Table 2 shows the total primary ene

Table 2 shows the total primary energy supply (TPES)
mix in 2000 and selected future years under four scenarios.
Thailand is a fossil fuel intensive economy. In the year
2000, the share of fossil fuels (i.e., coal, oil and natural gas)
in TPES accounted for about 81% (62 Mtoe) and the
remaining share of 19% (15 Mtoe) came from NRE
sources. Also in the same year, oil accounted for more
than 56% of the total fossil fuels used while biomass (i.e.,
firewood, charcoal, agricultural residues, plantation-based
biomass and biofuels) accounted for more than 93% of the
total NRE sources.
As seen from Table 2, the TPES between years 2000 and
2050 is estimated to grow from more than three-folds under
TB2 to about eight-folds under TA1. Fossil fuels would
continue to dominate the country’s primary energy supply
mix accounting for more than 86% of the TPES under all
scenarios in 2050. Oil would remain a single largest fuel in
the primary energy supply mix over the study period except
under TA1 scenario in 2050. Among the fossil fuels use
over the study period, coal would essentially be restricted
to all industrial applications except fabricated metals and
electricity generation, while oil would essentially be
restricted to manufacturing and transportation. In the case
of natural gas use, electricity generation would account for
the most followed by industries (food beverages, chemicals,
cement and fabricated metals production) and road
transportation. In contrast, the share of NRE sources in
TPES would fall from 19% in 2000 to the lowest at 6%
under TA1 to about 14% under TB2 in 2050. The fall in
the share of NRE sources over the study period is due to
the limited domestic resource availability of biomass and
limited potential of hydro, solar, wind and geothermal in
the country. Renewables (i.e., biomass and hydro) would
account for more than 99% of total NRE sources over the
study period. New renewables (i.e., solar, wind and
geothermal), however, would account for only a negligible
part in TPES over the study period. By 2050, use of
biofuels (i.e., ethanol and biodiesel) in transportation
sector would reach about 12.7% of the total biomass
requirements which corresponds to about 1% of the TPES
under the reference scenario.
Thailand is a net energy import country in the past. The
EID was about 50% in 2000 and it is estimated to reach
ranging from 80% under TB2 to 89% under TA1 in 2050
(Fig. 3). The increase in EID over the study period is
mainly due to growing energy demand and the limited
domestic energy resources availability in the country. In
2000 alone, almost all oil consumption, more than 33% of
total coal consumption and 10% of total natural gas
consumption were imported in Thailand. Under the high
growth TA1 scenario, coal and natural gas imports by 2050
are estimated to reach up to 90% and 95% of total coal

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตารางที่ 2 แสดงการจัดหาพลังงานรวมหลัก (TPES)ผสมใน 2000 เลือกอนาคตปีสี่ภายใต้สถานการณ์ประเทศไทยมีเศรษฐกิจเข้มข้นของเชื้อเพลิงฟอสซิล ในปี2000 สัดส่วนของเชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ)ใน TPES คิดประมาณ 81% (62 Mtoe) และส่วนแบ่ง 19% (15 Mtoe) ที่เหลือมาจาก NREแหล่งที่มา นอกจากนี้ ในปีเดียวกัน น้ำมันลงบัญชีเพิ่มเติมกว่า 56% ของเชื้อเพลิงฟอสซิลรวมที่ใช้ในขณะที่ชีวมวล (เช่นฟืน ถ่าน เกษตรตกค้าง ตามสวนชีวมวลและเชื้อเพลิงชีวภาพ) คิดเป็นกว่า 93% ของการรวมแหล่ง NREเท่าที่เห็นจากตารางที่ 2, TPES ระหว่างปี 2000 และ2050 คาดเติบโตจากมากกว่าสามพับภายใต้TB2 ไปเกี่ยวกับแปดพับภายใต้ TA1 เชื้อเพลิงฟอสซิลจะยังครองพลังงานหลักของประเทศผสมบัญชีกว่า 86% ของ TPES ภายใต้ทั้งหมดสถานการณ์ใน 2050 น้ำมันจะยังคง เป็นเชื้อเพลิงที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในพลังงานหลักใส่ผสมในช่วงการศึกษายกเว้นภายใต้สถานการณ์ TA1 ใน 2050 ระหว่างการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลระยะเวลาการศึกษา ถ่านหินเป็นหลักจะถูกจำกัดการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมทั้งหมดยกเว้นโลหะประดิษฐ์ และไฟฟ้า ในขณะที่น้ำมันจะเป็นจำกัดการผลิตและการขนส่ง ในกรณีการใช้ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้าจะบัญชีสำหรับไปมาแล้วสุด โดยอุตสาหกรรม (อาหารเครื่องดื่ม สารเคมีปูนซีเมนต์และผลิตโลหะประกอบ) และถนนขนส่ง ในทางตรงกันข้าม การแบ่งปันของ NRE แหล่งในTPES จะลดลงจาก 19% ในปี 2000 สุดที่ 6%ภายใต้ TA1 ประมาณ 14% ภายใต้ TB2 ใน 2050 ฤดูใบไม้ร่วงในแบ่งแหล่ง NRE ระยะเวลาการศึกษาจะครบกำหนดจำกัดในทรัพยากรของชีวมวล และจำกัด(มหาชน)มีศักยภาพของพลังน้ำ พลังงานแสง อาทิตย์ ลม และความร้อนใต้พิภพในประเทศ จะเท่า (เช่น ชีวมวลและน้ำ)บัญชีมากกว่า 99% รวม NRE แหล่งมากกว่าศึกษาระยะเวลา เท่าใหม่ (เช่น แสงอาทิตย์ ลม และความร้อนใต้พิภพ), อย่างไรก็ตาม จะบัญชีเท่ากับระยะส่วนใน TPES ระยะเวลาการศึกษา ภายในปี 2050 ใช้องไข (เช่น เอทานอลและไบโอดีเซล) ในการขนส่งภาคจะถึงประมาณ 12.7% ของชีวมวลรวมความต้องการซึ่งตรงกับประมาณ 1% ของ TPESภายใต้สถานการณ์อ้างอิงประเทศไทยเป็นประเทศนำเข้าพลังงานสุทธิในอดีต ที่อี๊ดมีประมาณ 50% ในปี 2000 และมีประเมินถึงตั้งแต่ 80% ภายใต้ TB2 89% ภายใต้ TA1 ใน 2050(Fig. 3) เพิ่มในอีดระยะเวลาการศึกษาส่วนใหญ่เนื่องจากความต้องการพลังงานและการจำกัดการเจริญเติบโตมีทรัพยากรพลังงานในประเทศอยู่ในประเทศ ในคนเดียว 2000 เกือบทั้งหมดน้ำมันปริมาณ มากขึ้นกว่า 33% ของปริมาณการใช้ถ่านหินทั้งหมดและ 10% ของก๊าซธรรมชาติทั้งหมดปริมาณนำเข้าในประเทศไทย ภายใต้สูงเติบโต TA1 สถานการณ์ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาตินำเข้าภายในปี 2050คาดว่าจะถึง 90% และ 95% ถ่านหินทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตารางที่ 2 แสดงจำนวนการจัดหาพลังงาน ( tpes )
ผสมใน 2000 และเลือกปีในอนาคตภายใต้สี่สถานการณ์
ประเทศไทยเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เข้มข้นมากขึ้น ในปี
2000 หุ้นของเชื้อเพลิงฟอสซิล ( เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ )
ใน tpes คิดเป็นประมาณ 81% ( 62 mtoe ) และที่เหลือแบ่ง 19 %
( 15 mtoe ) ที่มาจากแหล่ง nre

นอกจากนี้ในปีเดียวกันน้ำมันคิดเป็นมากขึ้น
กว่า 56% ของทั้งหมดเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้ในขณะที่ชีวมวล ( I ,
ฟืน ถ่าน การเกษตรตกค้างจากชีวมวล และเชื้อเพลิงชีวภาพ ทำสวน
) คิดเป็นกว่า 93% ของแหล่งรวม nre
.
เห็นได้จากตารางที่ 2 , tpes ระหว่างปี 2000 และ
2050 คาดว่าเติบโตจากมากกว่า สามพับภายใต้
tb2 ประมาณแปดเท่า ภายใต้ ta1 . เชื้อเพลิงฟอสซิลจะ
ยังคงครองประเทศ การจัดหาพลังงานผสม
บัญชีมากกว่า 86% ของ tpes ภายใต้
สถานการณ์ในเบื้องต้น น้ำมันจะยังคงเดียวที่ใหญ่ที่สุดในการจัดหาพลังงานเชื้อเพลิง
ผสมในช่วงที่ศึกษายกเว้น
ภายใต้สถานการณ์ ta1 ในปี 2050 . ในบรรดาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้
ตลอดระยะเวลาการศึกษา ถ่านหินจะถูก
เป็นหลักทุกอุตสาหกรรมยกเว้นประดิษฐ์โลหะและ
การผลิตกระแสไฟฟ้า ในขณะที่น้ำมันจะเป็นหลักเป็น
จำกัดการผลิตและการขนส่ง ในกรณี
ก๊าซธรรมชาติที่ใช้ผลิตไฟฟ้าจะบัญชีสำหรับ
ที่สุด รองลงมาคืออุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ ซีเมนต์ และประดิษฐ์โลหะการผลิต

) และถนนขนส่ง ในทางตรงกันข้ามหุ้นของ nre แหล่ง
tpes จะลดลงจาก 19% ในปี 2000 ที่จะต่ำสุดที่ 6%
ภายใต้ ta1 ประมาณ 14 % ภายใต้ tb2 ในปี 2050 . ฤดูใบไม้ร่วงใน
หุ้นของ nre แหล่งเกินระยะเวลาการศึกษาเนื่องจาก
จำกัดความพร้อมทรัพยากรภายในประเทศและศักยภาพชีวมวล
จำกัดพลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และความร้อนใต้พิภพใน
ประเทศ พลังงานหมุนเวียน ( เช่น ชีวมวลและพลังน้ำ
) จะบัญชีกว่า 99% ของแหล่ง nre ทั้งหมดกว่า
ระยะเวลาการศึกษา พลังงานใหม่ ( เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานใต้พิภพ
) แต่จะบัญชีสำหรับเพียงเล็กน้อย
ส่วนใน tpes ตลอดระยะเวลาการศึกษา โดย 2050 , ใช้
เชื้อเพลิงชีวภาพเช่น เอทานอลและไบโอดีเซล ) ในภาคการขนส่ง
จะถึงประมาณ 12.7 % ของทั้งหมดชีวมวล
ความต้องการซึ่งสอดคล้องกับประมาณ 1 % ของ tpes
ภายใต้การอ้างอิงภาพจำลอง .
ไทยเป็นประเทศนำเข้าพลังงานสุทธิ ในอดีต
Eid คือประมาณ 50% ในปี 2000 และเป็นประมาณถึง
ตั้งแต่ 80% ภายใต้ tb2 ถึง 89 % ภายใต้ ta1 ใน 2050
( รูปที่ 3 ) เพิ่มขึ้นใน Eid ช่วงศึกษา
ส่วนใหญ่เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของพลังงานและทรัพยากรพลังงานจำกัด
ภายในประเทศ ห้องพักในประเทศ ใน
2000 คนเดียวเกือบทั้งหมด น้ำมัน การบริโภคมากกว่า 33 %
การบริโภคถ่านหินทั้งหมด และ 10% ของปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติทั้งหมด
ถูกนำเข้าในไทย ภายใต้สถานการณ์การเจริญเติบโตสูง
ta1 ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ นำเข้าโดย 2050
คาดว่าจะสูงถึง 90% และ 95% ของรายได้รวม