So the prince and his daughter, wit

So the prince and his daughter, with their retinue, ascended the hill. As they approached, Phra Abhai Mani and Sin Samudr, who were supposed to be wrapped in meditation, looked up. Phra Abhai Mani saw Suvarnamali and held his breath. He had never seen such a vision of beauty before. Suvarnamali, on her part, was not a little surprised to find that the hermit had so handsome a disciple. Their eyes met, and said more than words ever could. After an exchange of greetings, Silaraj told the hermit and his disciples how he had arrived at the island. He then turned to Phra Abhai Mani and asked who he was and how he came to be on the island and taken refuge with the hermit. Phra Abhai Mani replied by telling him the whole story, from the time he learned to play the flute and thus incurred the wrath of his father, to the time when he escaped from the giantess of the sea. Silaraj (and undoubtedly his daughter also) was profoundly moved, and expressed interest in the magic flute. He wished Phra Abhai Mani to play it for them. But the latter declined, saying that as he had taken holy vows he could not play on the flute. He added, however, that as he had taught his son how to play on it, Sin Samudr could, with the hermit's permission, satisfy the prince's curiosity. So when the requisite permission had been granted, Sin Samudr took up his father's flute and started to play a soothing air. As was inevitable, all those who heard the melody were soon drowsy with sleep, and dropped off one by one. In the end, Sin Samudr and his father were the only ones left awake.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้น เจ้าชายและลูกสาวของเขา กับบริวารของตน แถมยังเขา ขณะที่พวกเขาประดับ พระ Abhai มณีและความบาป Samudr ซึ่งควรจะเป็นห่อธรรม มองขึ้น พระ Abhai มณีเห็น Suvarnamali และลมหายใจของเขาจัดขึ้น เขาไม่เคยเห็นเช่นมองความสวยงามก่อนที่จะ Suvarnamali นาง ไม่เป็นแปลกใจเล็กน้อยหาว่า ฤาษีมีสาวกมากหล่อ ตาของพวกเขาตาม และกล่าวคำมากกว่าเคยได้ หลังจากการแลกเปลี่ยนคำทักทาย Silaraj บอกฤาษีและพวกสาวกของพระองค์ว่าเขามาถึงที่เกาะนั้น เขาแล้วหันไปพระ Abhai มณี และถามใครเขาและว่าเขามาอยู่บนเกาะและหลบถ่ายกับฤาษี พระ Abhai มณีตอบกลับว่า เรื่องทั้งหมด จากเวลาเขาเรียนรู้วิธีการเล่นขลุ่ย และดังนั้นจึง เกิดการลงโทษของพ่อ เวลาเมื่อหลบหนีออกจาก giantess ของทะเล Silaraj (ลูกสาวของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยและยัง) ซึ้งถูกย้าย และแสดงสนใจในขลุ่ยวิเศษ เขาปรารถนามณี Abhai พระเล่นสำหรับพวกเขา แต่หลัง ปฏิเสธ บอกว่า เขาได้มาว่าศักดิ์สิทธิ์ เขาอาจไม่เล่นขลุ่ยที่ เขาเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ว่า เขามีสอนบุตรที่วิธีการเล่นนั้น Samudr ความบาปสามารถ ของฤาษีสิทธิ์ ตอบสนองความอยากรู้ของเจ้าชาย ดังนั้นเมื่อได้รับอนุญาตให้สิทธิ์ที่จำเป็น ความบาป Samudr เอาค่าพ่อขลุ่ย และเริ่มเล่นอากาศสบาย ๆ เป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ที่ได้ยินเมโลดี้ไม่ช้าก็ง่วงนอน ด้วยนอนหลับ และกุมภาพันธ์ที ในสุด Samudr ความบาปและพ่อได้คนเดียวที่เหลือทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นเจ้าชายและลูกสาวของเขาด้วยข้าราชบริพารของพวกเขาขึ้นไปบนเนินเขา ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาใกล้พระอภัยมณีและสิน Samudr ที่ถูกควรจะห่อในการทำสมาธิเงยหน้าขึ้นมอง พระอภัยมณีเห็น Suvarnamali และถือลมหายใจของเขา เขาไม่เคยเห็นเช่นวิสัยทัศน์ของความงามก่อนที่จะ Suvarnamali ในส่วนของเธอไม่แปลกใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะพบว่าฤาษีมีหล่อเพื่อศิษย์ สายตาของพวกเขาได้พบและพูดได้มากกว่าคำพูดเคยได้ หลังจากการแลกเปลี่ยนทักทาย, Silaraj บอกฤาษีและสาวกของพระองค์ว่าเขาได้มาถึงที่เกาะ จากนั้นเขาก็หันไปหาพระอภัยมณีและถามว่าเขาเป็นใครและเขามาเป็นบนเกาะและที่หลบภัยที่ถ่ายด้วยฤาษี พระอภัยมณีตอบโดยบอกเขาว่าเรื่องราวทั้งหมดจากเวลาที่เขาเรียนรู้ที่จะเล่นขลุ่ยและทำให้เกิดการลงโทษของพ่อของเขาเพื่อให้เวลาที่เขาหนีออกมาจากยักษีของทะเล Silaraj (และไม่ต้องสงสัยลูกสาวของเขาด้วย) ถูกย้ายอย่างสุดซึ้งและแสดงความสนใจในการเป่าขลุ่ยวิเศษ เขาอยากพระอภัยมณีที่จะเล่นให้พวกเขา แต่หลังปฏิเสธที่บอกว่าในขณะที่เขาได้นำคำสาบานศักดิ์สิทธิ์เขาไม่สามารถเล่นบนขลุ่ย เขาเสริมอย่างไรที่ในขณะที่เขาได้สอนลูกชายของเขาวิธีการเล่นกับมันบาป Samudr อาจได้รับอนุญาตฤาษีที่ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของเจ้าชาย ดังนั้นเมื่อได้รับการอนุญาตที่จำเป็นได้รับการอนุมัติบาป Samudr เอาขึ้นขลุ่ยของบิดาของเขาและเริ่มที่จะเล่นอากาศธรรมชาติ ในฐานะที่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงทุกคนที่ได้ยินเพลงในไม่ช้าก็ง่วงนอนหลับและลดลงปิดหนึ่งโดยหนึ่ง ในที่สุดซิน Samudr และพ่อของเขาเป็นคนเดียวที่เหลือตื่นตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

องค์ชายและลูกสาวของเขา กับบริวารของตน ขึ้นเนิน เช่นที่พวกเขาเข้าหาพระราคาหลักทรัพย์ในมานี และบาป samudr ที่ควรจะห่อด้วยสมาธิ เงยหน้าขึ้นมอง พระราคาหลักทรัพย์ในมานีเห็น suvarnamali และกลั้นหายใจ เขาไม่เคยเห็นเช่นวิสัยทัศน์ของความงามมาก่อน suvarnamali ส่วนเธอ ก็ไม่แปลกใจเล็กน้อย พบว่า พระฤาษีได้หล่อมาก เป็นสาวกตาของพวกเขาและกล่าวว่ามากกว่าคำที่เคยทำได้ หลังจากการแลกเปลี่ยนทักทาย silaraj บอกพระฤาษีและลูกศิษย์ของเขาว่าเขาได้เดินทางมาถึงเกาะ จากนั้นเขาก็กลายเป็นพระราคาหลักทรัพย์ในมานี และถามว่าเขาคือใครและวิธีการที่เขามาเป็น บนเกาะ และลี้ภัยกับฤๅษี พระราคาหลักทรัพย์ในมานีตอบโดยบอกเรื่องราวทั้งหมดจากเวลาที่เขาเรียนรู้ที่จะเล่นขลุ่ยและจึงเกิดความโกรธของบิดาของเขาไป เมื่อเขาหนีออกมาจากยักษ์แห่งท้องทะเล silaraj ( และไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกสาวของเขายัง ) คือ ซึ้งย้าย และแสดงความสนใจในขลุ่ยมายากล เขาปรารถนาพระราคาหลักทรัพย์ในมานีที่จะเล่นให้พวกเขา แต่หลังปฏิเสธ บอกว่าเขามีถ่ายศักดิ์สิทธิ์คำสาบานเขาไม่สามารถเล่นขลุ่ยเขาเพิ่ม , อย่างไรก็ตาม , ที่เขาสอนลูกชายของเขาเล่นมัน บาป samudr สามารถกับของฤๅษีสิทธิ์ สนองความอยากรู้ของเจ้าชาย ดังนั้นเมื่อได้รับอนุญาตที่จำเป็นได้รับบาป samudr เอาขลุ่ยของบิดาของเขาและเริ่มที่จะเล่นเย็นอากาศ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนที่ได้ยินเพลงนี้ได้ง่วงนอน และลดลงปิดหนึ่งโดยหนึ่ง ในท้ายที่สุดsamudr บาปและพ่อของเขาเป็นคนที่เหลือตื่น