lthough cassava (Manihot esculenta

lthough cassava (Manihot esculenta Crantz) is more productive than most other crops when
grown on acid infertile soils, it is also very responsive to better soil fertility and may require high
levels of fertilisation to reach its yield potential. In moderately acid soils, cassava generally does
not respond to the application of lime except as a source of calcium and/or magnesium. High rates
of Iiming often induce zinc deficiency. When grown on infertile soils cassava seldom shows clear
symptoms of nitrogen, phosphorus or potassium deficiencies, but instead produces small and weak
plants while root yields are reduced. Diagnosis of major nutrient deficiencies is best done through
soil or plant tissue analysis.
The paper therefore describes both deficiency (or toxicity) symptoms as well as critical levels or
ranges of each nutrient in soil and in cassava leaves. When grown on light textured and low
organic matter soils, cassava tends to respond mainly to N application; however, due to the relatively
large removal of K in the root harvest, continuous cassava cultivation on the same soil may
lead to K exhaustion, and K will eventually become the most limiting nutrient. Under normal soil
conditions cassava roots become readily infected with mycorrhizal fungi, which help the plant
absorb P even at low external P concentrations in soil solution. Thus, in most cassava soils in Asia
the crop does not respond much to P application.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

lthough มันสำปะหลัง (Manihot esculenta Crantz) จะมีประสิทธิผลมากขึ้นกว่าที่อื่น ๆ ส่วนใหญ่ขยายเมื่อปลูกในดินเนื้อปูนช่วงกรด เป็นยังมากตอบสนองต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินดีขึ้น และอาจสูงระดับของการปฏิสนธิถึงศักยภาพผลผลิต ในดินเนื้อปูนกรดปานกลาง มันสำปะหลังโดยทั่วไปไม่ไม่ตอบสนองการใช้มะนาวยกเว้นเป็นแหล่งของแคลเซียมหรือแมกนีเซียม ราคาสูงของ Iiming มักจะก่อให้เกิดการขาดสังกะสี เมื่อปลูกใน ดินเนื้อปูนช่วงมันสำปะหลังแทบแสดงชัดเจนอาการของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส หรือโพแทสเซียมยัง แต่แทน ผลิตขนาดเล็กและอ่อนแอพืชในขณะที่อัตราผลตอบแทนของรากจะลดลง ส่วนดำเนินการวินิจฉัยทรงธาตุอาหารที่สำคัญผ่านดินหรือพืชเนื้อเยื่อวิเคราะห์กระดาษจึงอธิบายทั้งอาการขาด (หรือความเป็นพิษ) เป็นระดับที่สำคัญ หรือช่วงของแต่ละธาตุอาหาร ในดิน และ ในมันสำปะหลังใบ เมื่อเติบโตขึ้นบนผิว และไฟต่ำดินเนื้อปูนอินทรีย์ มันสำปะหลังมีแนวโน้มตอบสนองส่วนใหญ่แอพลิเคชัน N อย่างไรก็ตาม ครบกำหนดเพื่อค่อนข้างเอาขนาดใหญ่ของ K ในการเก็บเกี่ยวราก ปลูกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องในดินเดียวกันอาจนำไปสู่จุดประสงค์ K และ K ก็จะกลายเป็น อาหารส่วนใหญ่จำกัด ใต้ดินปกติรากมันสำปะหลังเงื่อนไขพร้อมติดเชื้อกับเชื้อรา mycorrhizal ซึ่งช่วยให้โรงงานดูดซับ P แม้ที่ความเข้มข้น P ภายนอกต่ำสุดในการแก้ปัญหาดิน ดังนั้น ในดินเนื้อปูนมันสำปะหลังมากที่สุดในเอเชียพืชไม่ได้ตอบพีแอพลิเคชันมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันสำปะหลัง lthough (Manihot esculenta Crantz) เป็นมีประสิทธิผลมากขึ้นกว่าพืชอื่น ๆ
มากที่สุดเมื่อปลูกในดินที่มีบุตรยากกรดก็ยังมีการตอบสนองมากที่จะอุดมสมบูรณ์ของดินที่ดีขึ้นและอาจต้องสูงระดับของการปฏิสนธิไปถึงศักยภาพของผลผลิต
ในดินกรดปานกลางมันสำปะหลังโดยทั่วไปจะไม่ตอบสนองต่อการประยุกต์ใช้มะนาวยกเว้นเป็นแหล่งของแคลเซียมและ / หรือแมกนีเซียม
อัตราที่สูงของ Iiming มักจะก่อให้เกิดการขาดธาตุสังกะสี
เมื่อมันสำปะหลังที่ปลูกในดินที่มีบุตรยากไม่ค่อยแสดงให้เห็นชัดเจนอาการของไนโตรเจนฟอสฟอรัสโพแทสเซียมหรือข้อบกพร่องแต่แทนที่จะผลิตขนาดเล็กและอ่อนแอพืชในขณะที่อัตราผลตอบแทนที่รากจะลดลง การวินิจฉัยการขาดสารอาหารที่สำคัญคือการทำดีที่สุดผ่านดินหรือพืชวิเคราะห์เนื้อเยื่อ. กระดาษจึงอธิบายทั้งขาด (หรือเป็นพิษ) อาการเช่นเดียวกับระดับสำคัญหรือช่วงของสารอาหารในแต่ละดินและในใบมันสำปะหลัง เมื่อปลูกในพื้นผิวแสงและต่ำดินอินทรียวัตถุมันสำปะหลังมีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อการใช้งานส่วนใหญ่ยังไม่มี; แต่เนื่องจากการที่ค่อนข้างกำจัดใหญ่ของ K ในการเก็บเกี่ยวรากเพาะปลูกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องในดินเดียวกันอาจนำไปสู่การอ่อนเพลียK และ K ในที่สุดก็จะกลายเป็นสารอาหารที่ จำกัด มากที่สุด ภายใต้ดินปกติสภาพหัวมันสำปะหลังติดเชื้อได้อย่างง่ายดายด้วยเชื้อราซึ่งช่วยให้พืชดูดซับP แม้ในความเข้มข้นต่ำ P ภายนอกในการแก้ปัญหาดิน ดังนั้นในที่สุดดินมันสำปะหลังในเอเชียพืชไม่ตอบสนองต่อการใช้งานมาก P

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถึงแม้ว่ามันสำปะหลัง ( มันสำปะหลังเพิ่มมากขึ้นกว่าพืชอื่น ๆ ) มากที่สุดเมื่อปลูกในดินที่เป็นกรด
เป็นหมัน มันยังตอบสนองได้ดี ความอุดมสมบูรณ์ของดินและอาจต้องสูง
ระดับปฏิสนธิถึงศักยภาพในการให้ผลผลิตของ ในกรดปานกลาง ดิน มันสำปะหลังโดยทั่วไปจะ
ไม่ตอบสนองการใช้ปูนขาว นอกจากเป็นแหล่งของแคลเซียม และ / หรือ แมกนีเซียม อัตราสูง
ของ iiming มักจะจูงขาดสังกะสี เมื่อปลูกในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ มันสำปะหลัง ไม่ค่อยแสดงอาการชัดเจน
ของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม หรือข้อบกพร่อง แต่ผลิตขนาดเล็กและพืชอ่อนแอ
ในขณะที่ผลผลิตรากจะลดลง การวินิจฉัยการขาดธาตุอาหารหลักที่ดีที่สุดคือทำผ่าน
ดินหรือการวิเคราะห์เนื้อเยื่อพืช .
กระดาษจึงอธิบายทั้งขาด ( หรือความเป็นพิษ ) อาการ ตลอดจนระดับวิกฤตหรือ
ช่วงของแต่ละธาตุอาหารในดินและใบมันสำปะหลัง เมื่อปลูกบนพื้นผิวแสงและต่ำ
อินทรียวัตถุในดิน มันสำปะหลังมีแนวโน้มที่จะตอบสนองส่วนใหญ่เป็นไนโตรเจน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากค่อนข้าง
ขนาดใหญ่การกำจัด K ในรากเกี่ยวการปลูกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องบนดินเดียวกันอาจ
ทำให้อ่อนเพลียและ K , K ในที่สุดจะกลายเป็นส่วนใหญ่จำกัดสารอาหาร ภายใต้เงื่อนไขปกติดิน
มันสำปะหลังเป็นพร้อมติดเชื้อราไมโคไรซา ซึ่งช่วยให้พืชดูดซับ P
ที่ความเข้มข้นต่ำภายนอก P สารละลายดิน ดังนั้น ในดินปลูกมันสำปะหลังมากที่สุดในเอเชีย
พืชไม่ตอบสนองมากนักต่อโปรแกรม