สรุปผลการศึกษาจากการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลให้มีงานทำของนักศึกษามหาวิทยาลั การแปล - สรุปผลการศึกษาจากการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลให้มีงานทำของนักศึกษามหาวิทยาลั ไทย วิธีการพูด

สรุปผลการศึกษาจากการศึกษาปัจจัยที่ส

สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลให้มีงานทำของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง อยู่ชั้นปีที 1-4
1.ปัจจัยที่มีผลต่อการมีงานทำหลังสำเร็จการศึกษา
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ผู้หญิงตอบแบบสอบถาม 80% และผู้ชายตอบแบบสอบถาม 20% ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการมีงานทำ จากความพึงพอใจแยกคณะ เป็น 5 คณะ ดังนี้
1.1 คณะนิติศาสตร์ มีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ บุคลิกภาพ35%
1.2 คณะวิทยาลัยสหวิทยาการสังคมศาสตร์ ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุด ดังนี้ชื่อเสียงมหาวิทยาลัย 31%
1.3 คณะสังคมสงเคราะห์ ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ ไม่มีความกดดัน/พ่อแม่สนับสนุน33%
1.4 คณะสาธารณสุขศาสตร์ ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ บุคลิก 35%
1.5 คณะศิลปกรรมศาสตร์ ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ บุคลิกภาพ34%
จากการสำรวจทุกคณะสามารถนำข้อมูลมารวมกัน เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง ดังนี้ ผลการศึกษา 15% ชื่อเสียงมหาลัย14% ไม่กดดัน/ครอบครัวสนับสนุน14% พฤติกรรมการใช้โซเซียลเช่น การโพสต์ 14% ประสบการฝึกงาน 12% นิสัยส่วนตัว12%ทัศนคิตในการทำงาน11% ครอบครัวกดดัน /ถูกบังคับ5% เพศ 3% ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำหลังเรียนจบของนักศึกษาธรรมศาสตร์ ศุนย์ลำปาง 3 อันดับ คือ ปัจจัยทางด้านผลการศึกษา รองลงมา คือ ชื่อเสียงมหาลัย ไม่กดดัน/ครอบครัวสนับสนุน และพฤติกรรมการใช้โซเซียลเช่น การโพสต์
ผลการวิเคราะห์จากการสัมภาษณ์พี่ๆที่กำลังจะจบการศึกษา พบว่า ปัญหาที่สำคัญมากสำหรับบัณฑิตจบใหม่ คือ การหาประสบการณ์ในการทำงาน หากทำงานไม่เป็นก็ไม่สามารถรับมือหรือแก้ไขกับปัญหาต่างๆได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่เกี่ยวกับภาษา ที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ ปัจจุบันได้เข้าสู่ AEC ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆล้วนมีความสำคัญมากต่อการมีงานทำมาก และผลการเรียนก็มีผลมาก เพราะเกรดเฉลี่ย แสดงถึงความรับผิดชอบ และยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของบริษัทนั้นอีกด้วย จากผลการศึกษาพบว่าปัญหาที่นักศึกษาธรรมศาสตร์ (ศูนย์ลำปาง) คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อการมีงานทำที่สุดได้แก่ การได้รับความกดดันจากสังคม มีประสบการณ์การทำงานไม่เพียงพอ บุคลิกยังไม่ดี การแข่งขันสูง การเข้ากับที่ทำงานไม่ได้ หวาดกลัวต่อการทำงาน ไม่รู้งานที่ตัวเองอยากทำจริงๆ ความสามารถไม่ถึง มีค่าครองชีพที่ใช้ในการทำงานสูง และผลการเรียนไม่ค่อยดี
2. วิธีการในการเสริมสร้างความมั่นใจ จากการสัมภาษณ์พบว่า การที่เราจะสามารถเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานหลังเรียนจบ คือ
2.1 การหาประสบการณ์ในการทำงานเพิ่ม เพราะว่า การลองทำงานก่อนเรียนจบไม่ว่าจะเป็นการพุ่งเป้าไปที่งานที่เราสนใจที่เดียว หรือการลองผิดลองถูก ทำงานหลาย ๆ ที่ ล้วนเป็นการสร้างสมประสบการณ์ให้ตัวเราได้อย่างดีทั้งนั้น ประสบการณ์ทั้งบวกและลบที่ได้จากการทำงานในขณะที่เรียนเหล่านี้ จะทำให้เราเติบโตขึ้น มีวุฒิภาวะเร็วขึ้น และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่เราเวลาที่เราออกไปทำงานข้างนอกจริง ๆ และ ได้เปรียบคนที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้เรียนรู้ ได้ฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น
2.2 การหาเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะว่า ทำให้เรารู้จักตัวตน บุคลิก นิสัยใจคอ ของเราเองได้ดีขึ้นว่า เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร งานนั้น ๆ เหมาะกับบุคลิกและความถนัดของเรา คำตอบของคำถามจะสะท้อนความเป็นตัวเรา สิ่งที่เราสนใจ และทัศนคติของเราเพื่อประกอบการพิจารณาเข้าทำงาน
2.3 การเรียนรู้ภาษาเพิ่ม เพราะว่า ภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ เป็นภาษาที่ช่วยให้การติดต่อทางธุรกิจมีความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้คนทำงานที่อยู่กันคนละประเทศมีความเข้าใจกันมากขึ้น จึงเป็นที่เข้าใจตรงกันว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักของการทำงาน หากพูดไม่ได้ ก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับการทำงานได้ หรือแม้แต่การสมัครงานเอง หากเราไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี โอกาสที่จะได้งานทำก็มีน้อยลง ภาษา ยัง เป็นสื่อกลางในการสื่อสารเมื่อเปิด AEC เมื่อมีการเปิด AEC อย่างเต็มตัวแล้ว เราจะรู้สึกว่าภาษาอังกฤษแม้แต่ภาษาจีน เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน หากพูดไม่ได้ก็ไม่ต่างจากคนที่เป็นใบ้ เกิดอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารมากขึ้น เราจึงต้องหมั่นฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษให้ดี เพื่อไม่ให้สูญเสียโอกาสที่ดีเมื่อมีการเปิด AEC และ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้คนทำงาน
2.4 การเตรียมความพร้อม เพราะว่า ปัจจุบันการรับคนเข้าทำงานในทุกวันนี้จะพิจารณา สิ่งอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น บุคลิกภาพ ความคล่องตัว ความอดทน ความเป็นคนมีปฏิภาณ ไหวพริบ เป็นต้น การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในการหางาน ทำหรือสมัครงาน จึงเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดี และควรทำ เข้าทำนองที่ว่า "ฟอร์มดี มีชัยไปกว่าครึ่ง" ซึ่งการไปหางานหรือการไปสมัครงานเปรียบ เสมือนกับคุณเป็นเซลล์แมน หรือเซลล์วูแมน ที่จำเป็นจะต้อง เตรียมความพร้อมในการสมัครงาน โดย คุณจำเป็นจะต้องมีเทคนิค วิธีการต่างๆ ที่ทำให้ผู้ซื้อ สินค้า (นายจ้าง) พร้อมที่อยากจะได้สินค้า (ตัวคุณ) เอาไว้ ถ้าคุณทำได้ โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จในการ หางานทำมีมาก ดังนั้นถ้าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ไม่ต้องการตกอยู่ในสถานการณ์ว่า "ตกงาน" ก่อนหางานทำ ควรเตรียมความพร้อมดังนี้

1. ค้นพบตัวเองให้ชัดเจน
2. ติดตามข่าวสาร
3. การมองหาแหล่งงาน
4. การเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น Resume, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร
5. การสัมภาษณ์
2.5 การตั้งใจเรียน เพราะว่า การที่เราตั้งใจเรียน มีความรู้ และส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยรวมออกมาได้ดี การรับเข้าทำงานในแต่ละที่ย่อมกำหนดเกรดเฉลี่ย ถ้าเรามีเกรดเฉลี่ยที่ดี ย่อมมีโอกาสสูงกว่า และมีสิทธิ์ได้รับการเข้า
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
สรุปผลการศึกษาจากการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลให้มีงานทำของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปางประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปางอยู่ชั้นปีที 1-41.ปัจจัยที่มีผลต่อการมีงานทำหลังสำเร็จการศึกษา ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามผู้ตอบแบบสอบถามพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงผู้หญิงตอบแบบสอบถาม 80% และผู้ชายตอบแบบสอบถาม 20% ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการมีงานทำจากความพึงพอใจแยกคณะความ 5 คณะดังนี้ 1.1 คณะนิติศาสตร์มีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ บุคลิกภาพ35% 1.2 คณะวิทยาลัยสหวิทยาการสังคมศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ชื่อเสียงมหาวิทยาลัย 31% 1.3 คณะสังคมสงเคราะห์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ ไม่มีความกดดัน/พ่อแม่สนับสนุน33% 1.4 คณะสาธารณสุขศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้บุคลิก 35% 1.5 คณะศิลปกรรมศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ บุคลิกภาพ34% จากการสำรวจทุกคณะสามารถนำข้อมูลมารวมกันเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปางดังนี้ผลการศึกษา 15% ชื่อเสียงมหาลัย14% % ไม่กดดัน/ครอบครัวสนับสนุน14 พฤติกรรมการใช้โซเซียลเช่นการโพสต์ประสบการฝึกงาน 14% 12% นิสัยส่วนตัว12% ทัศนคิตในการทำงาน11% ครอบครัวกดดัน /ถูกบังคับ5% เพศ 3% ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำหลังเรียนจบของนักศึกษาธรรมศาสตร์ศุนย์ลำปาง 3 อันดับคือปัจจัยทางด้านผลการศึกษารองลงมาคือชื่อเสียงมหาลัยและพฤติกรรมการใช้โซเซียลเช่นไม่กดดัน/ครอบครัวสนับสนุนการโพสต์ ผลการวิเคราะห์จากการสัมภาษณ์พี่ๆที่กำลังจะจบการศึกษาพบว่าปัญหาที่สำคัญมากสำหรับบัณฑิตจบใหม่คือการหาประสบการณ์ในการทำงานหากทำงานไม่เป็นก็ไม่สามารถรับมือหรือแก้ไขกับปัญหาต่างๆได้นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เกี่ยวกับภาษาที่ทุกคนควรให้ความสำคัญปัจจุบันได้เข้าสู่ AEC ภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆล้วนมีความสำคัญมากต่อการมีงานทำมากและผลการเรียนก็มีผลมากเพราะเกรดเฉลี่ยแสดงถึงความรับผิดชอบและยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของบริษัทนั้นอีกด้วยจากผลการศึกษาพบว่าปัญหาที่นักศึกษาธรรมศาสตร์ (ศูนย์ลำปาง) คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อการมีงานทำที่สุดได้แก่การได้รับความกดดันจากสังคมมีประสบการณ์การทำงานไม่เพียงพอบุคลิกยังไม่ดีการแข่งขันสูงการเข้ากับที่ทำงานไม่ได้หวาดกลัวต่อการทำงานไม่รู้งานที่ตัวเองอยากทำจริง ๆ ความสามารถไม่ถึงมีค่าครองชีพที่ใช้ในการทำงานสูงและผลการเรียนไม่ค่อยดี2. วิธีการในการเสริมสร้างความมั่นใจจากการสัมภาษณ์พบว่าการที่เราจะสามารถเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานหลังเรียนจบคือ 2.1 การหาประสบการณ์ในการทำงานเพิ่มเพราะว่าการลองทำงานก่อนเรียนจบไม่ว่าจะเป็นการพุ่งเป้าไปที่งานที่เราสนใจที่เดียวหรือการลองผิดลองถูกทำงานหลายๆ ล้วนเป็นการสร้างสมประสบการณ์ให้ตัวเราได้อย่างดีทั้งนั้นประสบการณ์ทั้งบวกและลบที่ได้จากการทำงานในขณะที่เรียนเหล่านี้จะทำให้เราเติบโตขึ้นมีวุฒิภาวะเร็วขึ้นและเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่เราเวลาที่เราออกไปทำงานข้างนอกจริงๆ และได้เปรียบคนที่ไม่เคยทำมาก่อนได้เรียนรู้ได้ฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น2.2 การหาเป้าหมายที่ชัดเจนเพราะว่าทำให้เรารู้จักตัวตนบุคลิกนิสัยใจคอของเราเองได้ดีขึ้นว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรงานนั้นๆ เหมาะกับบุคลิกและความถนัดของเราคำตอบของคำถามจะสะท้อนความเป็นตัวเราสิ่งที่เราสนใจและทัศนคติของเราเพื่อประกอบการพิจารณาเข้าทำงาน 2.3 การเรียนรู้ภาษาเพิ่มเพราะว่าภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ เป็นภาษาที่ช่วยให้การติดต่อทางธุรกิจมีความสะดวกสบายมากขึ้นทำให้คนทำงานที่อยู่กันคนละประเทศมีความเข้าใจกันมากขึ้นจึงเป็นที่เข้าใจตรงกันว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักของการทำงานหากพูดไม่ได้ก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับการทำงานได้หรือแม้แต่การสมัครงานเองหากเราไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีโอกาสที่จะได้งานทำก็มีน้อยลงภาษายังเป็นสื่อกลางในการสื่อสารเมื่อเปิด AEC เมื่อมีการเปิด AEC อย่างเต็มตัวแล้วเราจะรู้สึกว่าภาษาอังกฤษแม้แต่ภาษาจีนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคนหากพูดไม่ได้ก็ไม่ต่างจากคนที่เป็นใบ้เกิดอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารมากขึ้นเราจึงต้องหมั่นฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษให้ดีเพื่อไม่ให้สูญเสียโอกาสที่ดีเมื่อมีการเปิด AEC และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้คนทำงาน2.4 การเตรียมความพร้อมเพราะว่าปัจจุบันการรับคนเข้าทำงานในทุกวันนี้จะพิจารณาสิ่งอื่นๆ ประกอบด้วยเช่นบุคลิกภาพความคล่องตัวความอดทนความเป็นคนมีปฏิภาณไหวพริบเป็นต้นการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในการหางานทำหรือสมัครงานจึงเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีและควรทำเข้าทำนองที่ว่า "ฟอร์มดีมีชัยไปกว่าครึ่ง" ซึ่งการไปหางานหรือการไปสมัครงานเปรียบเสมือนกับคุณเป็นเซลล์แมนหรือเซลล์วูแมนที่จำเป็นจะต้องเตรียมความพร้อมในการสมัครงานโดยคุณจำเป็นจะต้องมีเทคนิควิธีการต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ซื้อสินค้า (นายจ้าง) พร้อมที่อยากจะได้สินค้า (ตัวคุณ) เอาไว้ถ้าคุณทำได้โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จในการหางานทำมีมากดังนั้นถ้าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ไม่ต้องการตกอยู่ในสถานการณ์ว่า "ตกงาน" ก่อนหางานทำควรเตรียมความพร้อมดังนี้ 1. ค้นพบตัวเองให้ชัดเจน 2. ติดตามข่าวสาร 3. การมองหาแหล่งงาน 4. การเขียนเอกสารประวัติย่อเช่น Resume จดหมายสมัครงาน การเขียนใบสมัคร 5. การสัมภาษณ์ 2.5 การตั้งใจเรียนเพราะว่าการที่เราตั้งใจเรียนมีความรู้และส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยรวมออกมาได้ดีการรับเข้าทำงานในแต่ละที่ย่อมกำหนดเกรดเฉลี่ยถ้าเรามีเกรดเฉลี่ยที่ดีย่อมมีโอกาสสูงกว่าและมีสิทธิ์ได้รับการเข้า
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
หัวเรื่อง: การผลสรุปศึกษาเป็น
จากเนชั่หัวเรื่อง: การศึกษาเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้มีงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทำของนักศึกษาเป็นผู้แต่ง: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นศูนย์ลำปางประชากรที่ใช้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การศึกษาเป็นครั้งนี้คือนักศึกษาเป็นระดับสูงสุดปริญญาตรีวุฒิการผู้แต่ง: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นศูนย์ลำปางขณะนี้ชั้นปีที 1-4
1. ปัจจัยที่มี ผลต่อหัวเรื่อง: การมีงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทำหลังสำเร็จหัวเรื่อง: การศึกษาเป็น
ผลหัวเรื่อง: การวิเคราะห์ Thailand ข้อมูลทั่วไปการของคุณผู้ตอบแบบสอบถามคุณผู้ตอบแบบสอบถามพบว่าได้ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงผู้หญิงรูปตอบแบบสอบถาม 80% และผู้ชายตอบแบบสอบถาม 20% ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อ การมี งานทำจากความพึงพอใจแยกคณะ เป็น 5 คณะดังนี้
1.1 คณะนิติศาสตร์มีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้บุคลิกภาพ 35%
1.2 คณะวิทยาลัยสหวิทยาการสังคมศาสตร์ความคิดเห็นว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมี งานทำมากที่สุดดังนี้ชื่อเสียงมหาวิทยาลัย 31%
1.3 คณะสังคมสงเคราะห์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่ง ผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ไม่มีความกดดัน / พ่อแม่สนับสนุน 33%
1.4 คณะสาธารณสุขศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ ส่งผลต่อการมี งานทำมากที่สุดดังนี้บุคลิก 35%
1.5 คณะศิลปกรรมศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้บุคลิกภาพ 34%
จากการสำรวจทุกคณะสามารถนำข้อมูล มารวมกันเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงาน ทำของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปางดังนี้ผล การศึกษา 15% ชื่อเสียงมหาลัย 14% ไม่กดดัน / ครอบครัวสนับสนุน 14% พฤติกรรมการใช้โซเซียลเช่นการ โพสต์ 14% ประสบการฝึกงาน 12% นิสัยส่วนตัว 12% ทัศนคิตใน การทำงาน 11% ครอบครัวกดดัน / ถูกบังคับ 5% เพศ 3% ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าปัจจัยที่ส่ง ผลต่อการมีงานทำหลังเรียนจบของนักศึกษาธรรมศาสตร์ศุนย์ลำปาง 3 อันดับคือปัจจัยทางด้านผลการศึกษา รองลงมาคือ ชื่อเสียงมหาลัยไม่กดดัน / ครอบครัวสนับสนุนและพฤติกรรมหัวเรื่อง: การใช้คุณโซเซียลเช่นหัวเรื่อง: การโพสต์
ผลหัวเรื่อง: การวิเคราะห์จากเนชั่หัวเรื่อง: การสัมภาษณ์คุณพี่ ๆ ที่กำลังจะจบหัวเรื่อง: การศึกษาเป็นพบว่าได้ปฐมวัยที่สำคัญมากสำหรับบัณฑิตวุฒิการจบใหม่คือหัวเรื่อง: การหาประสบการณ์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การ ทำงานหากทำงานไม่เป็นก็ไม่สามารถ รับมือหรือแก้ไขกับปัญหาต่างๆได้นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เกี่ยวกับภาษาที่ทุกคนควรให้ความสำคัญปัจจุบันได้เข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ล้วนมี ความสำคัญมากต่อการมี งานทำมากและผลการเรียนก็ มีผลมากเพราะเกรดเฉลี่ยแสดงถึงความรับผิดชอบและยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของ บริษัท นั้นอีกด้วยจากผลการศึกษาพบว่าปัญหาที่นักศึกษาธรรมศาสตร์ (ศูนย์ลำปาง) คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ ที่ส่งผลต่อการมีงานทำ ที่สุด ได้แก่ การได้รับความกดดันจากสังคมมีประสบการณ์การทำงานไม่เพียงพอบุคลิกยังไม่ดีการแข่งขันสูงการเข้ากับที่ทำงานไม่ได้หวาดกลัวต่อการทำงานไม่รู้งานที่ตัวเองอยากทำจริงๆ ความสามารถไม่ถึงมีค่าครองชีพที่ใช้ ในการทำงานสูงและผลการเรียนไม่ค่อยดี
2 วิธีการในการเสริมสร้างความมั่นใจ จากการสัมภาษณ์พบว่าการที่เราจะสามารถเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานหลังเรียนจบคือ
2.1 การหาประสบการณ์ในการทำงานเพิ่มเพราะว่า การลองทำงานก่อนเรียนจบไม่ว่าจะเป็นการพุ่งเป้า ไปที่งานที่เราสนใจที่เดียว หรือการลองผิดลองถูกทำงานหลาย ๆ ที่ล้วนเป็นการสร้างสมประสบการณ์ให้ตัวเราได้อย่างดีทั้งนั้นประสบการณ์ทั้งบวกและลบที่ได้จากการทำงานในขณะที่เรียนเหล่านี้จะทำให้เราเติบโต ขึ้นมีวุฒิภาวะเร็วขึ้นและเสริม สร้างความมั่นใจให้แก่เราเวลาที่เราออกไปทำงานข้างนอกจริง ๆ และได้เปรียบคนที่ไม่เคยทำมาก่อนได้เรียนรู้ได้ฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น
2.2 การหาเป้าหมายที่ ชัดเจนเพราะว่าทำให้เรารู้จักตัวตนบุคลิก นิสัยใจคอของเราเองได้ดีขึ้นว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรงานนั้น ๆ เหมาะกับบุคลิกและความถนัดของเราคำตอบของคำถามจะสะท้อนความเป็นตัวเราสิ่งที่เราสนใจและทัศนคติของ เราเพื่อประกอบการพิจารณาเข้าทำงาน
2.3 การเรียนรู้ภาษาเพิ่มเพราะว่าภาษาอังกฤษ และภาษาอื่น ๆ เป็นภาษาที่ช่วยให้การติดต่อทางธุรกิจมีความสะดวกสบายมากขึ้นทำให้คนทำงานที่อยู่กันคนละประเทศมีความเข้าใจกันมากขึ้นจึง เป็นที่เข้าใจตรงกันว่าภาษาอังกฤษเป็น ภาษาหลักของการทำงานหากพูดไม่ได้ก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับการทำงานได้หรือแม้แต่การสมัครงานเองหากเราไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีโอกาสที่จะได้งานทำก็ มีน้อยลงภาษายังเป็นสื่อกลาง ในการสื่อสารเมื่อเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มตัวแล้วเราจะรู้สึกว่าภาษา อังกฤษแม้แต่ภาษาจีนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคนหากพูดไม่ได้ก็ไม่ต่างจากคนที่เป็นใบ้ เกิดอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารมากขึ้น เราจึงต้องหมั่นฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษให้ดีเพื่อไม่ให้สูญเสียโอกาสที่ดีเมื่อมีการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้คนทำงาน
2.4 การเตรียมความพร้อมเพราะว่าปัจจุบันการรับ คน เข้าทำงานในทุกวันนี้จะพิจารณาสิ่งอื่น ๆ ประกอบด้วยเช่นบุคลิกภาพความคล่องตัวความอดทนความเป็นคนมีปฏิภาณไหวพริบเป็นต้นการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆในการหางานทำหรือสมัครงานจึงเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีและควรทำเข้าทำนอง ที่ว่า "ฟอร์มดีมีชัยไปกว่าครึ่ง" ซึ่งการไปหางานหรือการไป สมัครงานเปรียบเสมือนกับคุณเป็นเซลล์แมนหรือเซลล์วูแมนที่จำเป็นจะต้องเตรียมความพร้อมในการสมัครงานโดยคุณจำเป็นจะต้องมีเทคนิค วิธีการต่างๆที่ทำให้ผู้ซื้อสินค้า (นายจ้าง) พร้อมที่อยากจะได้สินค้า (ตัวคุณ) เอาไว้ถ้าคุณทำได้โอกาสที่คุณ จะประสบความสำเร็จในการหางานทำมีมากดังนั้นถ้าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ไม่ต้องการตก อยู่ในสถานการณ์ว่า "ตกงาน" ก่อนหางานทำควรเตรียมความพร้อม ดังนี้

1 ค้นพบตัวเองให้ชัดเจน
2 ติดตามข่าวสาร
3 การมองหาแหล่งงาน
4 การเขียนเอกสารประวัติย่อเช่นสมัครงาน, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร
5 การสัมภาษณ์
2.5 การตั้งใจเรียนเพราะว่าการที่เราตั้งใจ เรียนมีความรู้และส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยรวมออกมาได้ดีการรับเข้าทำงานในแต่ละที่ย่อมกำหนดเกรดเฉลี่ยถ้าเรามีเกรดเฉลี่ยที่ดีย่อมมีโอกาสสูงกว่าและ มีสิทธิ์ได้รับการเข้า
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
สรุปผลการศึกษาจากการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลให้มีงานทำของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปางประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ความนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปางอยู่ชั้นปีที 1-41 . ปัจจัยที่มีผลต่อการมีงานทำหลังสำเร็จการศึกษาผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามผู้ตอบแบบสอบถามพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงผู้หญิงตอบแบบสอบถาม 80% และผู้ชายตอบแบบสอบถาม 20% ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการมีงานทำจากความพึงพอใจแยกคณะเป็น 5 คณะดังนี้1.1 คณะนิติศาสตร์มีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้บุคลิกภาพ 35 เปอร์เซ็นต์1.2 คณะวิทยาลัยสหวิทยาการสังคมศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ชื่อเสียงมหาวิทยาลัย 31 %1.3 คณะสังคมสงเคราะห์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้ไม่มีความกดดัน / พ่อแม่สนับสนุน 33 เปอร์เซ็นต์1.4 คณะสาธารณสุขศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้บุคลิก 35 เปอร์เซ็นต์1.5 คณะศิลปกรรมศาสตร์ความคิดเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำมากที่สุดดังนี้บุคลิกภาพ 34%จากการสำรวจทุกคณะสามารถนำข้อมูลมารวมกันเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปางดังนี้ผลการศึกษา 15% ชื่อเสียงมหาลัย 14% ไม่กดดัน / ครอบครัวสนับสนุน 14% พฤติกรรมการใช้โซเซียลเช่นการโพสต์ 14% ประสบการฝึกงาน 12% นิสัยส่วนตัว 12% ทัศนคิตในการทำงาน 11% ครอ บครัวกดดัน / ถูกบังคับ 5% เพศ 3% ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีงานทำหลังเรียนจบของนักศึกษาธรรมศาสตร์ศุนย์ลำปาง 3 อันดับความปัจจัยทางด้านผลการศึกษารองลงมาความชื่อเสียงมหาลัยไม่กดดัน / ครอบครัวสนับสนุนและพฤติกรรมการใช้โซเซียลเช่นการโพสต์ผลการวิเคราะห์จากการสัมภาษณ์พี่ๆที่กำลังจะจบการศึกษาพบว่าปัญหาที่สำคัญมากสำหรับบัณฑิตจบใหม่ความการหาประสบการณ์ในการทำงานหากทำงานไม่เป็นก็ไม่สามารถรับมือหรือแก้ไขกับปัญหาต่างๆได้นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เกี่ยวกับภาษาที่ทุกคนควรให้ความสำคัญปัจจุบันได้ เข้าสู่ AEC อาจารย์ซิธ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: