Usual care: refers to the hospital’

Usual care: refers to the hospital’s routine care activities which are used for survivors of breast cancer conducted by a nursing team and other health care providers at an out-patient department including regular check-ups, medication, and health education.
Data Collection:
Preparing the researcher: The PI studied Buddhist thought, encompassing critical reflection theory, teaching methods, and research. This included practicing critical reflection based on the Four Noble Truths by herself for three months before conducting the program.
Preparing the research assistants: Two research assistants helped to approach and screen survivors of breast cancer at the outpatient surgical/oncology clinic. In addition, two research assistants (a monk or a nun), taught the Four Noble Truths. They received a manuscript of the Four Noble Truths prior to teaching, to ensure consistency and formalization of their expertise.
Data collection procedure: At week 0 (baseline assessment), all three instruments were administered to the participants, and the PI conducted the intervention for the experimental group, with the control group receiving the hospital’s routine care activities. All data were obtained again immediately, 2 weeks, and 1 month after finishing the intervention.
Data analysis: Descriptive statistics were used to analyze the participants’ demographic characteristics. The Chi-square test and independent t-test were used to examine the difference of demographic data and the dependent variables (FCR and hopelessness) between the participants in the experimental group and the control group at baseline. Due to non-normal distribution of the data sets, the Friedman Test was used to test the difference of the FCR scores and the hopelessness scores over a period of time. The Mann-Whitney U Test was used to test the difference between the control and the experimental group at each point of measurement.
Results
All participants in the control group and the experimental group were female (100%). Both groups were similar in all demographic data at baseline in terms of age, marital status, number of a children aged less than or equal to 12 years, educational level, monthly income, sufficiency of income, occupation, and health service expenditure. Also, both groups were similar in time since diagnosis, stage of cancer, and type of treatment (Table 2).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปกติดูแล: หมายถึงกิจกรรมการดูแลกิจวัตรประจำวันของโรงพยาบาลที่ใช้สำหรับการรอดชีวิตของโรคมะเร็งเต้านมโดยทีมพยาบาลและอื่น ๆ ผู้ให้บริการสุขภาพที่แผนกผู้ป่วยเป็นรวมทั้งตรวจสุขภาพทั่วไป ยา และสุขศึกษารวบรวมข้อมูล:เตรียมนักวิจัย: PI ที่ศึกษาพุทธคิดว่า ครอบคลุมทฤษฎีสำคัญสะท้อน การสอน และการวิจัย สำคัญสะท้อนจากทุกข์ ด้วยตัวเองสำหรับสามเดือนก่อนจัดโปรแกรมการฝึกด้วยเตรียมผู้ช่วยวิจัย: สองวิจัยผู้ช่วยที่ช่วยให้แนวทางและหน้าจอผู้รอดชีวิตโรคมะเร็งที่ผู้ป่วยนอกคลินิกพยาธิวิทยา นอกจากนี้ สองวิจัยผู้ช่วย (มีพระสงฆ์หรือแม่ชี), สอนทุกข์ พวกเขาได้รับฉบับของทุกข์ก่อนสอน ความสอดคล้องและ formalization ความเชี่ยวชาญของพวกเขาขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล: ในสัปดาห์ที่ 0 (การประเมินพื้นฐาน), เครื่องมือที่สามทั้งหมดขึ้นผู้เข้าร่วม และ PI ดำเนินการแทรกแซงของกลุ่มทดลอง กับกลุ่มควบคุมได้รับกิจกรรมการดูแลกิจวัตรประจำวันของโรงพยาบาล ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับอีกครั้งทันที สัปดาห์ที่ 2 และ 1 เดือนหลังเสร็จสิ้นการแทรกแซงการวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้สถิติเชิงพรรณนาเพื่อวิเคราะห์ลักษณะทางประชากรศาสตร์ของผู้เข้าร่วม การทดสอบไคสแควร์และการทดสอบอิสระ t ถูกใช้เพื่อตรวจสอบความแตกต่างระหว่างผู้เรียนในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมที่พื้นฐานของข้อมูลประชากรและตัวแปรขึ้น (FCR และความสิ้นหวัง) เนื่องจากไม่ใช่ - การแจกแจงปกติของชุดข้อมูล ฟรีดแมนทดสอบใช้การทดสอบความแตกต่างของคะแนน FCR และคะแนนความสิ้นหวังในช่วงเวลา การทดสอบ U แมนน์วิทนีย์ถูกใช้เพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างการควบคุมและกลุ่มทดลองในแต่ละจุดวัดผลลัพธ์ทุกคนในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองเป็นเพศหญิง (100%) ทั้งสองกลุ่มได้คล้ายข้อมูลประชากรทั้งหมดที่พื้นฐานในแง่ของจำนวนเด็กที่อายุน้อยกว่า หรือเท่ากับ 12 ปี ระดับการศึกษา เงินเดือน พอเพียงของรายจ่ายบริการรายได้ อาชีพ และสุขภาพ อายุ สถานภาพ ด้วย ทั้งสองกลุ่มได้คล้ายในเวลาตั้งแต่การวินิจฉัย ระยะของโรคมะเร็ง และประเภทของการรักษา (ตารางที่ 2)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การดูแลตามปกติ: หมายถึงกิจกรรมการดูแลกิจวัตรประจำวันของโรงพยาบาลซึ่งจะใช้สำหรับผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมที่จัดทำโดยทีมพยาบาลและผู้ให้บริการดูแลสุขภาพอื่น ๆ ที่แผนกผู้ป่วยนอกรวมทั้งการตรวจสุขภาพปกติยาและการศึกษาสุขภาพ.
การเก็บข้อมูล:
เตรียมความพร้อม นักวิจัย: พี่คิดว่าการศึกษาพุทธครอบคลุมทฤษฎีการสะท้อนที่สำคัญวิธีการสอนและการวิจัย นี้รวมถึงการฝึกการสะท้อนที่สำคัญขึ้นอยู่กับอริยสัจด้วยตัวเองเป็นเวลาสามเดือนก่อนที่จะดำเนินการโปรแกรม.
เตรียมความพร้อมผู้ช่วยวิจัย: สองผู้ช่วยนักวิจัยช่วยในการเข้าหาและผู้รอดชีวิตหน้าจอของมะเร็งเต้านมที่ผู้ป่วยนอกคลินิกศัลยกรรม / รักษาและมะเร็งวิทยา นอกจากนี้สองผู้ช่วยนักวิจัย (เป็นพระภิกษุหรือภิกษุณี) สอนอริยสัจ พวกเขาได้รับต้นฉบับของอริยสัจก่อนที่จะมีการเรียนการสอนเพื่อให้สอดคล้องและ formalization ของความเชี่ยวชาญของพวกเขา.
ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล: ในสัปดาห์ที่ 0 (ประเมินพื้นฐาน) ทั้งสามเครื่องมือเป็นยาที่ผู้เข้าร่วมและ PI ดำเนินการแทรกแซงสำหรับ กลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับกิจกรรมการดูแลกิจวัตรประจำวันของโรงพยาบาล ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับอีกครั้งทันที 2 สัปดาห์และ 1 เดือนหลังจากจบการแทรกแซง.
การวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ลักษณะทางประชากรของผู้เข้าร่วม การทดสอบและเป็นอิสระ t-test Chi-square ถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบความแตกต่างของข้อมูลประชากรและตัวแปรตาม (FCR และความสิ้นหวัง) ระหว่างผู้เข้าร่วมในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมที่ baseline เนื่องจากการกระจายที่ไม่ปกติของชุดข้อมูลทดสอบฟรีดแมนถูกใช้ในการทดสอบความแตกต่างของคะแนน FCR และคะแนนความสิ้นหวังในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ยูทดสอบ Mann-Whitney ถูกใช้ในการทดสอบความแตกต่างระหว่างการควบคุมและกลุ่มทดลองที่จุดของการวัดแต่ละ.
ผลการค้นหา
ผู้เข้าร่วมทั้งหมดในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองเป็นเพศหญิง (100%) ทั้งสองกลุ่มมีความคล้ายคลึงกันในข้อมูลประชากรทั้งหมดที่ baseline ในแง่ของอายุสถานภาพสมรสจำนวนบุตรอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 ปีระดับการศึกษารายได้ต่อเดือนเพียงพอของรายได้อาชีพและค่าใช้จ่ายในการให้บริการสุขภาพ นอกจากนี้ทั้งสองกลุ่มมีความคล้ายคลึงกันในเวลาตั้งแต่การวินิจฉัยระยะของโรคมะเร็งและประเภทของการรักษา (ตารางที่ 2)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การดูแลตามปกติหมายถึงของโรงพยาบาลการดูแลกิจกรรมต่างๆที่ใช้สำหรับผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านม โดย ทีมพยาบาล และผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆที่แผนกผู้ป่วยนอก รวมทั้งตรวจสอบปกติ UPS , ยา และ สุขศึกษาการเก็บรวบรวมข้อมูลการเตรียมและศึกษาผู้วิจัย : พุทธว่า ครอบคลุมถึงทฤษฎี โยนิโสมนสิการ วิธี การสอน และการวิจัย นี้รวมการฝึกทักษะตามอริยสัจ 4 ด้วยตัวเธอเอง สามเดือนก่อนการโปรแกรมเตรียมผู้ช่วยวิจัย : สองผู้ช่วยวิจัยช่วยผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมและวิธีการหน้าจอในหน่วยผ่าตัดมะเร็งวิทยาคลินิก นอกจากนี้ สองผู้ช่วยวิจัย ( พระ หรือ แม่ชี ) , สอนอริยสัจสี่ . พวกเขาได้รับต้นฉบับของอริยสัจสี่ก่อนสอน เพื่อให้สอดคล้อง และความเป็นทางการของความเชี่ยวชาญของพวกเขาขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล : ในสัปดาห์ที่ 0 ( ประเมินพื้นฐาน ) ทั้งสาม คือกลุ่มผู้เข้าร่วม และ พี จัดกิจกรรมกลุ่ม กับ กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติของโรงพยาบาลต่างๆ ข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาอีกครั้งทันที 2 สัปดาห์ และ 1 เดือน หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์ลักษณะทางประชากรศาสตร์ของผู้เข้าร่วม . ไคสแควร์ทดสอบอิสระและสถิติที่ใช้ตรวจสอบความแตกต่างของข้อมูลและตัวแปร ( FCR และความสิ้นหวัง ) ระหว่างผู้เรียนในกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมที่ระดับ เนื่องจากไม่มีการแจกแจงแบบปกติของข้อมูลชุดทดสอบฟรีดแมนใช้วิธีการทดสอบความแตกต่างของคะแนนใช้คะแนนและสิ้นหวังในช่วงเวลา The Mann Whitney U Test ใช้ทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองในแต่ละจุดของการวัดผลลัพธ์ผู้เข้าร่วมทั้งหมดในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองหญิง ( 100% ) ทั้งสองกลุ่มมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่พื้นฐานในด้านอายุ สถานภาพสมรส จำนวนเด็กอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 ปี ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือน ความเพียงพอของรายได้ อาชีพ และค่าใช้จ่ายบริการด้านสุขภาพ นอกจากนี้ ทั้งสองกลุ่มมีความคล้ายคลึงกันในเวลาตั้งแต่การวินิจฉัย ระยะของมะเร็ง และประเภทของการรักษา ( ตารางที่ 2 )