7) The therapist sb,ould prepare fo

7) The therapist sb,ould prepare for the meeting so that he or she can maintain a sense of calm -1I'n~ confidence, even in the face of the colleague's potentially intense reactions. It is helpful for the therapist to assume as nonthreatening a stance as possible, avoiding righteousness, and a moralistic approach. For example, the therapist may expression concern or confusion and ask for clarification on the problem, allowing the colleague ample time to offer an explanation for his or her behavior (Koocher & Keith-Spiegel, 1998).

8) The tone of the conversation should be both constructive and educative. The therapist may attempt to establish a partnership with the colleague so that they may confront the situation together. The therapist should avoid a vertical, accusatory or judgmental posture (Koocher & Keith-Spiegel, 1998).

9) The therapist should describe his or her ethical responsibiiities in the situation, and should be prepared to state his or her concerns for the ethical standards that have been violated, if necessary. Directness, openness and honesty are important, and the therapist should not attempt to trick the colleague into an admission or to play detective (Koocher & Keith-Spiegel, 1998).

10) The therapist should assess his or her relationship with the colleague. Is the colleague a subordinate or superior, a friend or an adversary, or someone the therapist knows well or not at all? The approach taken with the colleague is often directly related to the nature of the existing relationship, or lack thereof.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

7) sb นี้บำบัดโรค ould เตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมเพื่อให้เขาหรือเธอสามารถรักษาความสงบ - 1I เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ~ ความเชื่อมั่น แม้แต่หน้าของเพื่อนร่วมงานอาจรุนแรงปฏิกิริยา จะเป็นประโยชน์สำหรับนักบำบัดถือเป็น nonthreatening ท่าทางเป็นความชอบธรรมได้ หลีกเลี่ยง และวิธี moralistic ตัวอย่าง ผู้บำบัดอาจกังวลนิพจน์หรือสับสน และขอชี้แจงเกี่ยวกับปัญหา ผู้ร่วมงานให้เวลาเหลือเฟือให้คำอธิบายสำหรับ คนทำงาน (Koocher & Keith-Spiegel, 1998) 8) เสียงสนทนาควรเรียน และสร้างสรรค์ ผู้บำบัดอาจพยายามสร้างความร่วมมือกับผู้ร่วมงานเพื่อให้พวกเขาสามารถเผชิญหน้าสถานการณ์ร่วมกัน ผู้บำบัดควรหลีกเลี่ยงท่าแนวตั้ง accusatory หรือ judgmental (Koocher & Keith-Spiegel, 1998) 9) ผู้บำบัดควรอธิบาย responsibiiities จริยธรรมของเขา หรือเธอในสถานการณ์ และควรจะเตรียมแถลงความกังวลของเขา หรือเธอในมาตรฐานทางจริยธรรมที่มีการละเมิด ถ้าจำเป็น ความเด็ดขาด การเปิดรับ และความซื่อสัตย์เป็นสำคัญ และผู้บำบัดควรพยายามหลอกผู้ร่วมงานให้เข้าที่ หรือเล่นนักสืบ (Koocher & Keith-Spiegel, 1998) 10 บำบัดโรค)ควรประเมินความสัมพันธ์ของ ตนกับผู้ร่วมงาน เป็นผู้ร่วมงานที่ต่ำกว่า หรือห้อง เพื่อน หรือปฏิปักษ์ หรือผู้บำบัดคนที่รู้ดี หรือไม่ วิธีกับผู้ร่วมงานโดยตรงมักจะเกี่ยวข้องกับลักษณะของความสัมพันธ์ที่มีอยู่ การขาดแคลนดังกล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

7) การบำบัดโรค SB, ould เตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมเพื่อให้เขาหรือเธอสามารถรักษาความรู้สึกของ -1I'n สงบ ~ ความมั่นใจแม้ในใบหน้าของเพื่อนร่วมงานของปฏิกิริยาที่รุนแรงที่อาจเกิดขึ้น มันจะมีประโยชน์สำหรับการบำบัดโรคที่จะถือว่าเป็นคุกคามท่าทางที่เป็นไปได้หลีกเลี่ยงความชอบธรรมและวิธีการสอนศีลธรรม ยกตัวอย่างเช่นการบำบัดโรคอาจกังวลการแสดงออกหรือความสับสนและขอชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นช่วยให้เพื่อนร่วมงานมีเวลาเหลือเฟือที่จะนำเสนอคำอธิบายสำหรับพฤติกรรมของเขาหรือเธอ (Koocher & Keith-เดอร์ส, 1998). 8) เสียงของการสนทนาควร มีทั้งสร้างสรรค์และความรู้ บำบัดโรคอาจพยายามที่จะสร้างความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานเพื่อให้พวกเขาอาจเผชิญหน้ากับสถานการณ์ร่วมกัน บำบัดโรคควรหลีกเลี่ยงแนวตั้ง, ท่ากล่าวหาหรือการตัดสิน (Koocher & Keith-เดอร์ส, 1998). 9) บำบัดโรคควรอธิบาย responsibiiities จริยธรรมของเขาหรือเธอในสถานการณ์และควรเตรียมที่จะระบุความกังวลของเขาหรือเธอสำหรับมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ได้รับการละเมิดในกรณีที่จำเป็น ตรงเปิดกว้างและความซื่อสัตย์สุจริตมีความสำคัญและบำบัดโรคไม่ควรพยายามที่จะหลอกเพื่อนร่วมงานเป็นเข้ารับการรักษาหรือการเล่นนักสืบ (Koocher & Keith-เดอร์ส, 1998). 10) บำบัดโรคควรประเมินความสัมพันธ์ของเขาหรือเธอกับเพื่อนร่วมงาน เป็นเพื่อนร่วมงานผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเหนือกว่าเพื่อนหรือศัตรูหรือคนที่บำบัดโรครู้ดีหรือไม่? วิธีการดำเนินการกับเพื่อนร่วมงานมักจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับธรรมชาติของความสัมพันธ์ที่มีอยู่หรือขาดมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

7 ) Therapist SB , ควรเตรียมสำหรับการประชุมเพื่อที่เขาหรือเธอสามารถรักษาความรู้สึกของความสงบ - ความเชื่อมั่น 1i'n ~ แม้ในใบหน้าของผู้ร่วมงานที่อาจรุนแรงปฏิกิริยา มันเป็นประโยชน์สำหรับนักบำบัดที่จะถือว่าเป็นพึ่งพากันระวังเท่าที่เป็นไปได้หลีกเลี่ยงการชอบธรรม และวิธีการซึ่งเชื่อมั่นในศีลธรรม . ตัวอย่างเช่นจิตแพทย์อาจแสดงความกังวลหรือความสับสน และขอชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ให้เพื่อนเวลาเล่นให้คำอธิบายถึงพฤติกรรมของเขาหรือเธอ ( koocher &คีธ Spiegel , 1998 )

8 ) เสียงของการสนทนา ควรมีทั้งสร้างสรรค์ และ ความรู้จิตแพทย์อาจพยายามที่จะสร้างความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อที่พวกเขาจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ด้วยกัน นักบำบัดที่ควรหลีกเลี่ยงในแนวตั้ง accusatory หรือไปท่า ( koocher &คีธ Spiegel , 1998 )

9 ) therapist ควรอธิบายของเขาหรือเธอจริยธรรมความรับผิดชอบในสถานการณ์และควรเตรียมสภาพกังวลของเขาหรือเธอสำหรับมาตรฐานทางจริยธรรมที่ถูกละเมิด ถ้าจำเป็น ความตรงไปตรงมา เปิดเผยและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสำคัญ และนักบำบัดไม่ควรพยายามที่จะหลอกลวงให้เพื่อนร่วมงานเป็นค่าเข้าชมหรือเล่นนักสืบ ( koocher &คีธ Spiegel , 1998 )

10 ) therapist ควรประเมินความสัมพันธ์ของเขาหรือเธอกับเพื่อนร่วมงานคือ เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือหัวหน้า เพื่อน หรือ ศัตรู หรือคนที่ therapist รู้ดีหรือไม่ที่ทั้งหมดหรือไม่ วิธีการถ่ายกับเพื่อนร่วมงานมักจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับธรรมชาติของความสัมพันธ์ที่มีอยู่ หรือขาดมัน