นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการลงทุนของเอกชนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน การแปล - นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการลงทุนของเอกชนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ไทย วิธีการพูด

นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการลงทุน

นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการลงทุนของเอกชนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน

จากนโยบายของรัฐบาลในการเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมลงทุนในโครงการสัมปทานทางหลวงลักษณะ BTO (Build-Transfer-Operate) เพื่อแก้ไขปัญหาความหนาแน่นของปริมาณการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง จัดหาทุนและกู้เงินมาลงทุนทั้งหมด เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของภาครัฐที่มีอยู่อย่างจำกัด ณ ขณะนั้น ในขณะที่ภาคเอกชนที่มาลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรมในการลงทุนดังกล่าว

โครงการส่วนเริ่มต้น

ในเดือนสิงหาคม 2532 บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาสัมปทานโครงการก่อสร้างทางยกระดับจากกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่กิโลเมตรที่ กม. 5+700 บริเวณดินแดง ถึง กม. 21+100 บริเวณดอนเมือง ระยะทางประมาณ 15.4 กิโลเมตร จำนวน 6 - 8 ช่องจราจร หรือเรียกว่า “โครงการส่วนเริ่มต้น“ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอย่างมากบนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการระบายจราจรเข้า-ออกจากกรุงเทพมหานคร จากภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งเป็นเส้นทางหลักไปสู่สนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นสนามบินหลักระหว่างประเทศแห่งเดียวของกรุงเทพมหานคร ณ ขณะนั้น ทั้งนี้ โครงการส่วนเริ่มต้นได้เปิดให้ประชาชนใช้สัญจรอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2537

โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ

หลังจากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้าง “โครงการส่วนเริ่มต้น“ แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2537 บริษัทฯ ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง ชื่อบริษัทฯ และแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) และบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติให้บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการสัมปทางทางหลวงจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จึงมีการลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวงฉบับที่ 1/2538 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2538) ต่อมารัฐบาลมีความประสงค์ให้บริษัทฯ ขยายเส้นทางออกไปทางเหนือถึง กม. 26+700 เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดบริเวณหน้าสนามบินดอนเมือง ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายว่าการขยายโครงการออกไปทางทิศเหนือจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้จัดหาแหล่งเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนระยะยาวจำนวน 8,500 ล้านบาท เพื่อมาใช้คืนหนี้ของเจ้าหนี้เดิม ปรับปรุงอัตราค่าผ่านทาง ขยายอายุสัมปทานจากปี 2557 ถึงปี 2564 และกระทรวงการคลังเข้ามาลงทุนในบริษัทฯ จำนวน 3,000 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทฯ จึงสามารถขยายโครงการดังกล่าวได้และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวงฉบับที่ 2/2539 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2539 บริษัทฯ จึงได้ทำการก่อสร้างทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือระหว่าง กม. 21+100 ที่ดอนเมือง ถึง กม.26+700 ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ต่อจาก “โครงการส่วนเริ่มต้น“ อีกประมาณ 5.6 กิโลเมตร หรือเรียกว่า “โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ“ ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี 2542

การปรับปรุงเงื่อนไขในสัญญาสัมปทานครั้งที่ 3 ในปี 2550

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2540-2550 บริษัทฯ ได้ทำการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินอันเป็นผลมาจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานจากทางภาครัฐ ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างรุนแรงและมีผลประกอบการที่ขาดทุนมาตลอดตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ โดยบริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมสูงสุดในปี 2549 จำนวน 5,601 ล้านบาท จนทำให้บริษัทฯ ได้เข้าสู่กระบวนการเจรจาเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้สถาบันการเงินและกลุ่มเจ้าหนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างหลายครั้งในช่วงระหว่างปี 2541-2551 รวมถึงการเจรจากับภาครัฐตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อบริษัทฯ โดยไม่ต้องนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการทางศาล จนในที่สุดบริษัทฯ สามารถบรรลุข้อตกลงและได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานฉบับ 3/2550 ลงวันที่ 12 กันยายน 2550 โดยมีเงื่อนไขที่ได้รับการปรับปรุงที่สำคัญ ได้แก่ การปรับอัตราราคาค่าผ่านทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตามสัญญาสัมปทานโดยไม่ต้องขออนุมัติ และได้รับการขยายอายุสัมปทานจนไปสิ้นสุดวันที่ 11 กันยายน 2577 จนทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ เริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงการนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างทางการเงินในหลายด้าน เช่น ผู้ร่วมลงทุนใหม่ (Strategic Partner) การเจรจาจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่ การออกหุ้นกู้ และการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำหุ้นสามัญของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามลำดับ

โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ

สายผลิตภัณฑ์/กลุ่มธุรกิจ ปี 2557 % ปี 2556 % ปี 2555 % ปี 2554 % ปี 2553 %
รายได้ค่าผ่านทาง 2,133 97.2 2,028 98.6 1,791 98.6 1,558 99.1 1,510 99.4
รายได้ดอกเบี้ย 20 0.9 27 1.3 18 1.0 10 0.6 5 0.3
รายได้อื่น 42 1.9 1 0.1 8 0.4 4 0.3 4 0.3
รวม 2,195 100.0 2,056 100.0 1,817 100.0 1,572 100.0 1,519 100.0
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการลงทุนของเอกชนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานจากนโยบายของรัฐบาลในการเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมลงทุนในโครงการสัมปทานทางหลวงลักษณะ BTO (สร้างโอนดำเนินงาน) เพื่อแก้ไขปัญหาความหนาแน่นของปริมาณการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตโดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างจัดหาทุนและกู้เงินมาลงทุนทั้งหมดเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของภาครัฐที่มีอยู่อย่างจำกัดณขณะนั้นในขณะที่ภาคเอกชนที่มาลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรมในการลงทุนดังกล่าวโครงการส่วนเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2532 บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาสัมปทานโครงการก่อสร้างทางยกระดับจากกรมทางหลวงกระทรวงคมนาคมตั้งแต่กิโลเมตรที่กม บริเวณดินแดง 5 + 700 ถึงกม 21 + 100 บริเวณดอนเมืองระยะทางประมาณ 15.4 กิโลเมตรจำนวน 6-8 ช่องจราจรหรือเรียกว่า "โครงการส่วนเริ่มต้น" เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอย่างมากบนถนนวิภาวดีรังสิตซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการระบายจราจรเข้าออกจากกรุงเทพมหานครจากภาคกลางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งเป็นเส้นทางหลักไปสู่สนามบินดอนเมืองซึ่งเป็นสนามบินหลักระหว่างประเทศแห่งเดียวของกรุงเทพมหานครณขณะนั้นทั้งนี้โครงการส่วนเริ่มต้นได้เปิดให้ประชาชนใช้สัญจรอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม ๒๕๓๗โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือหลังจากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้าง “โครงการส่วนเริ่มต้น“ แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2537 บริษัทฯ ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง ชื่อบริษัทฯ และแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) และบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติให้บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการสัมปทางทางหลวงจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จึงมีการลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวงฉบับที่ 1/2538 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2538) ต่อมารัฐบาลมีความประสงค์ให้บริษัทฯ ขยายเส้นทางออกไปทางเหนือถึง กม. 26+700 เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดบริเวณหน้าสนามบินดอนเมือง ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายว่าการขยายโครงการออกไปทางทิศเหนือจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้จัดหาแหล่งเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนระยะยาวจำนวน 8,500 ล้านบาท เพื่อมาใช้คืนหนี้ของเจ้าหนี้เดิม ปรับปรุงอัตราค่าผ่านทาง ขยายอายุสัมปทานจากปี 2557 ถึงปี 2564 และกระทรวงการคลังเข้ามาลงทุนในบริษัทฯ จำนวน 3,000 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทฯ จึงสามารถขยายโครงการดังกล่าวได้และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวงฉบับที่ 2/2539 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2539 บริษัทฯ จึงได้ทำการก่อสร้างทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือระหว่าง กม. 21+100 ที่ดอนเมือง ถึง กม.26+700 ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ต่อจาก “โครงการส่วนเริ่มต้น“ อีกประมาณ 5.6 กิโลเมตร หรือเรียกว่า “โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ“ ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี 2542ในปีการปรับปรุงเงื่อนไขในสัญญาสัมปทานครั้งที่ 3 2550ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2540-2550 บริษัทฯ ได้ทำการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินอันเป็นผลมาจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานจากทางภาครัฐ ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างรุนแรงและมีผลประกอบการที่ขาดทุนมาตลอดตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ โดยบริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมสูงสุดในปี 2549 จำนวน 5,601 ล้านบาท จนทำให้บริษัทฯ ได้เข้าสู่กระบวนการเจรจาเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้สถาบันการเงินและกลุ่มเจ้าหนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างหลายครั้งในช่วงระหว่างปี 2541-2551 รวมถึงการเจรจากับภาครัฐตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อบริษัทฯ โดยไม่ต้องนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการทางศาล จนในที่สุดบริษัทฯ สามารถบรรลุข้อตกลงและได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานฉบับ 3/2550 ลงวันที่ 12 กันยายน 2550 โดยมีเงื่อนไขที่ได้รับการปรับปรุงที่สำคัญ ได้แก่ การปรับอัตราราคาค่าผ่านทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตามสัญญาสัมปทานโดยไม่ต้องขออนุมัติ และได้รับการขยายอายุสัมปทานจนไปสิ้นสุดวันที่ 11 กันยายน 2577 จนทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ เริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงการนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างทางการเงินในหลายด้าน เช่น ผู้ร่วมลงทุนใหม่ (Strategic Partner) การเจรจาจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่ การออกหุ้นกู้ และการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำหุ้นสามัญของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามลำดับโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯสายผลิตภัณฑ์/กลุ่มธุรกิจปีปี 2557% 2556% ปี 2555% ปี ๒๕๕๔%ปี 2553%รายได้ค่าผ่านทาง 2,133 97.2 2,028 98.6 1,791 98.6 1,558 99.1 1,510 99.4รายได้ดอกเบี้ย 20 0.9 27 1.3 18 1.0 10 0.6 5 0.3รายได้อื่น 42 1.9 1 0.1 8 0.4 4 0.3 4 0.3รวม 2,195 100.0 2,056 100.0 1,817 100.0 1,572 100.0 1,519 100.0
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
BTO (Build-Transfer-Operate) โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างจัดหาทุนและกู้เงินมาลงทุนทั้งหมด ณ ขณะนั้น 2532 บริษัท ฯ กระทรวงคมนาคมตั้งแต่กิโลเมตรที่กม 5 + 700 บริเวณดินแดงถึงกม 21 + 100 บริเวณดอนเมืองระยะทางประมาณ 15.4 กิโลเมตรจำนวน 6-8 ช่องจราจรหรือเรียกว่า "โครงการส่วนเริ่มต้น" จากภาคกลางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ขณะนั้นทั้งนี้ 14 ธันวาคม ได้ดำเนินการก่อสร้าง "โครงการส่วนเริ่มต้น" แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2537 บริษัท ฯ ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อ บริษัท ฯ และแปรสภาพเป็น บริษัท มหาชน จำกัด โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ฯ ได้ รับการอนุมัติให้ บริษัท ฯ 1/2538 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2538) ขยายเส้นทางออกไปทางเหนือถึงกม 26 + 700 ดังนั้น 8,500 ล้านบาทเพื่อมาใช้คืนหนี้ของเจ้าหนี้เดิมปรับปรุงอัตราค่าผ่านทางขยายอายุสัมปทานจากปี 2557 ถึงปี 2564 จำนวน 3,000 ล้านบาทดังนั้น บริษัท ฯ 2/2539 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2539 บริษัท ฯ กม 21 + 100 ที่ดอนเมืองถึงกม. 26 + 700 ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติต่อจาก "โครงการส่วนเริ่มต้น" อีกประมาณ 5.6 กิโลเมตรหรือเรียกว่า "โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ" 3 ในปี 2550 ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2540-2550 บริษัท ฯ ทำให้ บริษัท ฯ โดย บริษัท ฯ มีผลขาดทุนสะสมสูงสุดในปี 2549 จำนวน 5,601 ล้านบาทจนทำให้ บริษัท ฯ 2541-2551 จนในที่สุด บริษัท ฯ 3/2550 ลงวันที่ 12 กันยายน 2550 ได้แก่ 11 กันยายน 2577 จนทำให้ฐานะทางการเงินของ บริษัท ฯ เริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ เช่นผู้ร่วมลงทุนใหม่ (พันธมิตรเชิงกลยุทธ์) การเจรจาจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่การออกหุ้นกู้ ปี 2557 ปี 2556%%% ปี 2555 ปี 2554 ปี 2553%% รายได้ค่าผ่านทาง 2,133 97.2 2,028 98.6 1,791 98.6 1,558 99.1 1,510 99.4 รายได้ดอกเบี้ย 20 0.9 27 1.3 18 1.0 10 0.6 5 0.3 รายได้อื่น 42 1.9 1 0.1 8 0.4 4 0.3 4 0.3 รวม 2,195 100.0 100.0 2056 1817 1572 100.0 100.0 100.0 1519





















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการลงทุนของเอกชนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน

จากนโยบายของรัฐบาลในการเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมลงทุนในโครงการสัมปทานทางหลวงลักษณะ BTO ( Build Transfer Operate ) เพื่อแก้ไขปัญหาความหนาแน่นของปริมาณการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตโดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของภาครัฐที่มีอยู่อย่างจำกัดณขณะนั้นในขณะที่ภาคเอกชนที่มาลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรมในการลงทุนดังกล่าว



ในเดือนสิงหาคมโครงการส่วนเริ่มต้น 2532 บริษัทฯได้ลงนามสัญญาสัมปทานโครงการก่อสร้างทางยกระดับจากกรมทางหลวงกระทรวงคมนาคมตั้งแต่กิโลเมตรที่กม . 5 700 บริเวณดินแดงถึงกม . 21 100 บริเวณดอนเมืองระยะทางประมาณ 154 กิโลเมตรจำนวน 6 - 8 ช่องจราจรหรือเรียกว่า " โครงการส่วนเริ่มต้น " เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอย่างมากบนถนนวิภาวดีรังสิตซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการระบายจราจรเข้า - ออกจากกรุงเทพมหานครจากภาคกลางภาคเหนือรวมทั้งเป็นเส้นทางหลักไปสู่สนามบินดอนเมืองซึ่งเป็นสนามบินหลักระหว่างประเทศแห่งเดียวของกรุงเทพมหานครณขณะนั้นทั้งนี้โครงการส่วนเริ่มต้นได้เปิดให้ประชาชนใช้สัญจรอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม


โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือหลังจากที่บริษัทฯได้ดำเนินการก่อสร้าง " โครงการส่วนเริ่มต้น " แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2537 บริษัทฯได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯและแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดโดยเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทจำกัด ( มหาชน ) และบริษัทฯได้รับการอนุมัติให้บริษัทฯได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการสัมปทางทางหลวงจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจึงมีการลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวงฉบับที่ 1 / 253827 เมษายน 2538 ) ต่อมารัฐบาลมีความประสงค์ให้บริษัทฯขยายเส้นทางออกไปทางเหนือถึงกม .26 700 เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดบริเวณหน้าสนามบินดอนเมืองซึ่งรัฐบาลมีนโยบายว่าการขยายโครงการออกไปทางทิศเหนือจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ดังนั้น8500 ล้านบาทเพื่อมาใช้คืนหนี้ของเจ้าหนี้เดิมปรับปรุงอัตราค่าผ่านทางขยายอายุสัมปทานจากปี 2557 ถึงปีที่และกระทรวงการคลังเข้ามาลงทุนในบริษัทฯจำนวน 3000 ล้านบาทดังนั้นบริษัทฯจึงสามารถขยายโครงการดังกล่าวได้และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวงฉบับที่ 2 / 2539 2539 บริษัทฯพฤศจิกายนเมื่อวันที่ 29กม .21 100 ที่ดอนเมืองถึงกม . 26 700 ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติต่อจาก " โครงการส่วนเริ่มต้น " อีกประมาณ 5.6 กิโลเมตรหรือเรียกว่า " โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ " ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี 2542

การปรับปรุงเงื่อนไขในสัญญาสัมปทานครั้งที่ 3 สามารถ 2550

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2540-2550 บริษัทฯได้ทำการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินอันเป็นผลมาจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานจากทางภาครัฐทำให้บริษัทฯโดยบริษัทฯมีผลขาดทุนสะสมสูงสุดในปี 2549 จำนวน 5601 ล้านบาทจนทำให้บริษัทฯได้เข้าสู่กระบวนการเจรจาเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้สถาบันการเงินและกลุ่มเจ้าหนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างหลายครั้งในช่วงระหว่างปี 2541-2551โดยไม่ต้องนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการทางศาลจนในที่สุดบริษัทฯสามารถบรรลุข้อตกลงและได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานฉบับ 3 / 2550 ลงวันที่ 12 กันยายน 2550ได้แก่การปรับอัตราราคาค่าผ่านทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตามสัญญาสัมปทานโดยไม่ต้องขออนุมัติและได้รับการขยายอายุสัมปทานจนไปสิ้นสุดวันที่ 11 กันยายน 2577 จนทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทฯเริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับเช่นผู้ร่วมลงทุนใหม่ ( พันธมิตร ) การเจรจาจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่การออกหุ้นกู้และการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำหุ้นสามัญของบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามลำดับ



โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯสายผลิตภัณฑ์ / กลุ่มธุรกิจ . . . 2555 2556 2557 % % % % %
. 2554 . 2553 รายได้ค่าผ่านทาง 2133 ปัจจัย 2028 98.6 1791 98.6 1237 97.2 1510 99.4
รายได้ดอกเบี้ย 20 27 1.3 0.9 1.0 0.6 0.3 18 10 5
รายได้อื่น 42 1.9 1 0.1 0.4 0.3 0.3
8 4 4 รวม 2195 100.0 100.0 2056 1817 100.0 100.0 100.0 ใหม่ที่
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: