This report updates the 1990 “Natio

This report updates the 1990 “National High Blood Pressure Education Program Working Group Report on High Blood Pressure in Pregnancy” and focuses on classification, pathophysiologic features, and management of the hypertensive disorders of pregnancy. Through a combination of evidence-based medicine and consensus this report updates contemporary approaches to hypertension control during pregnancy by expanding on recommendations made in “The Sixth Report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation, and Treatment of High Blood Pressure.” The recommendations to use Korotkoff phase V for determination of diastolic pressure and to eliminate edema as a criterion for diagnosing preeclampsia are discussed. In addition, the use as a diagnostic criterion of blood pressure increases of 30 mm Hg systolic or 15 mm Hg diastolic with blood pressure

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รายงานนี้ปรับปรุง 1990 "ชาติความดันโลหิตสูงการศึกษาโปรแกรมการทำงานกลุ่มรายงานในความดันโลหิตสูงในครรภ์" และมุ่งเน้นไปที่การจัดประเภท คุณสมบัติ pathophysiologic และการจัดการของโรคความดันโลหิตสูงของการตั้งครรภ์ ตามหลักฐานแพทย์และฉันทามติผ่าน รายงานนี้ปรับปรุงวิธีร่วมสมัยเพื่อควบคุมความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์ โดยขยายคำแนะนำใน "การหกรายงานของคณะกรรมการร่วมแห่งชาติการป้องกัน ตรวจสอบ ประเมินผล และรักษาความดันโลหิตสูง" มีการกล่าวถึงคำแนะนำ การใช้เฟส Korotkoff V สำหรับการวัดค่าความดัน diastolic และขจัดอาการบวมน้ำเป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัย preeclampsia นอกจากนี้ การใช้เป็นเกณฑ์วินิจฉัยความดันโลหิตเพิ่ม 30 mm Hg systolic หรือ 15 mm Hg มีความดันเลือด diastolic < 140/90 mm Hg มีไม่ถูกแนะนำ เนื่องจากมีหลักฐานแสดงว่า ผู้หญิงที่ มีความดันเลือดที่เหมาะสมคำอธิบายนี้จะไม่มากมักจะมีผลกระทบ การจัดการความแตกต่างระหว่างความดันโลหิตสูงเรื้อรังที่มีอยู่ก่อนการตั้งครรภ์และความดันโลหิตสูงที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขเฉพาะการตั้งครรภ์ของ preeclampsia ตลอดจนข้อควรพิจารณาในการจัดการสำหรับผู้หญิงมี comorbid เงื่อนไข มี การสนทนาของ pharmacologic รักษาความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์รวมถึงคำแนะนำสำหรับตัวแทนเฉพาะ อธิบายการใช้แอสไพรินปริมาณต่ำ แคลเซียม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆ ในการป้องกันของ preeclampsia และส่วนขยายในการให้คำปรึกษาผู้หญิงสำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคตและข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคตมีอยู่ (Am J Obstet Gynecol 2000; 183:S1-S22.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รายงานนี้ปรับปรุง 1990 "ความดันโลหิตสูงแห่งชาติหลักสูตรการศึกษารายงานการทำงานกลุ่มที่มีความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์" และมุ่งเน้นไปที่การจำแนกคุณลักษณะ pathophysiologic และการจัดการของความผิดปกติของความดันโลหิตสูงของการตั้งครรภ์ ผ่านการรวมกันของยาตามหลักฐานและความเห็นเป็นเอกฉันท์รายงานนี้ปรับปรุงวิธีการร่วมสมัยเพื่อการควบคุมความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์ด้วยการขยายข้อเสนอแนะใน "รายงานที่หกแห่งชาติคณะกรรมการร่วมในการป้องกันการตรวจสอบประเมินผลและการรักษาความดันโลหิตสูง." คำแนะนำในการใช้ขั้นตอนการ Korotkoff V สำหรับการวัดค่าความดัน diastolic และเพื่อขจัดอาการบวมน้ำเป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัย preeclampsia ได้อธิบาย นอกจากนี้ยังใช้เป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัยการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิต 30 มิลลิเมตรปรอท systolic หรือ 15 มิลลิเมตรปรอท diastolic ที่มีความดันเลือด <140/90 มิลลิเมตรปรอทยังไม่ได้รับการแนะนำเพราะมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่มีความดันเลือดที่เหมาะสมคำอธิบายนี้ ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะมีผลที่ไม่พึงประสงค์ ความแตกต่างการบริหารจัดการที่จะทำให้ความดันโลหิตสูงเรื้อรังระหว่างที่มีอยู่ก่อนการตั้งครรภ์และความดันโลหิตสูงที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขการตั้งครรภ์ที่เฉพาะเจาะจงของ preeclampsia เช่นเดียวกับการพิจารณาการจัดการสำหรับผู้หญิงที่มีเงื่อนไข comorbid การอภิปรายของการรักษาความดันโลหิตสูงยาในระหว่างตั้งครรภ์รวมถึงคำแนะนำสำหรับตัวแทนที่เฉพาะเจาะจง การใช้ยาแอสไพรินขนาดต่ำแคลเซียมหรืออาหารเสริมอื่น ๆ ในการป้องกันการเกิด preeclampsia อธิบายและส่วนขยายการให้คำปรึกษาสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ในอนาคตและคำแนะนำสำหรับการวิจัยในอนาคตจะรวม (Am J Obstet Gynecol 2000; 183: S1-S22.)