5 เหตุผลที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมากในสมัยนี การแปล - 5 เหตุผลที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมากในสมัยนี ไทย วิธีการพูด

5 เหตุผลที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ ภา

5 เหตุผลที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมากในสมัยนี้ และจะยิ่งสำคัญมากๆ ในอนาคต เรียกได้ว่าใครไม่ได้ภาษาอังกฤษ เวลาหางานคงลำบากละ แต่ skill ของเด็กไทยกลับสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคนที่เรียนภาษาเก่งก็เก่งถึงขั้นได้ไปแลกเปลี่ยนกันสนุกสนาน แต่คนที่เรียนอ่อนภาษาอังกฤษ
ก็สอบตกกันเป็นงานอดิเรกเลยทีเดียว พี่มิ้นท์จึงได้ทำการวิเคราะห์สาเหตุที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ ได้ดังนี้
1) ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของไทย เป็นเรื่องที่ดีที่ชาติไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร แต่มันก็มีจุดอ่อน ทำให้เราไม่สันทัดในภาษาอังกฤษ และเรายังมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติอีกด้วย พูด ฟัง อ่าน เขียน เป็นภาษาไทย แต่ละวันเลยแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอื่นเลย ภาษาปะกิดที่เรียนมา พอไม่ได้ใช้ก็กลายเป็นใช้กันไม่เป็นไปซะดื้อๆ
2) เด็กไทยไม่รู้คำศัพท์ เป็นสาเหตุที่ส่งผลร้ายแรงที่สุด ตราบใดที่ไม่รู้คำศัพท์ก็อย่าหวังว่าจะพูดได้ เพราะในเมื่อคลังคำศัพท์เรามีน้อยเหลือเกินเราก็ไม่สามารถจะคิดประโยคที่ใช้ในการสื่อสารได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะการพูดหรือเขียนนะ ฟังกับอ่านก็ไม่ได้ด้วย รู้ว่าเป็นคำเป็นตัวอักษร แต่มันแปลว่าอะไรอะ แอ๊ก!! อันนี้มักจะเห็นผลชัดเจนเวลาทำข้อสอบพาร์ทบทความยาวๆ
3) ยึดตามหนังสือเรียนเกินไป จริงอยู่ที่เวลาเรียนก็จะต้องมีหนังสือเรียน เพื่อให้รู้ว่าประโยคแต่ละประโยคเรียงยังไง ใช้ยังไง แต่หารู้ไม่ว่าในชีวิตจริงการพูดของฝรั่งก็ไม่ได้ตรงตามแกรมม่าหรอกนะ ก็เหมือนภาษาไทยนั่นแหละ ภาษาพูดภาษาเขียนที่ใช้กันจริงๆ ไม่ค่อยมีใครมานั่งนึกว่าถูกไวยากรณ์มั้ย เอาแค่สื่อสารรู้เรื่องก็พอแล้ว ภาษาอังกฤษก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ดังนั้นถ้าคิดจะหัดพูด ลองพูดๆ ไป อย่าไปยึดแกรมม่ามากจนเกินไป เพราะจะทำให้พะวงจนไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้ากล้าที่จะพูดหรือคุยไปเรื่อยๆ เราจะเรียนรู้แกรมม่า รู้วิธีการสื่อสารโดยอัตโนมัติ แบบนี้สิเค้าเรียกว่าเรียนจาdประสบการณ์ จะชำนาญขึ้นมาเอง
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า เด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษกันมา 10 ปี 15 ปี แต่คนที่ใช้ได้คล่องก็เป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
4) ไม่มีโอกาสได้ใช้ แม้ว่าโรงเรียนสมัยนี้จะจ้างอาจารย์ฝรั่งมาสอนกันเต็มไปหมด แต่อาทิตย์นึงก็อาจจะมีเวลาพูดคุยกับฝรั่งจริงๆ ก็แค่อาทิตย์ละ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งมันก็แค่นั้นจริงๆ!! ไม่มีใครที่จะใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน (ยกเว้นโรงเรียนที่เค้าบังคับ) ดังนั้นเมื่อไม่มีช่องทาง เราก็จะไม่ใช้กันเลย จริงมั้ย?? แล้วมารอคุยกับอาจารย์ฝรั่งอีกทีคาบหน้า พี่มิ้นท์แนะนำว่าถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นคนพูด แต่แค่ได้ฟัง หรืออ่าน ก็ได้ฝึกทักษะแล้วนะ
5) อาย!! แค่ไม่มีโอกาสได้ใช้ก็ว่าหนักแล้ว ยังจะอายอีก ความอายทำให้เราสูญเสียโอกาสหลายๆ อย่างในชีวิตนะคะ พี่มิ้นท์เชื่อว่าหลายโรงเรียนน่าจะให้น้องๆ ออกไปสัมภาษณ์ฝรั่ง (ซึ่งส่วนใหญ่จะไปวัดพระแก้ว ฮ่าๆ) นี่แหละค่ะ โอกาสอันดีของเราที่จะได้คุยกับเจ้าของภาษา ลองสัมภาษณ์ลองเอาความรู้ทั้งหมดที่เรียนมา ใช้ออกไปให้เต็มที่ ถ้าอยากจะอาย ควรอายในเรื่องที่ไม่ดีแทนดีกว่านะคะ :)


0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
5 เหตุผลที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมากในสมัยนี้และจะยิ่งสำคัญมาก ๆ ในอนาคตเรียกได้ว่าใครไม่ได้ภาษาอังกฤษเวลาหางานคงลำบากละแต่ทักษะของเด็กไทยกลับสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัดซึ่งคนที่เรียนภาษาเก่งก็เก่งถึงขั้นได้ไปแลกเปลี่ยนกันสนุกสนานแต่คนที่เรียนอ่อนภาษาอังกฤษก็สอบตกกันเป็นงานอดิเรกเลยทีเดียวพี่มิ้นท์จึงได้ทำการวิเคราะห์สาเหตุที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษได้ดังนี้1) ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของไทยเป็นเรื่องที่ดีที่ชาติไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใครแต่มันก็มีจุดอ่อนทำให้เราไม่สันทัดในภาษาอังกฤษและเรายังมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติอีกด้วยพูดฟังอ่านเขียนเป็นภาษาไทยแต่ละวันเลยแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอื่นเลยภาษาปะกิดที่เรียนมาพอไม่ได้ใช้ก็กลายเป็นใช้กันไม่เป็นไปซะดื้อ ๆ2 เด็กไทยไม่รู้คำศัพท์เป็นสาเหตุที่ส่งผลร้ายแรงที่สุดตราบใดที่ไม่รู้คำศัพท์ก็อย่าหวังว่าจะพูดได้เพราะในเมื่อคลังคำศัพท์เรามีน้อยเหลือเกินเราก็ไม่สามารถจะคิดประโยคที่ใช้ในการสื่อสารได้ไม่ใช่แค่เฉพาะการพูดหรือเขียนนะฟังกับอ่านก็ไม่ได้ด้วยรู้ว่าเป็นคำเป็นตัวอักษรแต่มันแปลว่าอะไรอะแอ๊ก!! อันนี้มักจะเห็นผลชัดเจนเวลาทำข้อสอบพาร์ทบทความยาว ๆ 3) ยึดตามหนังสือเรียนเกินไปจริงอยู่ที่เวลาเรียนก็จะต้องมีหนังสือเรียนเพื่อให้รู้ว่าประโยคแต่ละประโยคเรียงยังไงใช้ยังไงแต่หารู้ไม่ว่าในชีวิตจริงการพูดของฝรั่งก็ไม่ได้ตรงตามแกรมม่าหรอกนะก็เหมือนภาษาไทยนั่นแหละภาษาพูดภาษาเขียนที่ใช้กันจริง ๆ ไม่ค่อยมีใครมานั่งนึกว่าถูกไวยากรณ์มั้ยเอาแค่สื่อสารรู้เรื่องก็พอแล้วภาษาอังกฤษก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันดังนั้นถ้าคิดจะหัดพูดลองพูด ๆ ไปอย่าไปยึดแกรมม่ามากจนเกินไปเพราะจะทำให้พะวงจนไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษแต่ถ้ากล้าที่จะพูดหรือคุยไปเรื่อย ๆ เราจะเรียนรู้แกรมม่ารู้วิธีการสื่อสารโดยอัตโนมัติ แบบนี้สิเค้าเรียกว่าเรียนจาdประสบการณ์ จะชำนาญขึ้นมาเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าเด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษกันมา 10 ปี 15 ปีเท่านั้นแต่คนที่ใช้ได้คล่องก็เป็นแค่คนกลุ่มเล็ก ๆ4 ไม่มีโอกาสได้ใช้แม้ว่าโรงเรียนสมัยนี้จะจ้างอาจารย์ฝรั่งมาสอนกันเต็มไปหมดแต่อาทิตย์นึงก็อาจจะมีเวลาพูดคุยกับฝรั่งจริง ๆ ก็แค่อาทิตย์ละ 2-3 ชั่วโมงซึ่งมันก็แค่นั้นจริง ๆ !! ไม่มีใครที่จะใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน (ยกเว้นโรงเรียนที่เค้าบังคับ) ดังนั้นเมื่อไม่มีช่องทางเราก็จะไม่ใช้กันเลยจริงมั้ย?? แล้วมารอคุยกับอาจารย์ฝรั่งอีกทีคาบหน้าพี่มิ้นท์แนะนำว่าถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นคนพูดแต่แค่ได้ฟังหรืออ่านก็ได้ฝึกทักษะแล้วนะ5) อาย!! แค่ไม่มีโอกาสได้ใช้ก็ว่าหนักแล้วยังจะอายอีกความอายทำให้เราสูญเสียโอกาสหลาย ๆ อย่างในชีวิตนะคะพี่มิ้นท์เชื่อว่าหลายโรงเรียนน่าจะให้น้อง ๆ ออกไปสัมภาษณ์ฝรั่ง (ซึ่งส่วนใหญ่จะไปวัดพระแก้วฮ่า ๆ) นี่แหละค่ะโอกาสอันดีของเราที่จะได้คุยกับเจ้าของภาษาลองสัมภาษณ์ลองเอาความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาใช้ออกไปให้เต็มที่ถ้าอยากจะอายควรอายในเรื่องที่ไม่ดีแทนดีกว่านะคะ:)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
5
และจะยิ่งสำคัญมาก ๆ ในอนาคตเรียกได้ว่าใครไม่ได้ภาษาอังกฤษเวลาหางานคงลำบากละ แต่ทักษะ
ได้ดังนี้
1) ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของไทย แต่มันก็มีจุดอ่อนทำให้เราไม่สันทัดในภาษาอังกฤษ พูดฟังอ่านเขียนเป็นภาษาไทย ภาษาปะกิดที่เรียนมา
เด็กไทยไม่รู้คำศัพท์เป็นสาเหตุที่ส่งผลร้ายแรงที่สุด ไม่ใช่แค่เฉพาะการพูดหรือเขียนนะฟังกับอ่านก็ไม่ได้ด้วยรู้ว่าเป็นคำเป็นตัวอักษร แต่มันแปลว่าอะไรอะแอ๊ก !!
ยึดตามหนังสือเรียนเกินไป ใช้ยังไง ก็เหมือนภาษาไทยนั่นแหละภาษาพูดภาษาเขียนที่ใช้กันจริงๆ เอาแค่สื่อสารรู้เรื่องก็พอแล้วภาษาอังกฤษก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันดังนั้นถ้าคิดจะหัดพูดลองพูด ๆ ไปอย่าไปยึดแกรมม่ามากจนเกินไป เราจะเรียนรู้แกรมม่ารู้วิธีการสื่อสารโดยอัตโนมัติ
เด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษกันมา 10 ปี 15 ปี เท่านั้น
4) ไม่มีโอกาสได้ใช้ ก็แค่อาทิตย์ละ 2-3 ชั่วโมงซึ่งมันก็แค่นั้นจริงๆ !! (ยกเว้นโรงเรียนที่เค้าบังคับ) ดังนั้นเมื่อไม่มีช่องทางเราก็จะไม่ใช้กันเลยจริงมั้ย ?? แต่แค่ได้ฟังหรืออ่านก็ได้ฝึกทักษะแล้วนะ
5) อาย !! แค่ไม่มีโอกาสได้ใช้ก็ว่าหนักแล้วยังจะอายอีกความอายทำให้เราสูญเสียโอกาสหลาย ๆ อย่างในชีวิตนะคะ ออกไปสัมภาษณ์ฝรั่ง (ซึ่งส่วนใหญ่จะไปวัดพระแก้วฮ่า ๆ ) นี่แหละค่ะ ใช้ออกไปให้เต็มที่ถ้าอยากจะอาย :)


การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
5 เหตุผลที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมากในสมัยนี้และจะยิ่งสำคัญมากๆในอนาคตเรียกได้ว่าใครไม่ได้ภาษาอังกฤษเวลาหางานคงลำบากละ A ทักษะของเด็กไทยกลับสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัดแต่คนที่เรียนอ่อนภาษาอังกฤษ
ก็สอบตกกันเป็นงานอดิเรกเลยทีเดียวพี่มิ้นท์จึงได้ทำการวิเคราะห์สาเหตุที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษได้ดังนี้
1 ) ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของไทยเป็นเรื่องที่ดีที่ชาติไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใครแต่มันก็มีจุดอ่อนทำให้เราไม่สันทัดในภาษาอังกฤษและเรายังมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติอีกด้วยพูดฟังอ่านเขียนแต่ละวันเลยแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอื่นเลยภาษาปะกิดที่เรียนมาพอไม่ได้ใช้ก็กลายเป็นใช้กันไม่เป็นไปซะดื้อๆ
2 ) เด็กไทยไม่รู้คำศัพท์เป็นสาเหตุที่ส่งผลร้ายแรงที่สุดตราบใดที่ไม่รู้คำศัพท์ก็อย่าหวังว่าจะพูดได้เพราะในเมื่อคลังคำศัพท์เรามีน้อยเหลือเกินเราก็ไม่สามารถจะคิดประโยคที่ใช้ในการสื่อสารได้ฟังกับอ่านก็ไม่ได้ด้วยรู้ว่าเป็นคำเป็นตัวอักษรแต่มันแปลว่าอะไรอะแอ๊ก !! อันนี้มักจะเห็นผลชัดเจนเวลาทำข้อสอบพาร์ทบทความยาวๆ
3 ) ยึดตามหนังสือเรียนเกินไปจริงอยู่ที่เวลาเรียนก็จะต้องมีหนังสือเรียนเพื่อให้รู้ว่าประโยคแต่ละประโยคเรียงยังไงใช้ยังไงแต่หารู้ไม่ว่าในชีวิตจริงการพูดของฝรั่งก็ไม่ได้ตรงตามแกรมม่าหรอกนะภาษาพูดภาษาเขียนที่ใช้กันจริงๆไม่ค่อยมีใครมานั่งนึกว่าถูกไวยากรณ์มั้ยเอาแค่สื่อสารรู้เรื่องก็พอแล้วภาษาอังกฤษก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันดังนั้นถ้าคิดจะหัดพูดลองพูดๆไปอย่าไปยึดแกรมม่ามากจนเกินไปแต่ถ้ากล้าที่จะพูดหรือคุยไปเรื่อยๆเราจะเรียนรู้แกรมม่ารู้วิธีการสื่อสารโดยอัตโนมัติแบบนี้สิเค้าเรียกว่าเรียนจา D ประสบการณ์จะชำนาญขึ้นมาเอง
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าเด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษกันมา 10 . 15 แต่คนที่ใช้ได้คล่องก็เป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆเท่านั้น
.4 ) ไม่มีโอกาสได้ใช้แม้ว่าโรงเรียนสมัยนี้จะจ้างอาจารย์ฝรั่งมาสอนกันเต็มไปหมดแต่อาทิตย์นึงก็อาจจะมีเวลาพูดคุยกับฝรั่งจริงๆก็แค่อาทิตย์ละ 2-3 ชั่วโมงซึ่งมันก็แค่นั้นจริงๆ ! !ไม่มีใครที่จะใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ( ยกเว้นโรงเรียนที่เค้าบังคับ ) ดังนั้นเมื่อไม่มีช่องทางเราก็จะไม่ใช้กันเลยจริงมั้ย ? ?แล้วมารอคุยกับอาจารย์ฝรั่งอีกทีคาบหน้าพี่มิ้นท์แนะนำว่าถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นคนพูดแต่แค่ได้ฟังหรืออ่านก็ได้ฝึกทักษะแล้วนะ
5 ) อาย ! !แค่ไม่มีโอกาสได้ใช้ก็ว่าหนักแล้วยังจะอายอีกความอายทำให้เราสูญเสียโอกาสหลายๆอย่างในชีวิตนะคะพี่มิ้นท์เชื่อว่าหลายโรงเรียนน่าจะให้น้องๆออกไปสัมภาษณ์ฝรั่ง ( ซึ่งส่วนใหญ่จะไปวัดพระแก้วฮ่าๆ ) นี่แหละค่ะลองสัมภาษณ์ลองเอาความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาใช้ออกไปให้เต็มที่ถ้าอยากจะอายควรอายในเรื่องที่ไม่ดีแทนดีกว่านะคะ :)


การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: