Many of his works can still be seen

Many of his works can still be seen today. During the present reign (King Rama IX), many of the buildings once more became so dilapidated that they needed to be demolished altogether. In their stead new halls were constructed in 2004 to replace them.
Contractor (if any) the architect John Clunich and his helper Henry C. Rose to design and construct the ChakriMahaPrasat Throne Hall
It was constructed in 1876
It had been renovated in 1999
The renovation finished in June , 2006
It was constructed as part of a building group in a rotated 'H' shape plan, with two parallel buildings running on an east to west axis. In between is an intersecting hall, with an axis running north to south. The northerly end of the structure is the Chakri Maha Prasat Throne Hall; all other buildings are hidden behind it. The throne hall consists of three stories, with three seven tiered prasats on each of the three major pavilions along the axis. The central pavilion with its portico and roof extensions is taller and larger than the other two on the sides

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลงานของเขามากมายคุณจะยังคงได้วันนี้ ในรัชกาลปัจจุบัน (รคิง), อาคารมากมายอีกครั้งกลายเป็นซอมซ่อแบบที่พวกเขาจำเป็นต้องทำลายทั้งหมด ในสถานที่ของ ห้องโถงใหม่ถูกสร้างขึ้นในปี 2004 การแทนที่ ผู้รับเหมา (ถ้ามี) สถาปนิกจอห์น Clunich และผู้ช่วยของเขาดอกกุหลาบ C. Henry เพื่อออกแบบ และก่อสร้างพระที่นั่ง ChakriMahaPrasat สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 1876ได้รับการตกแต่งใหม่ในปี 1999การปรับปรุงเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน 2549 มันถูกสร้างเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาคารใน 'H' แผนหมุนรูปร่าง ด้วยสองอาคารขนานที่ทำงานบนตะวันออกเป็นแกนทิศตะวันตก ในระหว่างเป็นหอตัด กับแกนเหนือไปใต้ ด้านเหนือของโครงสร้างคือ การรัตนมหาปราสาท อาคารอื่น ๆ ทั้งหมดถูกซ่อนอยู่เบื้องหลัง พระที่นั่งประกอบด้วยเรื่องราวสาม กับสาม เจ็ดชั้น prasats แต่ละตัวของสามหลักตามแนวแกน ศาลากลางมีความโก้และหลังคาสูง และใหญ่กว่าอื่น ๆ ทั้งสองด้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายผลงานของเขายังสามารถเห็นได้ในวันนี้ ในช่วงรัชกาลปัจจุบัน (รัชกาล IX) อาคารหลายแห่งอีกครั้งกลายเป็นทรุดโทรมเพื่อที่พวกเขาจะต้องถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ในห้องโถงใหม่ของพวกเขาแทนถูกสร้างขึ้นในปี 2004 เพื่อแทนที่พวกเขา.
ผู้รับเหมา (ถ้ามี) สถาปนิกจอห์น Clunich และผู้ช่วยของเขาเฮนรี่ซีโรสในการออกแบบและสร้าง ChakriMahaPrasat พระที่นั่ง
มันถูกสร้างขึ้นในปี 1876
มันได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 1999
การปรับปรุง เสร็จในเดือนมิถุนายน 2006
มันถูกสร้างเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาคารในหมุน 'H' แผนรูปร่างที่มีสองอาคารขนานทำงานบนตะวันออกไปทางทิศตะวันตกแกน ในระหว่างที่เป็นห้องโถงตัดกับแกนการทำงานเหนือจรดใต้ ปลายเหนือของโครงสร้างเป็นจักรีมหาปราสาทพระที่นั่ง; อาคารอื่น ๆ ทั้งหมดจะถูกซ่อนอยู่เบื้องหลังมัน พระที่นั่งประกอบด้วยสามเรื่องสามเจ็ด prasats ฉัตรในแต่ละสามศาลาใหญ่พร้อมแกน ศาลากลางที่มีระเบียงและหลังคาส่วนขยายของมันคือสูงและมีขนาดใหญ่กว่าอีกสองด้านข้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายผลงานของเขายังสามารถเห็นได้ในวันนี้ ในรัชกาลปัจจุบัน ( รัชกาลที่ 9 ) หลายอาคารอีกครั้งหนึ่ง จึงทรุดโทรมที่พวกเขาต้องถูกรื้อถอนทั้งหมด แทนใหม่หอพักของพวกเขาถูกสร้างในปี 2004 เพื่อแทนที่พวกเขาผู้รับเหมา ( ถ้ามี ) สถาปนิกและผู้ช่วยของเขาเฮนรี่ ซี ยอน คลูนิชโรส เพื่อออกแบบและสร้าง chakrimahaprasat พระที่นั่งมันถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1876มันได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 1999ปรับปรุงแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549มันถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาคารในแผนรูปร่างหมุน " H " กับสองขนานกับแกนวิ่งบนอาคารตะวันออกตะวันตก ในการตัดกันระหว่างห้องโถงกับแกนวิ่งเหนือใต้ สุดท้ายทางเหนือของโครงสร้างเป็นพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สิ่งก่อสร้างอื่น ๆทั้งหมดถูกซ่อนอยู่เบื้องหลัง พระที่นั่งประกอบด้วยสามเรื่อง สาม เจ็ด เป็นปราสาทในแต่ละสามสาขาศาลาตามแนวแกน ศาลากลางกับสามารถและนามสกุลหลังคาสูง และมีขนาดใหญ่กว่าอีกสองข้าง