโรป[1][2] การค้นหาและเจริญของอินเดียที่นำไปสู่การไม่ตั้งใจ "ค้นพบ" ทวีปอเมริกา โดยคริสโตเฟอร์โคลัมบัสใน 1492 เพียงไม่กี่ปีต่อมา ใกล้สิ้นสุดศตวรรษ 15 โปรตุเกสเซเลอร์ไฟวาสโกดากามาเป็น ยุโรปแรกการสร้างใหม่เชื่อมโยงโดยตรงทางการค้ากับอินเดียตั้งแต่โรมันครั้งโดยครั้งแรกจะมาถึง โดย circumnavigating แอฟริกา (1497 – 1499 เป็นต้นมา) มาถึงในกาลิกัต ซึ่งนั้นเป็นหนึ่งในพอร์ค้าสำคัญของโลกตะวันออก, [3] เขาได้รับเพื่อค้าในเมืองจาก Rajah Saamoothiri.

ค้า rivalries นำอำนาจอื่น ๆ ยุโรปอินเดีย เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศเดนมาร์กก่อตั้งกระทู้ค้าขายในอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นจักรวรรดิโมกุลค่ากลับในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 แล้ว จักรวรรดิมราฐากลายเป็นลดลงหลังจากยุทธการ Panipat สาม ค่อนข้างอ่อนแอ และเสถียรอินเดียอเมริกาซึ่งเกิดได้มากขึ้นเปิดจัดการโดยชาวยุโรปผ่านไม้อินเดีย "มิตร" ขึ้นด้วย

ในศตวรรษที่ 18 ต่อมา สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสต่อสู้การครอบงำผ่าน ทางพร็อกซี่อินเดียไม้ และแทรกแซงทางทหารโดยตรง ความพ่ายแพ้ของไม้บรรทัดอินเดีย redoubtable สุลต่านผสมในฝรั่งเศส 1799 marginalised มีอิทธิพลต่อ นี้ถูกตาม ด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของอำนาจอังกฤษผ่านส่วนใหญ่ของอนุทวีปที่ในศตวรรษที่ 19 ต้น โดยตรงกลางของศตวรรษที่ อังกฤษมีอยู่แล้วได้รับการควบคุมโดยตรง หรือทางอ้อมผ่านเกือบทั้งหมดของอินเดีย บริติชอินเดียอยู่มากที่สุดมีคุณค่า และมีประชากรจังหวัดของจักรวรรดิอังกฤษ และจึง กลายเป็นที่รู้จักกันเป็น "อัญมณีในมงกุฎอังกฤษ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาณานิคมของอินเดียเป็นส่วนหนึ่งของชมพูทวีปซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของอำนาจอาณานิคมยุโรปผ่านการค้าและการพิชิต อำนาจยุโรปครั้งแรกที่จะมาถึงในประเทศอินเดียเป็นกองทัพของอเล็กซานเดที่ยิ่งใหญ่ใน 327-326 ปีก่อนคริสตกาล สมุหเทศาภิบาลเขาก่อตั้งขึ้นในทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปร่วงอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาออก ต่อมาได้รับการดำเนินการค้าระหว่างรัฐของอินเดียและจักรวรรดิโรมันโดยชาวโรมันที่มาถึงอินเดียผ่านทะเลแดงและทะเลอาหรับ แต่โรมไม่เคยขอการชำระหนี้การค้าหรือดินแดนในประเทศอินเดีย การค้าเครื่องเทศระหว่างอินเดียและยุโรปเป็นหนึ่งในประเภทหลักของการค้าในระบบเศรษฐกิจของโลกและเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาหลักสำหรับระยะเวลาของการสำรวจในยุโรป. [1] [2] การค้นหาเพื่อความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศอินเดียที่นำไปสู่อุบัติเหตุ "การค้นพบ" ของอเมริกาโดยคริสโคลัมบัสใน 1492. เพียงไม่กี่ปีต่อมาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของศตวรรษที่ 15, โปรตุเกสกะลาสีวาสโกดากามากลายเป็นชาวยุโรปคนแรกที่จะสร้างใหม่เชื่อมโยงการค้าโดยตรงกับประเทศอินเดียตั้งแต่สมัยโรมันโดยการ ครั้งแรกที่จะมาถึงโดย circumnavigating แอฟริกา (1497-1499) มีเข้ามาใน Calicut ซึ่งตอนนั้นเป็นหนึ่งในพอร์ตการค้าที่สำคัญของโลกตะวันออก [3] เขาได้รับอนุญาตเพื่อการค้าในเมืองจาก Saamoothiri ราชาเทรดดิ้งนำการแข่งขันอำนาจอื่น ๆ ในยุโรปไปยังประเทศอินเดีย เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ, ฝรั่งเศสและเดนมาร์กจัดตั้งกระทู้ซื้อขายในอินเดียในต้นศตวรรษที่ 17 ในฐานะที่เป็นจักรวรรดิโมกุลชำรุดทรุดโทรมในต้นศตวรรษที่ 18 และจากนั้นเอ็มไพร์ธากลายเป็นแรงหลังจากการต่อสู้ในสามของ Panipat, อินเดียสหรัฐฯที่ค่อนข้างอ่อนแอและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นเปิดขึ้นเพื่อการจัดการโดยชาวยุโรปผ่านขึ้น "เป็นมิตร" อินเดียผู้ปกครองใน ศตวรรษที่ 18 ต่อมาอังกฤษและฝรั่งเศสต่อสู้เพื่อการปกครองผ่านพร็อกซี่ปกครองอินเดียและโดยการแทรกแซงทางทหารโดยตรง ความพ่ายแพ้ของผู้ปกครองอินเดียน่ากลัว Tipu สุลต่าน 1799 ในชายขอบอิทธิพลของฝรั่งเศส นี้ตามด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการใช้พลังงานของอังกฤษผ่านส่วนใหญ่ของทวีปในต้นศตวรรษที่ 19 โดยช่วงกลางของศตวรรษที่อังกฤษได้รับแล้วการควบคุมโดยตรงหรือโดยอ้อมในช่วงเกือบทั้งหมดของอินเดีย บริติชอินเดียมีจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดและมีคุณค่าของจักรวรรดิอังกฤษและกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "อัญมณีในมงกุฎของอังกฤษ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาณานิคมอินเดียเป็นส่วนหนึ่งของอนุทวีปอินเดียซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของอำนาจอาณานิคมของยุโรป ผ่านการค้าและชัยชนะ ครั้งแรกในยุโรปที่จะมาถึงในอินเดียกำลังถูกกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราชใน 327 - 326 ปีก่อนคริสตกาล การ satraps เขาก่อตั้งขึ้นในทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปได้อย่างรวดเร็วจะถล่มหลังจากที่เขาซ้าย ต่อมาการค้าดำเนินการระหว่างรัฐอินเดียและโรมัน โดยลูกเรือโรมันที่มาถึงอินเดีย ผ่านทะเลแดงและทะเลอาระเบีย แต่ชาวโรมันไม่เคยขอชำระหนี้การซื้อขาย หรืออาณาจักรในอินเดีย เครื่องเทศการค้าระหว่างอินเดียและยุโรปเป็นหนึ่งในประเภทหลักของการค้าในเศรษฐกิจโลก และเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาหลักในช่วงเวลาของการสำรวจในยุโรป[ 1 ] [ 2 ] ค้นหาความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองของอินเดียไปสู่การ " ค้นพบ " ของอเมริกา โดย คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ใน 1 . เพียงไม่กี่ปีต่อมา , ใกล้จบศตวรรษที่ กะลาสีชาวโปรตุเกส วาสโก ดา กามาเป็นครั้งแรกในยุโรปที่จะสร้างการเชื่อมโยงการค้าโดยตรงกับอินเดียตั้งแต่สมัยโรมันโดยเป็นครั้งแรกที่จะมาถึงโดย circumnavigating แอฟริกา ( 1497 – 1 )มีมาถึงใน Calicut จึงเป็นหนึ่งในพอร์ตการค้าหลักของโลกตะวันออก [ 3 ] เขาได้รับอนุญาตเพื่อการค้าในเมืองจาก saamoothiri ราชา

ค้าราชการนำอำนาจยุโรปอื่น ๆในอินเดีย เนเธอร์แลนด์ , อังกฤษ , ฝรั่งเศส , เดนมาร์กและสร้างการซื้อขายโพสต์ในอินเดียในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 .เป็นอาณาจักรโมกุล สลายในศตวรรษที่ 18 ต้นแล้ววัดมังกรกมลาวาสกลายเป็นอ่อนแอ หลังจากการต่อสู้ที่สามของ Panipat , ที่ค่อนข้างอ่อนแอและไม่มั่นคงอินเดียสหรัฐอเมริกาที่ออกมามีมากขึ้นเปิดให้ใช้โดยชาวยุโรปผ่านขึ้นอยู่กับ " เป็นมิตร " อินเดียผู้ปกครอง

ในช่วงต่อมาศตวรรษที่ 18 อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ผ่านพร็อกซีต่อสู้การปกครองอินเดียผู้ปกครองและยังโดยการแทรกแซงทางทหารโดยตรง ความพ่ายแพ้ของเจ้านายซึ่งน่ากลัวอินเดียสุลต่านใน 1799 ละเลยอิทธิพลของฝรั่งเศส นี้ตามมาด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของบริติชพลังงานผ่านส่วนใหญ่ของทวีปในศตวรรษที่ 19 ก่อน โดยช่วงกลางของศตวรรษที่อังกฤษได้รับโดยตรงหรือโดยอ้อมควบคุมเกือบทั้งหมดของอินเดีย อังกฤษอินเดีย ประกอบด้วย จังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดและมีคุณค่าของจักรวรรดิอังกฤษและจึงกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ " มงกุฎเพชร " อังกฤษ