PathogenesisThe high incidence of s

Pathogenesis
The high incidence of simultaneous degenerative changes
to the intervertebral disk, vertebral body, and associated
joints suggests a progressive and dynamic mechanism, with
interdependent changes occurring secondary to disk space
narrowing [17].
Intervertebral disks are believed to undergo what Kirkaldy
Willis and Bernard [24] first coined a ‘‘degenerative
cascade’’ (Fig. 1) of three overlapping phases that may
occur over the course of decades. Phase I (Dysfunction
Phase) describes the initial effects of repetitive microtrauma
with the development of circumferential painful
tears of the outer, innervated anulus, and associated endplate
separation that may compromise disk nutritional
supply and waste removal. Such tears may coalesce to
become radial tears, more prone to protrusion, and impact
the disk’s capacity to maintain water, resulting in desiccation
and reduced disk height. Fissures may become
ingrown by vascular tissue and nerve endings, increasing
innervation and the disk’s capacity for pain signal transmission
[25]. Phase II (Instability Phase) is characterized
by the loss of mechanical integrity, with progressive disk
changes of resorption, internal disruption, and additional
annular tears, combined with further facet degeneration
that may induce subluxation and instability. During Phase
III (Stabilization Phase), continued disk space narrowing
and fibrosis occurs along with the formation of osteophytes
and transdiscal bridging [26].
Schneck presents a further mechanical progression,
building upon this degenerative cascade of the intervertebral
disk, to explain other degenerative changes of the axial
spine. He proposes several implications of disk space
narrowing. Adjacent pedicles approximate with a narrowing
of the superior–inferior dimension of the intervertebral
canal. Laxity due to modest redundancy of the longitudinal
ligaments enables bulging of the ligamentum flavum and
potential for spine instability. Increased spine movement
permits subluxation of the superior articular process (SAP),
causing a narrowed anteroposterior dimension of the
intervertebral and upper nerve root canals. Laxity may also
translate into altered weight mechanisms and pressure
relationships on vertebral bone and joint spaces believed to
influence osteophyte formation and facet hypertrophy to
both inferior and superior articular processes with risks for
projection into the intervertebral canal and central canal,
respectively. Oblique orientations of the articular processes
may further cause retrospondylolisthesis, with resulting
anterior encroachment of the spinal canal, nerve root canal,
and intervertebral canal [17].
Biochemical research exploring osteophyte formation
supports the above process. Osteophyte lipping is believed
to form at periosteum [27] through the proliferation of
peripheral articular cartilage which subsequently undergoes
endochondral calcification and ossification [28].
Changing weight mechanics and pressure forces as well
as alterations in oxygen tension and dynamic fluid pressure
appear to be influential factors in osteophyte
formation [14]. Mesenchymal stem cells of the synovium
or periostium are likely precursors, with synovial macrophages
and a milieu of growth factors and extracellular
matrix molecules acting as probable mediators in this
process [29

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พยาธิกำเนิดอุบัติการณ์สูงเปลี่ยนแปลงเสื่อมพร้อมกันดิสก์ intervertebral ร่างกาย vertebral และเชื่อมโยงข้อต่อระบบก้าวหน้า และแบบไดนามิก แนะนำด้วยเปลี่ยนแปลงจัดเกิดรองการเนื้อที่ว่างบนดิสก์จำกัดให้แคบลง [17]ดิสก์ intervertebral เชื่อว่ารับอะไร Kirkaldyวิลส์และ Bernard [24] เป็นครั้งแรก '' เสื่อมซ้อน '' (Fig. 1) สามซ้อนระยะที่อาจเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ระยะที่ผม (ความผิดปกติระยะ) อธิบายผลเริ่มต้นของ microtrauma ซ้ำกับการพัฒนาของ circumferential เจ็บปวดน้ำตา anulus innervated ภายนอก และ endplate สัมพันธ์แยกที่อาจประนีประนอมดิสก์ทางโภชนาการจัดหา และเก็บขยะ น้ำตาดังกล่าวอาจรวม coalesce กับเป็น รัศมีน้ำตา วัย protrusion และผลกระทบความจุของดิสก์เพื่อรักษาน้ำ ผล desiccationและความสูงลดลงดิสก์ Fissures อาจเป็นขบสคิวเนื้อเยื่อและประสาท เพิ่มส่งสัญญาณเตือน innervation และความจุของดิสก์สำหรับความเจ็บปวด[25] . ลักษณะ phase II (ขาดเสถียรภาพระยะ)โดยสูญเสียความสมบูรณ์ของเครื่องจักรกล กับดิสก์แบบก้าวหน้าของ resorption ทรัพยภายใน การเปลี่ยนแปลง และเพิ่มเติมน้ำตา annular พร้อมกับเพิ่มเติมพได้เสื่อมที่อาจก่อให้เกิด subluxation และความไม่แน่นอน ในระหว่างขั้นตอนIII (เสถียรภาพระยะ), ยังคงจำกัดให้แคบลงของดิสก์ว่างและ fibrosis เกิดขึ้นพร้อมกับการก่อตัวของ osteophytesและ transdiscal กาล [26]Schneck แสดงการเพิ่มเติมเครื่องจักรกลก้าวหน้าสร้างขึ้นทั้งหมดนี้เสื่อมของ intervertebral ที่ดิสก์ อธิบายการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เสื่อมของตัวแกนกระดูกสันหลัง เขาเสนอหลายนัยของเนื้อที่ว่างบนดิสก์จำกัดให้แคบลง ติด pedicles โดยประมาณ ด้วยการจำกัดให้แคบลงของขนาดห้อง – เบี้ยล่างของการ intervertebralคลอง Laxity เนื่องจากซ้ำเจียมเนื้อเจียมตัวของในระยะยาวเอ็นให้ปูดของ ligamentum flavum การ และศักยภาพการขาดเสถียรภาพของกระดูกสันหลัง ความเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้นอนุญาต subluxation การเหนือกว่าข้อ (SAP),ก่อให้เกิดมิติจำกัด anteroposterior ของการคลองรากประสาท intervertebral และด้านบน Laxity อาจจะแปลเป็นกลไกการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักและแรงกดดันเชื่อว่าความสัมพันธ์ของ vertebral กระดูกและพื้นที่ร่วมอิทธิพล osteophyte กำเนิดและ hypertrophy พได้ไปกระบวนข้อน้อย และเหนือกว่ากับความเสี่ยงในฉาย intervertebral คลองและคลองกลางตามลำดับ แนว oblique กระบวนข้อเพิ่มเติมอาจทำให้ retrospondylolisthesis มีผลแอนทีเรียร์ encroachment คลองสไปนัล เส้นประสาทรากฟันและคลอง intervertebral [17]สำรวจก่อ osteophyte วิจัยชีวเคมีสนับสนุนกระบวนการข้างต้น Osteophyte lipping เชื่อว่าแบบฟอร์มใน periosteum [27] โดยการงอกของกระดูกอ่อนข้อต่อพ่วงซึ่งในเวลาต่อมาผ่านendochondral calcification และการกลายเป็นกระดูก [28]การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักกลศาสตร์และความดันบังคับเช่นเป็นการเปลี่ยนแปลงในออกซิเจนความตึงเครียดและความดันของเหลวแบบไดนามิกจะ เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลใน osteophyteผู้แต่ง [14] เซลล์ต้นกำเนิด mesenchymal ของ synoviumหรือ periostium แนวโน้ม precursors ด้วยบังเอิญเนื้อและฤทธิ์ ของปัจจัยการเจริญเติบโต และ extracellularโมเลกุลของเมทริกซ์ที่ทำหน้าที่เป็นอักเสบน่าเป็นนี้กระบวนการ [29

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเกิดโรค
อุบัติการณ์สูงของการเปลี่ยนแปลงเสื่อมพร้อมกัน
ไปยังดิสก์ intervertebral, ร่างกายของกระดูกสันหลังและที่เกี่ยวข้อง
ข้อต่อแสดงให้เห็นความก้าวหน้าและกลไกแบบไดนามิกที่มี
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นการพึ่งพาซึ่งกันและกันรองพื้นที่ดิสก์
แคบ [17].
แผ่นรองกระดูกสันหลังมีความเชื่อว่าจะได้รับสิ่งที่ Kirkaldy
วิลลิสและเบอร์นาร์ด [24] ครั้งแรกประกาศเกียรติคุณ '' เสื่อม
น้ำตก '' (รูปที่ 1). สามขั้นตอนที่ทับซ้อนกันที่อาจ
เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Phase I (หย่อนสมรรถภาพทาง
เฟส) อธิบายผลกระทบที่เริ่มต้นของ microtrauma ซ้ำ
กับการพัฒนาของเส้นรอบวงเจ็บปวด
น้ำตาของนอก innervated anulus และ endplate เกี่ยวข้อง
แยกที่อาจประนีประนอมทางโภชนาการดิสก์
อุปทานและการกำจัดของเสีย น้ำตาดังกล่าวอาจจะรวมกัน
กลายเป็นน้ำตารัศมีแนวโน้มที่จะยื่นออกมาและส่งผลกระทบต่อ
ความจุของดิสก์ที่จะรักษาน้ำส่งผลให้ผึ่งให้แห้ง
และลดความสูงของดิสก์ รอยแยกที่อาจจะกลายเป็น
คุดโดยเนื้อเยื่อหลอดเลือดและปลายประสาทเพิ่มขึ้น
ปกคลุมด้วยเส้นและความจุของดิสก์สำหรับการส่งสัญญาณความเจ็บปวด
[25] ระยะที่สอง (ระยะที่เกิดความไม่เสถียร) เป็นลักษณะ
จากการสูญเสียความสมบูรณ์ของเครื่องจักรกลที่มีความก้าวหน้าดิสก์
การเปลี่ยนแปลงของการสลายการหยุดชะงักภายในและเพิ่มเติม
น้ำตาวงแหวนรวมกับความเสื่อมด้านต่อไป
ที่อาจทำให้เกิดการ subluxation และความไม่แน่นอน ในช่วงระยะที่
สาม (Stabilization เฟส) ลดพื้นที่ว่างในดิสก์อย่างต่อเนื่อง
และพังผืดเกิดขึ้นพร้อมกับการก่อตัวของ osteophytes
และแก้ transdiscal [26].
Schneck นำเสนอความก้าวหน้าทางกลเพิ่มเติม
อาคารเมื่อน้ำตกเสื่อมของ intervertebral
ดิสก์ที่จะอธิบายการเสื่อมถอยอื่น ๆ ของแกน
กระดูกสันหลัง เขาเสนอหลายความหมายของพื้นที่ดิสก์
กวดขัน pedicles ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับการกวดขันโดยประมาณ
ของมิติที่เหนือกว่าด้อยกว่าของ intervertebral
คลอง หย่อนเนื่องจากซ้ำซ้อนเจียมเนื้อเจียมตัวยาว
ช่วยให้เส้นเอ็นปูดของ ligamentum flavum และ
ความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นสำหรับกระดูกสันหลัง การเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังที่เพิ่มขึ้น
ช่วยให้ subluxation ของกระบวนการข้อที่เหนือกว่า (SAP)
ก่อให้เกิดการลดลงของมิติ anteroposterior
คลองรากประสาท intervertebral และบน หย่อนอาจ
แปลเป็นกลไกการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักและความดัน
ความสัมพันธ์กระดูกกระดูกสันหลังและพื้นที่ร่วมกันเชื่อว่าจะ
มีอิทธิพลต่อการก่อตัวและเจริญเติบโตมากเกินไป osteophyte ด้านการ
ทั้งกระบวนการข้อด้อยกว่าและเหนือกว่าด้วยความเสี่ยงสำหรับ
การฉายเข้ามาในคลอง intervertebral และคลองกลาง
ตามลำดับ แนวเอียงของกระบวนการข้อ
ต่อไปอาจทำให้เกิด retrospondylolisthesis กับผล
การบุกรุกด้านหน้าของคลองกระดูกสันหลังคลองรากประสาท
และคลอง intervertebral [17].
การวิจัยการสำรวจการก่อตัวทางชีวเคมี osteophyte
สนับสนุนกระบวนการดังกล่าว Osteophyte Lipping มีความเชื่อ
ในรูปแบบที่เชิงกราน [27] ผ่านการงอกของ
กระดูกอ่อนต่อพ่วงซึ่งต่อมาได้รับ
แคลเซียม endochondral และขบวนการสร้างกระดูก [28].
เปลี่ยนกลศาสตร์น้ำหนักและแรงดันได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงในความตึงเครียดออกซิเจนและความดันของของไหลแบบไดนามิกที่
ดูเหมือนจะเป็นผู้มีอิทธิพล ปัจจัยในการ osteophyte
ก่อตัว [14] เซลล์ต้นกำเนิด mesenchymal ของเยื่อบุข้อ
periostium หรือมีแนวโน้มที่เป็นสารตั้งต้นที่มีขนาดใหญ่ไขข้อ
และสภาพแวดล้อมของปัจจัยการเจริญเติบโตและสาร
โมเลกุลเมทริกซ์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในครั้งนี้น่าจะเป็น
กระบวนการ [29

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาอุบัติการณ์สูงของพร้อมกัน

เพื่อการเปลี่ยนแปลงเสื่อม intervertebral ดิสก์ กระดูกสันหลังของร่างกายและข้อต่อที่เกี่ยวข้อง
แนะนำกลไกก้าวหน้าและแบบไดนามิกกับ
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรองให้พื้นที่ดิสก์
[ 17 ] .
intervertebral ดิสก์เชื่อว่าจะผ่านอะไร kirkaldy
วิลลิสและเบอร์นาร์ด [ 24 ] แรกชื่อว่า ' 'degenerative
น้ำตก " ( ฟิค1 ) ของที่ทับซ้อนกันสามขั้นตอนที่อาจ
เกิดขึ้นผ่านหลักสูตรของทศวรรษที่ผ่านมา ระยะที่ 1 ( ความผิดปกติ
เฟส ) อธิบายเบื้องต้นผลของ
microtrauma ซ้ำกับการพัฒนาของเส้นรอบวงเจ็บปวด
น้ำตาของภายนอก มีเส้นประสาทไปถึง anulus และเกี่ยวข้อง endplate
แยกที่อาจประนีประนอมดิสก์โภชนาการ
จัดหา และการกําจัดของเสีย น้ำตาดังกล่าวอาจเชื่อมต่อกัน

กลายเป็นน้ำตาที่รัศมีมีแนวโน้มที่จะ ติ่ง และผลกระทบ
ของความจุฮาร์ดดิสก์เพื่อรักษาน้ำ ซึ่งในส่วน
และลดดิสก์สูง รอยแยกนั่นอาจกลายเป็น
คุดโดยหลอดเลือดเนื้อเยื่อและเส้นประสาท เพิ่มการกระตุ้นเส้นประสาทของความจุฮาร์ดดิสก์และ

สำหรับความเจ็บปวดที่ส่งผ่านสัญญาณ [ 25 ] ระยะที่ 2 ( เฟสไม่มั่นคง ) เป็นลักษณะ
โดยการสูญเสียของความซื่อสัตย์กับ
ดิสก์ก้าวหน้าจักรกล