The average absolute error of outag

The average absolute error of outage model with peak demand 1-9 MW is shown in Table X. The results show that the outage cost model by G-bell membership function has the least percentage of absolute error with 16.12% and 8.62% for peak demand 1-9 MW and 4-9 MW, respectively. In order to study the benefits from construction 115/22 kV substation, the outage cost model with peak demand 4-9 MW is considered to determine the outage cost which used as the parameter in the economic assessment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผิดพลาดสัมบูรณ์เฉลี่ยรุ่นกระแสความต้องการสูงสุด MW 1-9 จะแสดงอยู่ในตาราง X ผลลัพธ์แสดงว่า กระแสต้นทุนแบบจำลองฟังก์ชันสมาชิก G-เบลล์มีเปอร์เซ็นต์น้อยที่สุดของข้อผิดพลาดสัมบูรณ์ 16.12% และ 8.62% สำหรับความต้องการสูงสุด MW 1-9 และ 4-9 MW ตามลำดับ เพื่อศึกษาประโยชน์จากการก่อสร้าง 115/22 kV สถานีไฟฟ้าย่อย การกระแสต้นทุนแบบจำลองความต้องการสูงสุด 4-9 MW ถือกำหนดกระแสต้นทุนที่ใช้เป็นพารามิเตอร์ในการประเมินทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อผิดพลาดสัมบูรณ์เฉลี่ยของรูปแบบการหยุดทำงานที่มีความต้องการสูงสุด 1-9 เมกะวัตต์แสดงในตาราง X. ผลการศึกษาพบว่ารูปแบบค่าใช้จ่ายในการหยุดทำงานโดยฟังก์ชันสมาชิก G-ระฆังมีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยที่สุดของข้อผิดพลาดแน่นอนกับ 16.12% และ 8.62% สำหรับความต้องการสูงสุด 1-9 เมกะวัตต์และ 4-9 เมกะวัตต์ตามลำดับ เพื่อศึกษาผลประโยชน์จากการก่อสร้างสถานีย่อย 115/22 kV, รูปแบบค่าใช้จ่ายการหยุดทำงานที่มีความต้องการสูงสุด 4-9 เมกะวัตต์ถือว่ากำหนดค่าใช้จ่ายการหยุดทำงานซึ่งใช้เป็นพารามิเตอร์ในการประเมินเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความผิดพลาดสัมบูรณ์เฉลี่ยของแบบดับกับความต้องการสูงสุด 9 เมกะวัตต์ แสดงดังตารางที่เอ็กซ์ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า มูลค่าไฟฟ้าขัดข้องแบบโดยฟังก์ชันสมาชิก g-bell ได้น้อยที่สุด ( ร้อยละของความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์กับ 16.12 และร้อยละ 6.69 % สำหรับความต้องการสูงสุดและ 1-9 ( 4-9 เมกะวัตต์ ตามลำดับ เพื่อศึกษาประโยชน์จากการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า 115 / 22 kV ,ดับต้นทุนรูปแบบกับความต้องการไฟฟ้าสูงสุดถือว่า 4-9 เพื่อกำหนดมูลค่าไฟฟ้าขัดข้องซึ่งใช้เป็นพารามิเตอร์ในการประเมินเศรษฐกิจ .