Rumelhart helped develop the field

Rumelhart helped develop the field of cognitive science in the 1970’s with his work on long term memory and semantic mapping in the mind. He improved upon Goodman’s model by creating a non-sequential model that relies heavily on the use of schemata and top-down processing for explaining understanding.
Schemata:
“[can delineate] in a general manner, without limitation to any single determinate figure as experience, or any possible image that I can represent in concreto” (Kant, 1781).
“abstract structure of information” (Anderson, 1984)
“meanings [encoded] in memory in terms of the typical or normal situations or events that instantiate the concept” (Rumelhart, 1980)
Instantiations:
A schema filled in with default values is called a prototype. Whereas a schema is an organized abstract framework of objects and relations, a prototype consists of a specified set of expectations. A prototype is a highly typical instantiation or instance of a schema (Langacker, 1987). If the instantiation (example) matches our schema (idea), we comprehend. If understanding does not occur, we can infer that the text does not have enough clues, or that the reader does not have the appropriate schema. Learning involves creating or changing schemata through:
• accretion – filling in variables in general and specific schemata
• tuning – changing the constraints on one variable
• restructuring –building new schemata based off old models
There is room for flux in a perceived schema, as variables can compensate for missing or altered factors. However, pre-reading to activate a schema may not really help because schemata are still relatively fixed and solid, especially in common or familiar areas. Quick introductions may not undo years of solidifying schemata.
We can therefore think of schemata in terms of our:
• Play schemata: with a script (schema) that is interpreted (instantiations)Theory schemata: a predictable and useful reality is represented and continually recreated by the sum of our schemata
• Procedure schemata: with (limitless?) subsets of meanings and processes
• Parse schemata: they determine how “legal” a situation is (whether it fits with meaning)
Though schema theory would seem to explain only top-down and internal processing, it also operates at lower levels, using ‘feature-detectors’ that confirm attributes to interpret sensory data. These sensory schemata then activate higher and higher level schemata, eliminating erroneous possibilities, and narrowing understanding to the appropriate meaning.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Rumelhart ช่วยพัฒนาด้านการประชานศาสตร์ 115 กับงานในหน่วยความจำระยะยาวและการแม็ปความหมายในจิตใจของเขา เขาปรับปรุงรุ่นของคลา โดยสร้างแบบจำลองไม่ใช่ลำดับที่มากอาศัยใช้ schemata และประมวลผลบนลงล่างสำหรับอธิบายทำความเข้าใจ
Schemata:
" [สามารถไป] อย่างทั่วไป โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ รูป determinate เดียวเป็นประสบการณ์ หรือรูปภาพไปที่ฉันสามารถเป็นตัวแทนใน concreto" (Kant, 1781)
"บทคัดย่อโครงสร้างของข้อมูล" (แอนเดอร์สัน 1984)
"ความหมาย [เข้า] ในหน่วยความจำปกติ หรือปกติสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่สร้างอินสแตนซ์ของแนวความคิด" (Rumelhart, 1980)
Instantiations:
แบบแผนมีเติมค่าเริ่มต้นคือต้นแบบ ในขณะที่แบบแผนเป็นกรอบงานนามธรรมการจัดระเบียบของวัตถุและความสัมพันธ์ ต้นแบบประกอบด้วยชุดระบุของความคาดหวัง ต้นแบบคือ instantiation สูงทั่วไปหรืออินสแตนซ์ของแบบแผน (Langacker, 1987) ถ้า instantiation (ตัวอย่าง) ตรงกับเค้าร่างของเรา (ความคิด), เราเข้าใจ ถ้าเข้าใจไม่เกิดขึ้น เราสามารถรู้ได้ว่า ข้อความที่มีปมเพียงพอ หรือว่า ผู้อ่านไม่มีแบบแผนเหมาะสม เรียนรู้เกี่ยวข้องกับการสร้าง หรือเปลี่ยน schemata ผ่าน:
• accretion – กรอกข้อมูลในตัวแปรในทั่วไป และเฉพาะ schemata
•ปรับแต่ง – เปลี่ยนข้อจำกัดตัวแปรหนึ่ง
•การปรับโครงสร้าง – การสร้างใหม่ schemata ตามปิดรุ่นเก่า
มีห้องสำหรับการไหลในแบบแผนการรับรู้ เป็นตัวแปรสามารถชดเชยที่ขาดหายไป หรือเปลี่ยนแปลงปัจจัย อย่างไรก็ตาม ก่อนอ่านเพื่อเรียกใช้ schema อาจไม่จริง ๆ ได้ เพราะ schemata จะยังค่อนข้างคงที่ และของ แข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ทั่วไป หรือคุ้นเคย บทนำอย่างรวดเร็วอาจยกเลิกปี schemata แข็งตัว
เราจึงสามารถคิดของ schemata ในแง่ของเรา:
•เล่น schemata: กับสคริปต์ (แบบแผน) ที่แปล (instantiations) ทฤษฎี schemata: แสดง และสร้างขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยผลรวมของ schemata ของเราเป็นจริงได้ และเป็นประโยชน์
schemata •ขั้นตอน: ด้วยชุดย่อย (เบื่อ) ความหมายและกระบวนการ
•แยก schemata: กำหนดว่าเป็น "กฎหมาย" สถานการณ์ (ว่ามันเหมาะสมกับความหมาย)
แม้ว่าทฤษฎีแบบแผนดูเหมือนจะ อธิบายการประมวลผลเฉพาะบนลงล่าง และภายใน มันยังทำงานที่ระดับต่ำกว่า การใช้ 'การตรวจจับคุณลักษณะ' ที่ยืนยันคุณลักษณะการตีความข้อมูลทางประสาทสัมผัส Schemata รับความรู้สึกเหล่านี้แล้ว เปิดใช้งานสูงขึ้น และสูงกว่าระดับ schemata ตัดพลาดไป และทำความเข้าใจกับความหมายที่เหมาะสมที่จำกัดให้แคบลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Rumelhart ช่วยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์พุทธิปัญญาในปี 1970 ด้วยการทำงานของเขาในความทรงจำระยะยาวและการทำแผนที่ความหมายในใจ เขาดีขึ้นอยู่กับรุ่นของครอบครัวโดยการสร้างรูปแบบที่ไม่เป็นลำดับที่อาศัยอย่างหนักเกี่ยวกับการใช้ schemata และบนลงล่างในการประมวลผลสำหรับการอธิบายความเข้าใจ
schemata:
"[สามารถวิเคราะห์] ในลักษณะทั่วไปโดยไม่มีข้อ จำกัด ใด ๆ ที่กำหนดรูปเดียวเป็นประสบการณ์ หรือภาพที่เป็นไปได้ใด ๆ ที่ฉันสามารถเป็นตัวแทนในคอนกรีต "(คานท์ 1781)
"โครงสร้างนามธรรมของข้อมูล" (Anderson, 1984)
"ความหมาย [การเข้ารหัส] ในความทรงจำในแง่ของสถานการณ์ปกติหรือปกติหรือเหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างแนวคิด "(Rumelhart, 1980)
instantiations:
คีเต็มไปด้วยค่าเริ่มต้นที่เรียกว่าต้นแบบ ในขณะที่คีมาเป็นกรอบการจัดนามธรรมของวัตถุและความสัมพันธ์ต้นแบบประกอบด้วยชุดที่กำหนดของความคาดหวัง ต้นแบบเป็น instantiation ทั่วไปสูงหรือตัวอย่างของสคี (Langacker, 1987) ถ้า instantiation (ตัวอย่าง) ตรงกับคีของเรา (ความคิด) เราเข้าใจ ถ้าเข้าใจไม่ได้เกิดขึ้นเราสามารถอนุมานได้ว่าข้อความที่ไม่ได้มีเบาะแสเพียงพอหรือที่ผู้อ่านไม่ได้มีสคีเหมาะสม การเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างหรือเปลี่ยน schemata ผ่าน:
•การเพิ่ม - กรอกตัวแปรในทั่วไปและเฉพาะ schemata
ปรับ• - เปลี่ยนข้อ จำกัด ในตัวแปรหนึ่ง
•การปรับโครงสร้างอาคารทาง schemata ใหม่ตามออกรุ่นเก่า
มีห้องสำหรับการไหลอยู่ในสคีมารับรู้เป็นตัวแปร สามารถชดเชยปัจจัยที่ขาดหายไปหรือการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามก่อนการอ่านเพื่อเปิดใช้งานคีมาอาจไม่จริงช่วยเพราะ schemata ยังคงค่อนข้างคงที่และมั่นคงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่พบบ่อยหรือคุ้นเคย การแนะนำอย่างรวดเร็วอาจจะไม่ยกเลิกการปีของการแข็งตัว schemata
ดังนั้นเราจึงสามารถคิด schemata ในแง่ของเรา:
•เล่น schemata: กับสคริปต์ (คี) ที่ถูกตีความ (instantiations) schemata ทฤษฎีความเป็นจริงที่คาดการณ์และมีประโยชน์เป็นตัวแทนและสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลรวมของ schemata ของเรา
• schemata ขั้นตอนด้วย (? ไร้ขีด จำกัด ) ส่วนย่อยของความหมายและกระบวนการ
•แยก schemata พวกเขาระบุว่า "กฎหมาย" สถานการณ์เป็น (ไม่ว่าจะเหมาะกับความหมาย)
แม้ว่าทฤษฎีคีดูเหมือนจะอธิบายเฉพาะบนสุด ลงและการประมวลผลภายในก็ยังทำงานอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการใช้คุณลักษณะเครื่องตรวจจับ 'ยืนยันว่าลักษณะการตีความข้อมูลทางประสาทสัมผัส เหล่านี้ schemata ประสาทสัมผัสแล้วเปิดใช้งานที่สูงขึ้นและสูงกว่าระดับ schemata ขจัดความเป็นไปได้ที่ผิดพลาดและการกวดขันความเข้าใจความหมายที่เหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

rumelhart ช่วยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ในปี 1970 ด้วยผลงานของเขาในหน่วยความจำระยะยาวและความหมายแผนที่ในใจ เขาปรับปรุงให้ดีขึ้น กู๊ดแมนแบบไม่ต่อเนื่อง โดยสร้างแบบจำลองที่อาศัยอย่างหนักในการใช้ลูและการประมวลผลจากบนลงล่างสำหรับการอธิบายที่เข้าใจ

" ลู : [ สามารถอธิบายในลักษณะทั่วไป ,โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆเดียวตัดสินใจคิดเป็นประสบการณ์ หรือภาพที่เป็นไปได้ใด ๆที่ฉันสามารถเป็นตัวแทนใน concreto " คานท์ , 1781 )
" นามธรรมโครงสร้างของข้อมูล " ( แอนเดอร์สัน , 1984 )
" ความหมาย [ ที่ ] ความทรงจำในแง่ของทั่วไปหรือปกติสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างแนวคิด " ( rumelhart , 1980 )

instantiations :schema เต็มไปด้วยค่าเริ่มต้นจะเรียกว่าเป็นต้นแบบ ในขณะที่รูปแบบเป็นนามธรรมกรอบจัดของวัตถุและความสัมพันธ์ , ต้นแบบประกอบด้วยการระบุชุดของความคาดหวัง ต้นแบบเป็นปกติสูง instantiation หรืออินสแตนซ์ของ schema ( แลงแกกเกอร์ , 1987 ) ถ้า instantiation ( ตัวอย่าง ) ตรงกับ schema ของเรา ( ความคิด ) เราเข้าใจ ถ้าเข้าใจก็ไม่เกิดขึ้นเราสามารถสรุปได้ว่าข้อความที่ไม่ได้มีข้อมูลเพียงพอ หรือที่อ่านไม่ได้มีรายการที่เหมาะสม การเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างหรือการเปลี่ยนผ่าน :
- ลูหรือไม่–การกรอกข้อมูลในตัวแปรทั่วไป และเฉพาะลู
- ปรับและเปลี่ยนข้อจำกัดหนึ่งลูแปรผัน
-
) –อาคารตามปิดแบบเก่ามีห้องสำหรับการไหลในสคีมาเป็นตัวแปร จะชดเชยที่ขาดหายไป หรือมีการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยในการ อย่างไรก็ตาม ก่อนอ่านเพื่อเปิดใช้งานรูปแบบอาจไม่ช่วยจริง ๆเพราะลูจะยังค่อนข้างคงที่และมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ทั่วไป หรือที่คุ้นเคย ด่วนแนะนำอาจจะไม่ยกเลิกการปีของการแข็งตัวของลู .
ดังนั้นเราสามารถคิดในแง่ของลูลู : :
- เล่นกับสคริปต์ ( schema ) ที่ถูกตีความ ( instantiations ) ทฤษฎีลู : ความเป็นจริงได้และมีประโยชน์จะแสดงอย่างต่อเนื่องและสร้างขึ้นโดยผลรวมของแต่ละขั้นตอนลูลู
: ( ไร้พรมแดน ) ? จากความหมายและกระบวนการ
- แยกลู : พวกเขาตรวจสอบว่า " กฎหมาย " สถานการณ์ ( ว่ามันพอดีกับความหมาย )
แม้ว่าทฤษฎีดูเหมือนจะอธิบายเฉพาะด้านบนและการประมวลผลภายใน นอกจากนี้ยังทำงานในระดับล่าง การใช้คุณลักษณะของเครื่องตรวจจับที่ยืนยันคุณลักษณะในการตีความข้อมูลทางประสาทสัมผัส ลูประสาทสัมผัสเหล่านี้แล้วเปิดใช้งานสูง และสูงกว่าระดับลู , การขจัดความเป็นไปได้ที่ผิดพลาด และให้ความเข้าใจกับความหมายเหมาะสม