This fine example of an English tow

This fine example of an English tower mill was built in 1819 for the brothers Thomas and Isaac Reckitt by the Hull millwrights Norman and Smithson, for the sum of £1,826 – 10s – 6d. Remarkably, the original contracts from the building of the mill still survive.

The Reckitt brothers carried on their business as millers, corn factors and bakers. In the 1820s a bakehouse was added, and a steam engine was installed to supply power to a bone mill (where bones were ground for fertiliser) and to a "Roman Cement" mill built to the north of the granary. The 16hp beam engine was erected by Tuxfords of Boston at a cost of £300. The business failed in 1833 after a succession of poor harvests; the mill was sold and the partnership dissolved.

Isaac Reckitt went to Nottingham and set himself up as a corn factor once more, but with little success. Subsequently he moved to Hull and entered the starch business which proved a much more profitable concern, eventually becoming Reckitt & Sons of ‘Blue’ fame – now Reckitt & Colman Ltd.

The Ostler family took over the mill in 1914 and ran the business until 1948 when mechanical problems made the windmill itself unusable. Trade carried on for some years using electrically driven equipment but was gradually wound down, and the premises were sold in the late 1950s.

The survival of the mill owes much to Mr. Basil Reckitt, great-grandson of Isaac, the original builder, because in 1953 he was made aware of the mill’s plight and arranged for the two Reckitt Family Charitable Trusts to finance essential repairs. The work was carried out at a cost of £790 by Thompsons, millwrights of Alford.
By the time the present owners, the Waterfield family, arrived on the scene in June 1987, the condition of the mill had deteriorated considerably, but the aim was to put Maud Foster Mill back into working order - and to use it. Extensive repairs were undertaken, including the re-laying of all the floors and the installation of new trapdoors, grain bins, millstone cases, balcony doors and windows where needed. Three new sails had to be made, extensive repairs were required to the cap frame and roof, a new fantail was fitted and all the machinery overhauled. The work was completed in July 1988 and it was fitting that Mr Basil Reckitt was able to come along on 22nd July to perform the official re-opening ceremony. In 1998, two new sails were fitted to replace the two oldest, dating from the 1970s. This brings the story up to date, but windmills are rather like the Forth Bridge...

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างนี้ดีเป็นภาษาอังกฤษทาวเวอร์มิลล์สร้างขึ้นใน 1819 พี่ Thomas และอิส Reckitt โดย millwrights ฮัลล์นอร์แมนและ Smithson สำหรับผลรวมของ £1,826 – 10s – 6d อย่างยิ่ง โดยทั่วไปสัญญาเดิมจากอาคารของโรงสียังอยู่รอดพี่น้อง Reckitt ดำเนินธุรกิจของตนเอง ปัจจัยข้าวโพด และ bakers ใน 1820s การ เพิ่ม bakehouse มี และติดตั้งไฟฟ้าโรงสีกระดูก (ซึ่งกระดูกถูกพื้นสำหรับ fertiliser) และ "ซีเมนต์โรมัน" โรงสีแห่งทางเหนือของ granary การจัดหาเครื่องจักรไอน้ำ เครื่องยนต์ 16hp คานไม่เกร็ง โดย Tuxfords บอสตันต้นทุน £300 ธุรกิจที่ล้มเหลวใน 1833 หลังจากสืบทอดของ harvests ดี โรงสีถูกขาย และหุ้นส่วนที่ส่วนยุบไอแซค Reckitt ไปน็อตติงแฮม และตั้งตัวเอง เป็นตัวคูณข้าวโพดอีกครั้ง แต่ดีน้อย ต่อมาเขาย้ายไปฮัลล์ และป้อนธุรกิจแป้งที่พิสูจน์ความกังวลมีกำไรมาก ในที่สุดกลายเป็น Reckitt และบุตรขจร 'สีฟ้า' – Reckitt ตอนนี้และคอลแมนครอบครัว Ostler เอาผ่านโรงสีใน 1914 และรันธุรกิจจนถึงค.ศ. 1948 เมื่อปัญหาเครื่องจักรกลทำ windmill เองใช้ไม่ได้ ค้าดำเนินในบางปีที่ใช้อุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า แต่มีแผลค่อย ๆ ลง และสถานที่ถูกขายในช่วงปลายทศวรรษ 1950ความอยู่รอดของโรงสีค้างชำระมาก Reckitt นายโหระพา ดีหลานของไอแซค สร้างต้นฉบับ เนื่องจากในปีค.ศ. 1953 เขาทราบสหัสของโรงสี และจัดสอง Reckitt ครอบครัวกุศลบรรดาของฝากการเงินซ่อมแซมที่จำเป็น ทำงานออกเป็นต้นทุน £790 โดย Thompsons, millwrights Alfordตามเวลาเจ้าของปัจจุบัน ครอบครัว Waterfield เข้าฉากใน 1987 มิถุนายน สภาพของโรงสีมีรูปมาก แต่จุดมุ่งหมายคือ กลับมาอุดฟอสเตอร์มิลล์ลงในลำดับการทำงาน - และใช้ ซ่อมแซมอย่างละเอียดได้ดำเนินการ รวมถึงการใหม่วางบนพื้นและการติดตั้ง trapdoors ใหม่ ช่องเก็บข้าว กรณี millstone ประตูระเบียง และหน้าต่างที่ต้องการ เซลส์ใหม่สามมีการ ซ่อมแซมอย่างละเอียดถูกต้องกรอบฝาและหลังคา fantail ใหม่ถูกติดตั้ง และ overhauled เครื่องจักรทั้งหมด งานเสร็จสมบูรณ์ในเดือน 1988 กรกฎาคม และมันได้พอดีที่นาย Reckitt โหระพาได้มาตาม 22 กรกฎาคมพิธีเปิดใหม่อย่างเป็นทางการ ในปี 1998 เซลส์สองใหม่ถูกติดตั้งแทนสองที่เก่าแก่ที่สุด เดทจากสาว ๆ ทำให้เรื่องราวเสมอ แต่ windmills จะค่อนข้างเหมือนสะพานออก...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งตัวอย่างที่ดีของโรงงานหอภาษาอังกฤษที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1819 สำหรับพี่น้องโทมัสและไอแซค Reckitt โดยฮัลล์นอร์แมนและ Millwrights สมิทสำหรับผลรวมของ£ 1,826 - การ 10s - 6d อย่างน่าทึ่งสัญญาเดิมจากตัวอาคารของโรงสีที่ยังมีชีวิตอยู่. พี่น้อง Reckitt ดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจของพวกเขาในขณะที่มิลเลอร์, ปัจจัยข้าวโพดและขนมปัง ในยุค 1820 ขนมปังถูกบันทึกและจักรไอน้ำได้รับการติดตั้งเพื่อจ่ายพลังงานให้กับโรงงานกระดูก (กระดูกที่ถูกบดปุ๋ย) และ "โรมันปูนซิเมนต์" โรงงานที่สร้างขึ้นไปทางเหนือของยุ้งฉางที่ เครื่องยนต์คาน 16hp ถูกสร้างขึ้นโดย Tuxfords บอสตันที่ค่าใช้จ่ายของ£ 300 ธุรกิจที่ล้มเหลวใน 1833 หลังจากที่ต่อเนื่องของการเก็บเกี่ยวไม่ดี; โรงงานถูกขายและการเป็นหุ้นส่วนละลาย. ไอแซก Reckitt ไปน็อตติงแฮมและตั้งตัวเองขึ้นเป็นปัจจัยข้าวโพดอีกครั้ง แต่ด้วยความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อมาเขาได้ย้ายไปฮัลล์และป้อนธุรกิจแป้งที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นความกังวลที่ทำกำไรได้มากขึ้นในที่สุดกลายเป็น Reckitt & Sons ชื่อเสียง 'บลู' - ตอนนี้ Reckitt โคลแมน จำกัด และครอบครัวOstler เข้ามาโรงงานในปี 1914 และวิ่งจนธุรกิจ 1948 เมื่อมีปัญหาทางกลที่ทำกังหันลมตัวเองใช้ไม่ได้ ดำเนินการเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศเป็นเวลาหลายปีโดยใช้อุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แต่แผลค่อยๆลงและสถานที่ถูกขายในช่วงปลายปี 1950. อยู่รอดของโรงงานเป็นหนี้มากที่นายกระเพรา Reckitt, หลานชายของอิสอัคผู้สร้างเดิมเพราะ ในปี 1953 เขาได้รับรู้ถึงชะตากรรมของโรงงานและจัดให้ทั้งสอง Reckitt ครอบครัวไว้ใจเพื่อเป็นเงินทุนการซ่อมแซมที่จำเป็น งานที่ได้ดำเนินการที่ค่าใช้จ่ายของ£ 790 โดย Thompsons, Millwrights ของ Alford. ตามเวลาที่เจ้าของปัจจุบันครอบครัว Waterfield มาถึงที่เกิดเหตุในเดือนมิถุนายนปี 1987 สภาพของโรงสีที่ทรุดโทรมมาก แต่จุดมุ่งหมายคือ ม็อดที่จะนำฟอสเตอร์มิลล์กลับเข้ามาเพื่อการทำงาน - และใช้งานมัน ซ่อมแซมบริเวณกำลังดำเนินการรวมทั้งเรื่องการวางทุกชั้นและติดตั้งลับใหม่, ถังข้าวกรณีโม่ประตูระเบียงและหน้าต่างที่จำเป็น สามใบใหม่จะต้องมีการทำซ่อมแซมบริเวณที่ต้องกรอบฝาและหลังคาเป็นหางใหม่ที่ถูกติดตั้งและซ่อมแซมเครื่องจักร งานเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคมปี 1988 และมันก็เหมาะสมว่านายกระเพรา Reckitt ก็สามารถที่จะมาพร้อมในวันที่ 22 กรกฎาคมที่จะดำเนินการพิธีเปิดใหม่อย่างเป็นทางการ ในปี 1998 สองใบติดตั้งใหม่ที่จะมาแทนที่ทั้งสองที่เก่าแก่ที่สุดตั้งแต่ปี 1970 วิธีนี้จะทำให้เรื่องราวถึงวัน แต่กังหันลมเป็นเหมือนสะพานมา ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวอย่างที่ดีของโรงสีทาวเวอร์ ภาษาอังกฤษ ถูกสร้างขึ้นในปี 1819 สำหรับพี่น้อง โทมัส และ ไอแซค เรค โดยเรือและ millwrights นอร์แมนสมิธสัน สำหรับผลรวมของง 1826 – 100 – 6 . บน สัญญาเดิม จากอาคารของโรงงานยังมีชีวิตอยู่

พี่น้องเรคดำเนินการธุรกิจของพวกเขาเป็นโรงสีปัจจัยและข้าวโพดขนม ในอังกฤษมีร้านขนมปังคือเพิ่มและไอน้ำเครื่องยนต์ถูกติดตั้งเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับกระดูก ( โรงสีที่กระดูกดินปุ๋ย ) และ " ซีเมนต์ " โรมัน โรงงานสร้างขึ้นทางทิศเหนือของยุ้งฉาง . การ 16hp ลำแสงเครื่องยนต์ ถูกสร้างขึ้นโดย tuxfords บอสตันที่ค่าใช้จ่ายของกว่า 300 ธุรกิจล้มเหลวใน 1833 หลังบัลลังก์จนเก็บเกี่ยว ; โรงสีขาย

และหุ้นส่วนที่ละลายไอแซค เรคไป Nottingham และตั้งตัวเองขึ้นเป็นข้าวโพดปัจจัยอีกครั้ง แต่กับความสำเร็จเล็ก ๆน้อย ๆ ต่อมาเขาได้ย้ายไปที่เรือและใส่แป้งธุรกิจที่พิสูจน์มากประโยชน์ เป็นห่วง ในที่สุดกลายเป็น เรค&บุตรชายของ ' สีฟ้า ' ชื่อเสียง–ตอนนี้เรค&

โคลแมน จำกัดครอบครัวคนเลี้ยงม้ายึดโรงสีในปี 1914 และรันธุรกิจจนกว่า 1948 เมื่อเครื่องจักรกลสร้างกังหันลมของตัวเองที่ใช้ไม่ได้ การค้าดำเนินการในบางปี การใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อน อุปกรณ์ แต่ก็ค่อยๆ หมุนลง และสถานที่ขายในปลายปี 1950 .

การอยู่รอดของโรงสีเป็นหนี้มากนายกระเพราเรค หลานชายที่ดีของอิสอัคสร้างเดิมเพราะในปี 1953 เขาได้รับรู้ถึงชะตากรรมของโรงสี และนัดสองเรคครอบครัวทรัสต์การกุศลการเงินการซ่อมแซมที่จำเป็น ได้ทำการทดลองที่ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลโดยทอมสัน millwrights 790 , ของแอลเฟิร์ด .
ตามเวลาที่เจ้าของปัจจุบัน ครอบครัววอเตอร์ฟิลด์ , มาถึงที่เกิดเหตุในมิถุนายน 1987 สภาพโรงงานเสื่อมโทรมมากแต่จุดมุ่งหมายคือการใส่ม็อดอุปถัมภ์โรงสีกลับเข้าไปทำงาน เพื่อที่จะใช้มัน มีปัญหาซ่อมอย่างละเอียด รวมถึงจะวางทั้งหมดของอาคารและติดตั้ง trapdoors ใหม่เก็บเมล็ดพืช กรณีหนักใจ ประตูระเบียง และหน้าต่าง ที่เป็น สามใบใหม่ได้ ซ่อมอย่างละเอียดต้องหมวกกรอบและหลังคาเป็นหางใหม่ถูกติดตั้งและเครื่องจักรใหม่ งานแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2531 และมันก็เหมาะสมที่นายกระเพราเรคจะตามมาเมื่อ 22 กรกฎาคมที่จะดำเนินการอย่างเป็นทางการจะเปิดอย่างเป็นทางการ ในปี 1998 สองใบใหม่ถูกติดตั้งเพื่อแทนที่สองที่เก่าแก่ที่สุด , เดทจากปี 1970 ที่ นี้นำเรื่องราวทันสมัย แต่กังหันลมจะค่อนข้างชอบออกไปที่สะพาน . . . . . . .