Thailand has a tradition of monarch

Thailand has a tradition of monarchy and strong centralized governments. It became a constitutional monarchy in 1932, and the intervening period has been marked by alternating periods of strong military governments and occasional experiments in democracy. Most of its people still live in rural areas that are administered by local administrative councils, called tambon councils, which are, in turn, under the authority of provincial governments. The Thai government has been frustrated by attempts at democratization on the provincial level, which have led to involving several very high profile corruption scandals, provincial officials. It has recently declared decentralization as a major priority, with plans to go directly to the tambon level. Thus hoping to instill democratic principles and practices at the grassroots, a level where citizens can in practice actually hold their governments accountable. Phairoj Pholphet is preparing the people of Thailand for the legal changes that will begin the transfer of increased amounts of decision-making power to localities. His goal is to create a better balance between local and central authorities, and to raise the level of confidence and responsibility for problem solving among rural dwellers.

By helping local people understand the law and learn how it can work for them, Phiroj is empowering and encouraging them to organize and form their own information networks. He is helping to prepare the Thais to participate in government as proactive and well-informed local leaders who will be able to have a voice in decisions being made about matters that affect their lives, such as their land, their children's education, sources of jobs, water, and electrical power.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยมีประเพณีของสถาบันพระมหากษัตริย์และรัฐบาลส่วนกลางที่แข็งแกร่ง มันกลายเป็นระบอบรัฐธรรมนูญในปี 1932 และงวดแทรกแซงได้รับการทำเครื่องหมายโดยการสลับช่วงเวลาของรัฐบาลทหารที่แข็งแกร่งและการทดลองเป็นครั้งคราวในระบอบประชาธิปไตย ส่วนใหญ่ของคนที่ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทที่มีการบริหารงานโดยคณะกรรมการผู้บริหารท้องถิ่นที่เรียกว่าเทศบาลตำบลซึ่งในทางกลับกันภายใต้อำนาจของรัฐบาลจังหวัด รัฐบาลไทยได้รับความผิดหวังจากความพยายามที่จะเป็นประชาธิปไตยในระดับจังหวัดซึ่งได้นำไปสู่รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับหลายสูงมากการทุจริตฉ้อฉลเจ้าหน้าที่จังหวัด มันได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้การกระจายอำนาจเป็นสำคัญที่สำคัญมีแผนจะไปที่ระดับตำบล จึงหวังที่จะปลูกฝังหลักการประชาธิปไตยและการปฏิบัติที่ระดับรากหญ้าระดับที่ประชาชนปฏิบัติจริงในการสามารถถือรัฐบาลของพวกเขารับผิดชอบ ไพโรจน์ Pholphet มีการเตรียมคนไทยให้มีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่จะเริ่มต้นการโอนจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นของอำนาจการตัดสินใจเพื่อท้องถิ่น เป้าหมายของเขาคือการสร้างความสมดุลที่ดีระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและภาคกลางและเพื่อยกระดับของความเชื่อมั่นและความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาในหมู่ชาวชนบท. โดยช่วยให้คนในท้องถิ่นเข้าใจกฎหมายและเรียนรู้วิธีการที่จะสามารถทำงานได้สำหรับพวกเขา Phiroj มีการเพิ่มขีดความสามารถและ กระตุ้นให้พวกเขาในการจัดระเบียบและรูปแบบเครือข่ายข้อมูลของตัวเอง เขาจะช่วยในการเตรียมความพร้อมของคนไทยที่จะเข้าร่วมในรัฐบาลเป็นเชิงรุกและสันทัดกรณีผู้นำท้องถิ่นที่จะสามารถที่จะมีความเสียงในการตัดสินใจถูกทำเกี่ยวกับเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาเช่นที่ดินของพวกเขาการศึกษาของบุตรหลานแหล่งที่มาของงาน น้ำและพลังงานไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศไทยมีประเพณีของกษัตริย์ และแข็งแรง จากรัฐบาล มันเป็นระบอบรัฐธรรมนูญในปี 2475 และการแทรกแซงช่วงถูกกำหนดโดยสลับช่วงเวลาของรัฐบาลทหารที่แข็งแกร่งและบางครั้งการทดลองในประชาธิปไตย คนส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทที่ปกครองโดยสภาปกครองส่วนท้องถิ่นที่เรียกว่าภาตำบล ซึ่งเป็นในทางกลับกัน ภายใต้อำนาจของรัฐบาลจังหวัด รัฐบาลได้รับการผิดหวังโดยพยายามความเป็นประชาธิปไตยในระดับจังหวัด ซึ่งจะนำไปสู่การทุจริตอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับหลายสูงโปรไฟล์ของข้าราชการส่วนภูมิภาค ได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆนี้การกระจายอำนาจเป็นสําคัญสําคัญกับแผนการที่จะไปที่ระดับตําบลจึงหวังที่จะปลูกฝังหลักประชาธิปไตยและการปฏิบัติในระดับรากหญ้า ระดับที่ประชาชนสามารถในการปฏิบัติจริงถือรัฐบาลของตนที่รับผิดชอบ ไพโรจน์ pholphet เตรียมประชาชนชาวไทยสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่จะเริ่มต้นการเพิ่มปริมาณของพลังงานที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นเป้าหมายของเขาคือการสร้างสมดุลที่ดีระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและส่วนกลาง และเพิ่มระดับของความมั่นใจ และความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาของคนในชนบท

ช่วยประชาชนเข้าใจกฎหมาย และเรียนรู้ว่ามันทำงานได้สำหรับพวกเขา phiroj จะเพิ่มศักยภาพ และส่งเสริมให้พวกเขาเพื่อจัดระเบียบและรูปแบบเครือข่ายสารสนเทศของตนเองเขาจะช่วยเตรียมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในรัฐบาลเป็นเชิงรุก และมีผู้นำท้องถิ่นที่จะสามารถมีเสียงในการตัดสินใจการทำเรื่องที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา เช่น ที่ดินของเขา การศึกษาของเด็ก , แหล่งงาน , น้ำ , ไฟฟ้า