A working hypothesis is that memory

A working hypothesis is that memory might be in particular
susceptible to the extent of hydration. It was memory (Fig. 1)
rather than the ability to sustain attention that was influenced by
water consumption in the present study. Bar-David et al. (2005)
found that memory but not four other measures of cognition was
disrupted by dehydration. Similarly Fadda et al. (2008) reported a
significant relationship between urinary osmolarity and a measure
of working memory

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมมติฐานทำงานอยู่ที่หน่วยความจำอาจเป็นเฉพาะไวต่อระดับของการไล่น้ำ มีหน่วยความจำ (Fig. 1)แทนที่สามารถรักษาความสนใจที่ได้รับอิทธิพลจากปริมาณการใช้น้ำในการศึกษาปัจจุบัน บาร์-David et al. (2005)พบหน่วยความจำแต่ไม่ 4 มาตรการอื่น ๆ ของประชานได้ระหว่างสองวัน โดยการคายน้ำ Similarly Fadda et al. (2008) รายงานตัวความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่าง osmolarity ท่อปัสสาวะและการวัดทำงานหน่วยความจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมมติฐานการทำงานคือการที่หน่วยความจำอาจจะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ความเสี่ยงที่จะมีขอบเขตของความชุ่มชื้น มันเป็นความทรงจำ (รูปที่ 1).
มากกว่าความสามารถในการรักษาความสนใจที่ได้รับอิทธิพลจาก
การใช้น้ำในการศึกษาปัจจุบัน บาร์เดวิดและคณะ (2005)
พบว่าหน่วยความจำ แต่ไม่สี่มาตรการอื่น ๆ ของความรู้ความเข้าใจที่ถูก
ผลกระทบจากการขาดน้ำ ในทำนองเดียวกัน Fadda และคณะ (2008) รายงาน
ความสัมพันธ์ระหว่าง osmolarity ปัสสาวะและตัวชี้วัด
การทำงานของหน่วยความจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นสมมติฐานที่หน่วยความจำอาจจะโดยเฉพาะ
ต่อขอบเขตของความชุ่มชื้น มันเป็นหน่วยความจำ ( รูปที่ 1 )
มากกว่าความสามารถในการรักษาความสนใจที่ได้รับอิทธิพลจาก
การบริโภคน้ำในการศึกษาปัจจุบัน บาร์เดวิด et al . ( 2005 ) พบว่า แต่ไม่ใช่ความทรงจำ
4 มาตรการอื่น ๆของความรู้คือ
รบกวนจากการขาดน้ำ ในทำนองเดียวกัน fadda et al . ( 2008 ) รายงาน
ความสัมพันธ์ระหว่างำปัสสาวะและการวัด
ทำงาน