This research uses VSM to analyze t

This research uses VSM to analyze the factors leading to insufficient
supply chain operations and applies both lean production
and RFID technology to improve supply chain efficiency and effectiveness.
The preliminary results in a case study (with 1 CDC, 10
LDC, and more than 400 repair shops) demonstrate that the total
operation time, from current stage to future stage with integration
of lean and RFID, can be saved by 81% (with 82% saving in waiting
and transportation time and 63% saving in value-added time). The
saving can be further enhanced to 89% (with 89% saving in waiting
and transportation time and 70% saving in value-added time) with
the adoption of cross-docking. Furthermore, each warehouse can
reduce at least one operator while maintaining current service
capacity and level in both CDC and LDC. ROI analysis with a value
of 2.6 justifies the effectiveness of lean production and RFID application.
The result of this study is a good reference for further
improvements in supply chain and logistics system through the
use of better management philosophy and modern technology.
This study can be extended in several directions. With the spirit
of lean production, the warehouses should conduct continuous
improvement to further increase operational efficiency. It is of
interest to apply RFID to transportation system to increase the
traceability of deliveries. Moreover, it is important to further improve
the reading rate of UHF RFID readers by adjusting the location
and position of tags and the distance between tags and
readers, as current 99.5% is still with space of improvement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยนี้ใช้ VSM เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่นำไปไม่เพียงพอการดำเนินงานโซ่อุปทาน และใช้การผลิตแบบ lean ทั้งและเทคโนโลยี RFID เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานและประสิทธิผลเบื้องต้นการทำกรณีศึกษา (1 CDC, 10LDC และร้านซ่อมมากกว่า 400) ที่แสดงผลรวมเวลาการดำเนินงาน จากระยะปัจจุบันระยะในอนาคตด้วยการผสานรวมของ lean และสามารถบันทึก RFID % 81 กับ 82% บันทึกในรอขนส่งและเวลาบันทึกเวลามูลค่าเพิ่ม 63%) ที่ประหยัดสามารถจะเพิ่มเติมขั้น% 89 กับ 89% บันทึกในรอขนส่งและเวลาบันทึกเวลามูลค่าเพิ่ม 70%) ด้วยยอมรับขน นอกจากนี้ แต่ละคลังสินค้าสามารถลดอย่างน้อยหนึ่งตัวในขณะที่รักษาบริการปัจจุบันกำลังการผลิตและระดับใน CDC และ LDC การวิเคราะห์ ROI ด้วยค่าของ 2.6 จัดชิดประสิทธิภาพของการผลิตแบบ lean และการประยุกต์ใช้ RFIDผลการศึกษาวิจัยนี้เป็นการอ้างอิงที่ดีสำหรับการเพิ่มเติมปรับปรุงในซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ระบบผ่านการใช้ดีกว่าปรัชญาการจัดการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยการศึกษานี้สามารถขยายได้หลายทิศทาง ด้วยจิตวิญญาณการผลิตแบบ lean คลังสินค้าควรทำอย่างต่อเนื่องปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานต่อไป เป็นของสนใจการใช้ RFID กับระบบขนส่งเพื่อเพิ่มการติดตามผลการส่ง นอกจากนี้ จะต้องปรับปรุงต่อไปอัตราอ่านอ่านฟไอโดยการปรับตำแหน่งและตำแหน่งของแท็กและระยะห่างระหว่างการแท็ก และอ่าน ปัจจุบัน 99.5% นั้นยัง มีพื้นที่ของการปรับปรุง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยครั้งนี้ใช้ VSM
การวิเคราะห์ปัจจัยที่นำไปสู่การไม่เพียงพอการดำเนินงานโซ่อุปทานและการใช้การผลิตแบบลีนและเทคโนโลยี
RFID ในการปรับปรุงประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานและประสิทธิผล.
ผลเบื้องต้นในกรณีศึกษา (1 CDC 10
LDC และอื่น ๆ กว่า 400 ซ่อมแซม ร้านค้า)
แสดงให้เห็นว่ารวมเวลาในการทำงานจากขั้นตอนปัจจุบันไปยังขั้นตอนในอนาคตที่มีการรวมของลีนและ
RFID, สามารถบันทึกโดย 81% (ประหยัด 82%
ในการรอคอยและเวลาการขนส่งและการประหยัด63% ในระยะเวลาที่มีมูลค่าเพิ่ม)
ประหยัดสามารถเพิ่มขึ้นถึง 89% (ประหยัด 89%
ในการรอคอยและเวลาการขนส่งและการประหยัด70% ในระยะเวลาที่มีมูลค่าเพิ่ม)
กับการยอมรับของข้ามเชื่อมต่อ นอกจากคลังสินค้าแต่ละคนสามารถลดอย่างน้อยหนึ่งผู้ประกอบการขณะที่ยังคงให้บริการในปัจจุบันกำลังการผลิตและระดับทั้งในและCDC LDC การวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุนที่มีมูลค่า2.6 justifies ประสิทธิภาพของการผลิตแบบลีนและการประยุกต์ใช้ RFID ได้. ผลการศึกษาครั้งนี้คือการอ้างอิงที่ดีต่อการปรับปรุงในห่วงโซ่อุปทานและระบบโลจิสติกผ่านการใช้งานของปรัชญาการบริหารจัดการที่ดีและเทคโนโลยีที่ทันสมัย. การศึกษาครั้งนี้สามารถ ขยายในหลายทิศทาง ด้วยจิตวิญญาณของการผลิตแบบลีน, คลังสินค้าควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะใช้ RFID เพื่อระบบการขนส่งเพื่อเพิ่มตรวจสอบย้อนกลับของการส่งมอบ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถปรับปรุงอัตราการอ่านของผู้อ่าน RFID UHF โดยการปรับสถานที่และตำแหน่งของแท็กและระยะห่างระหว่างแท็กและผู้อ่านเป็น99.5% ในปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ของการปรับปรุง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยนี้ใช้ vsm เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่นำไปสู่ห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินงานไม่เพียงพอ

ทั้ง Lean การผลิตและใช้เทคโนโลยี RFID เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานและประสิทธิผล .
ผลเบื้องต้นในการศึกษา ( 1 และ 10
LDC และซ่อมแซมกว่า 400 ร้านค้า ) แสดงให้เห็นว่า เวลาการดำเนินงานรวม
, จากขั้นตอนปัจจุบันเพื่ออนาคตเวทีบูรณาการ
ของปอด และ RFID จะถูกบันทึกไว้โดย 81% ( 82 % ประหยัดในการรอคอย
และการขนส่งและประหยัดเวลา 63 % ในการครั้ง )
ประหยัดสามารถเพิ่มถึง 89 % ( 89 % ประหยัดในการรอคอย
และการขนส่งและประหยัดเวลา 70% ในการเวลา ) กับการยอมรับของ Cross Docking
. นอกจากนี้ แต่ละโรงงานสามารถลดอย่างน้อยหนึ่ง )

บริการในขณะที่การรักษาในปัจจุบันความจุและระดับทั้งในคณะและ LDC . ร้อยเอ็ดการวิเคราะห์ด้วยค่า
2.6 อธิบายประสิทธิผลของการผลิตแบบลีนและการประยุกต์ใช้ RFID
ผลของการศึกษานี้คือการอ้างอิงที่ดีสำหรับการปรับปรุงเพิ่มเติม
ในระบบโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ผ่าน
ใช้ดีกว่าของปรัชญาการจัดการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย .
ศึกษานี้สามารถขยายได้หลายเส้นทาง ด้วยจิตวิญญาณ
การผลิตแบบลีน คลังสินค้าควรดำเนินการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน . มันคือ
สนใจสมัคร RFID ระบบการขนส่งเพื่อเพิ่ม
ย้อนกลับการส่งมอบ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะปรับปรุงต่อไป
อ่าน UHF RFID ผู้อ่านโดยการปรับอัตราตำแหน่ง
และตำแหน่งของแท็กและระยะห่างระหว่างแท็กและ
ผู้อ่านปัจจุบันเป็น 99.5% ยังคงมีพื้นที่ของการปรับปรุง