barrier founded in indica inbred va

barrier founded in indica inbred varieties, development
of hybrid rice was begun in the late 1970s and new plant
type (NPT) rice in the late 1980s at IRRI (Virmani et al.,
1982; Khush, 1995).
Hybrid rice has been grown in China since 1976 and
today >50% of China’s rice area is now planted to rice
hybrids (Yuan, 2003). Hybrid rice had a yield advantage of
about 15% over the best inbred cultivars in farmers’ fields
(Yuan, 1994). Recently, hybrid rice cultivars have been
commercialized in India, Vietnam, and the Philippines
(Virmani and Kumar, 2004). Peng et al. (1999) reported
that indica/indica hybrid rice increased yield potential by
about 9% compared with the best indica inbred cultivars
in experimental fields under tropical irrigated conditions.
The reasons for yield advantages of hybrid rice have been
studied extensively. Hybrids have a higher growth rate
during early vegetative stages as a result of rapid expansion
of leaf area (Yamauchi, 1994; Laza et al., 2001). Cao et al.
(1980) and Kabaki (1993) reported that hybrids have more
effi cient sink formation relative to the rate of dry matter
accumulation at the flowering stage than inbreds. Hybrids
maintain a relatively high grain-filling percentage despite
the large number of spikelets because the hybrids translo-cate carbohydrate accumulated in the culm and sheath to
developing grains more effi ciently than inbred cultivars
(Yan, 1988; Song et al., 1990). It is unknown, however, if
the hybrids have a yield advantage over the NPT lines.
The development of NPT rice at IRRI was inspired
by Donald’s (1968) ideotype breeding approach. The goal
was to develop NPT cultivars with a yield potential 20
to 25% higher than current existing semidwarf rice cultivars under a tropical environment during the dry season.
The NPT was designed based on the results of simulation
modeling and the new traits were mostly morphological
since they are easier to select than physiological traits in
breeding programs. The proposed NPT has a low tillering capacity (three to four tillers when direct seeded),
few unproductive tillers, 200 to 250 grains per panicle,
a plant height of 90 to 100 cm, thick and sturdy stems,
dark green and erect leaves, a vigorous root system, 100-
to 130-d growth duration, and increased harvest index
(Peng et al., 1994).
The first-generation NPT lines based on tropical japonicas were developed in 1993. As intended, the
NPT lines had large panicles, few unproductive tillers,
and lodging resistance. They did not yield well, however,
because of limited biomass production and poor grain fill-ing (Peng and Khush, 2003). It was speculated that the
excessive reduction in tillering capacity resulted in low
biomass production of the first-generation NPT lines.
The first-generation NPT lines were susceptible to diseases and insects, and had poor grain quality, thus the lines
could not be released as cultivars but were valuable genetic
materials for rice breeding programs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุปสรรคที่ก่อตั้งขึ้นในพันธุ์ indica inbred พัฒนา ผสม ข้าวได้เริ่มขึ้น ในปลายทศวรรษที่ 1970 และสร้างโรงงาน พิมพ์ข้าว (NPT) ในปลายทศวรรษ 1980 ที่ IRRI (Virmani et al., 1982 Khush, 1995)ผสมข้าวได้เติบโตในประเทศจีนตั้งแต่พ.ศ. 2488 และ วันนี้ > 50% ของพื้นที่ปลูกข้าวของจีนจะปลูกกับข้าวเดี๋ยวนี้ ลูกผสม (หยวน 2003) ข้าวลูกผสมมีประโยชน์ผลตอบแทนของ ประมาณ 15% กว่าดีสุด inbred พันธุ์ในเกษตรกร (หยวน 1994) ล่าสุด พันธุ์ข้าวแบบผสมผสานได้ commercialized ในอินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ (Virmani และ Kumar, 2004) Peng et al. (1999) รายงาน อดข้าว indica/indica ผสมเพิ่มศักยภาพผลผลิตด้วย ประมาณ 9% เมื่อเทียบกับพันธุ์ indica inbred สุด ในเขตทดลองภายใต้เงื่อนไขที่ยามร้อน สาเหตุข้อดีผลผลิตของข้าวลูกผสมได้ ศึกษาอย่างกว้างขวาง ลูกผสมมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น ในระหว่างระยะเริ่มต้นผักเรื้อรังเป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ของพื้นที่ใบ (ยะมะอุชิ 1994 Laza et al., 2001) Cao et al (1980) และ Kabaki (1993) รายงานว่า ลูกผสมมีมากกว่า ก่ออ่าง cient effi เทียบอัตราเรื่องแห้ง สะสมในระยะดอกกว่า inbreds ลูกผสม รักษาเปอร์เซ็นต์เมล็ดบรรจุค่อนข้างสูงแม้มี ขนาดใหญ่จำนวน spikelets เนื่องจากสะสมคาร์โบไฮเดรต translo cate ลูกผสมใน sheath จะชำลำ พัฒนา grains ciently effi เพิ่มมากขึ้นกว่าพันธุ์ inbred (Yan, 1988 เพลงและ al., 1990) มันเป็นที่รู้จัก อย่างไรก็ตาม ถ้า ลูกผสมมีประโยชน์ผลตอบแทนมากกว่าบรรทัด NPTการพัฒนาข้าว NPT ที่ IRRI ได้แรงบันดาลใจ โดยของโดนัลด์ (1968) ideotype พันธุ์วิธีการ เป้าหมาย มีการ พัฒนาพันธุ์ NPT กับผลผลิตศักยภาพ 20 25% สูงกว่าปัจจุบันที่มีอยู่ semidwarf ข้าวพันธุ์ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ร้อนในฤดูแล้ง NPT ถูกออกแบบขึ้นตามผลลัพธ์ของการจำลอง สร้างโมเดลและลักษณะใหม่ส่วนใหญ่ของ เนื่องจากง่ายต่อการเลือกกว่าลักษณะสรีรวิทยาใน พันธุ์โปรแกรม NPT เสนอมีความต่ำ tillering จุ (รถไถเดินตาม 3-4 เมื่อตรง seeded), ไม่ก่อรถไถเดินตาม ธัญพืช 200-250 ต่อ panicle ความสูงของพืชของ 90-100 ซม. หนา และทนทานลำต้น ดำสีเขียว และตรงใบ คึกคักรากระบบ 100- ระยะเวลาเติบโต 130-d และดัชนีการเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น (Peng et al., 1994)รุ่น NPT บรรทัดตาม japonicas เขตร้อนได้รับการพัฒนาในปี 1993 ตามที่ตั้งใจไว้ การ บรรทัด NPT มีใหญ่ panicles น้อยก่อรถไถเดินตาม และต้านทานพัก พวกเขาได้ไม่ผลตอบแทนดี อย่างไรก็ตาม ชีวมวลจำกัดผลิต และจนเมล็ดเติม-ing (เป็งและ Khush, 2003) มีการคาดการณ์ที่จะ กำลัง tillering ลดมากเกินไปส่งผลให้ต่ำ ผลิตชีวมวลของบรรทัด NPT รุ่น บรรทัด NPT รุ่นไวต่อโรคและแมลง และมีคุณภาพเมล็ดดี บรรทัดดังนั้น ไม่ได้นำออกใช้เป็นพันธุ์ แต่ก็มีคุณค่าทางพันธุกรรม วัสดุสำหรับโปรแกรมปรับปรุงพันธุ์ข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุปสรรคก่อตั้งขึ้นใน indica พันธุ์พันธุ์แท้, การพัฒนา
ข้าวไฮบริดได้รับการเริ่มต้นในปี 1970 และโรงงานใหม่
ชนิด (NPT) ข้าวในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ที่ IRRI (Virmani, et al.
1982; Khush, 1995)
ข้าวไฮบริดได้รับการปลูกใน ประเทศจีนตั้งแต่ปี 1976 และ
วันนี้> 50% ของพื้นที่ปลูกข้าวของจีนมีการปลูกในขณะนี้ข้าว
ลูกผสม (หยวน 2003) ข้าวไฮบริดมีข้อได้เปรียบของอัตราผลตอบแทน
ประมาณ 15% ในช่วงที่ดีที่สุดสายพันธุ์พันธุ์แท้ที่อยู่ในทุ่งนาของเกษตรกร
(หยวน, 1994) เมื่อเร็ว ๆ นี้สายพันธุ์ข้าวไฮบริดได้รับการ
ผลิตในเชิงพาณิชย์ในประเทศอินเดียเวียดนามและฟิลิปปินส์
(Virmani และ Kumar, 2004) Peng และคณะ (1999) รายงาน
ว่า indica / ข้าวลูกผสม indica เพิ่มผลผลิตที่มีศักยภาพโดย
ประมาณ 9% เมื่อเทียบกับ indica ที่ดีที่สุดสายพันธุ์พันธุ์แท้
ในด้านการทดลองภายใต้เงื่อนไขชลประทานเขตร้อน
เหตุผลในการได้เปรียบผลผลิตของข้าวไฮบริดได้รับการ
ศึกษาอย่างกว้างขวาง ไฮบริดมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น
ในระหว่างขั้นตอนพืชในช่วงต้นเป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ของพื้นที่ใบ (Yamauchi 1994. Laza และคณะ, 2001) Cao et al,
(1980) และ Kabaki (1993) รายงานว่าไฮบริดมีมากขึ้น
Effi เพียงพอการสร้างอ่างเทียบกับอัตราของวัตถุแห้ง
สะสมที่ระยะออกดอกกว่าสายพันธุ์ ลูกผสม
รักษาเปอร์เซ็นต์ข้าวบรรจุค่อนข้างสูงแม้จะมี
จำนวนมากของดอกเพราะลูกผสม Translo-Cate คาร์โบไฮเดรตที่สะสมในลำต้นและเปลือกเพื่อ
การพัฒนาเมล็ด Effi เพิ่มเติม ciently กว่าพันธุ์พันธุ์แท้
(Yan, 1988. เพลงและคณะ, 1990) มันเป็นที่รู้จัก แต่ถ้า
ลูกผสมมีความได้เปรียบผลผลิตผ่านสาย NPT
พัฒนาข้าว NPT ที่ IRRI ได้แรงบันดาลใจ
โดยโดนัลด์วิธีการเพาะพันธุ์ (1968) ideotype เป้าหมายของเรา
คือการพัฒนาพันธุ์ NPT กับผลผลิตที่อาจเกิดขึ้น 20
ถึง 25% สูงกว่าพันธุ์ข้าวที่มีอยู่ในปัจจุบัน semidwarf ภายใต้สภาพแวดล้อมในเขตร้อนชื้นในช่วงฤดูแล้ง
NPT ได้รับการออกแบบขึ้นอยู่กับผลของการจำลอง
แบบจำลองและลักษณะใหม่เป็นก้านส่วนใหญ่
ตั้งแต่ พวกเขาจะง่ายต่อการเลือกกว่าลักษณะทางสรีรวิทยาใน
โปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์ เสนอ NPT มีความสามารถในการแตกกอต่ำ (3-4 หน่อเมื่อเมล็ดโดยตรง),
รถไถเดินตามหมันไม่กี่ 200-250 เมล็ดต่อช่อ,
ความสูงของ 90-100 ซม. หนาและแข็งแรงลำต้น
ใบสีเขียวและสร้างความมืด แข็งแรงระบบราก, 100
ถึง 130-D ระยะเวลาการเจริญเติบโตและดัชนีการเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น
(Peng et al., 1994)
รุ่นแรกสาย NPT ตาม japonicas เขตร้อนที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1993 ในฐานะที่ตั้งใจ
สาย NPT มีช่อดอกขนาดใหญ่ , รถไถเดินตามหมันไม่กี่
และความต้านทานที่พัก พวกเขาไม่ได้ผลดี แต่
เพราะการผลิตชีวมวล จำกัด และยากจนเม็ดเติมไอเอ็นจี (Peng และ Khush 2003) มันได้รับการคาดการณ์ว่า
การลดกำลังการผลิตที่มากเกินไปในการแตกกอมีผลในระดับต่ำ
การผลิตมวลชีวภาพของรุ่นแรกสาย NPT
รุ่นแรกสาย NPT มีความไวต่อโรคและแมลงและมีคุณภาพเมล็ดดีดังนั้นสาย
ไม่สามารถปล่อยออกมาเป็น สายพันธุ์ แต่ทางพันธุกรรมที่มีค่า
วัสดุสำหรับโปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์ข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อุปสรรคขึ้นใน 3 สายพันธุ์แท้พันธุ์ การพัฒนา
ข้าวลูกผสมเริ่มต้นในปี 1970 และพืชประเภท
ใหม่ ( NPT ) ข้าวในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ที่ IRRI ( virmani et al . ,
1982 ; คูช , 1995 ) .
ข้าวลูกผสม มีปลูกในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2519
วันนี้ > 50% ของ พื้นที่ปลูกข้าวจีนตอนนี้ปลูกข้าว
ลูกผสม ( หยวน , 2003 ) ข้าวลูกผสมมีให้ผลประโยชน์
ประมาณ 15 % มากกว่าพันธุ์สายพันธุ์ที่ดีที่สุดในเขตข้อมูลของเกษตรกร
( หยวน , 1994 ) เมื่อเร็วๆ นี้ พันธุ์ข้าวลูกผสมได้
เชิงพาณิชย์ในอินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์
( virmani กับคูมาร์ , 2004 ) Peng et al . ( 1999 ) รายงาน
ที่ 3 / 3 เพิ่มศักยภาพการให้ผลผลิตข้าวลูกผสมโดย
9 % เมื่อเทียบกับสายพันธุ์แท้พันธุ์
3 ดีที่สุดในเขตทดลองภายใต้เขตร้อนไม่มีเงื่อนไข
เหตุผลข้อดีของข้าวลูกผสมให้ผลผลิตได้
ศึกษาอย่างกว้างขวาง ลูกผสมมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในระหว่างขั้นตอนและ

แรกเป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของพื้นที่ใบ ( ผู้พัฒนา , 1994 ; ลาซา et al . , 2001 ) เคา et al .
( 1980 ) และ kabaki ( 1993 ) รายงานว่า ลูกผสมมีมากกว่า
effi cient จมสร้างสัมพันธ์กับอัตราการสะสมเรื่อง
แห้งที่ระยะออกดอกมากกว่าสายพันธุ์แท้ ลูกผสม
รักษาค่อนข้างสูง แม้จะมีเม็ดบรรจุค่า
จํานวนมากที่เพราะลูกผสม translo เคท คาร์โบไฮเดรตที่สะสมในลำต้นและฝัก

พัฒนาธัญพืช effi เพิ่มเติม ciently กว่าสายพันธุ์แท้พันธุ์
( Yan , 1988 ; เพลง et al . , 1990 )มันไม่รู้จัก แต่ถ้า
ลูกผสมที่มีผลผลิตเหนือเส้น ปชส. ปชส. .
การพัฒนาข้าวที่ IRRI ได้แรงบันดาลใจ
โดยโดนัลด์ ( 1968 ) ideotype ผสมพันธุ์ ) เป้าหมายคือ พัฒนาสายพันธุ์ ปชส.

กับผลผลิต 20 25% สูงกว่าปัจจุบันที่มีอยู่ semidwarf ข้าวชนิดภายใต้สภาพแวดล้อมเขตร้อนในฤดูแล้ง
การ ปชส. ได้รับการออกแบบขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการจำลองแบบและคุณลักษณะใหม่

ส่วนใหญ่ลักษณะเนื่องจากพวกเขาจะง่ายต่อการเลือกมากกว่าลักษณะทางสรีรวิทยา
โปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์ เสนอให้มีความจุน้อย ( ปชส. แตกกอ 3-4 หน่อโดยตรงเมื่อเมล็ด ) ,
หน่อไม่กี่ 200 ถึง 250 เมล็ดต่อรวง
, โรงงานสูง 90 ถึง 100 เซนติเมตร หนาและแข็งแรง ลำต้น
ใบสีเขียวเข้ม และ สร้าง ระบบรากแข็งแรง 100 -
เพื่อ 130-d การเจริญเติบโตระยะเวลาและเพิ่มค่าดัชนีการเก็บเกี่ยว
( Peng et al . , 1994 ) .
รุ่นแรก ปชส. เส้นตาม japonicas เขตร้อน ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1993 ตามที่ตั้งใจไว้ ,
NPT เส้นมีต้นไม่ใหญ่ หน่อน้อย
และที่พักต้านทาน พวกเขาไม่ได้ให้ผลดี แต่
เพราะการผลิตชีวมวล จำกัด และ ยากจน เติม ing ( เปง เม็ด และ คูช , 2003 ) มันถูกสันนิษฐานว่า
ลดลงมากเกินไปในการแตกกอ ความจุมีผลในการผลิตชีวมวลต่ำ
ของรุ่นแรก ปชส. บรรทัด
รุ่นแรก ปชส. สายพันธุ์อ่อนแอต่อโรคและแมลง และมีคุณภาพเมล็ดดี ดังนั้นเส้น
ไม่สามารถเปิดตัวเป็นพันธุ์แต่วัสดุพันธุกรรม
ที่มีคุณค่าข้าวโปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์