2. Ping the IP address of the host

2. Ping the IP address of the host itself. If its successful then it shows that the host’s NIC is working well.

>ping 192.168.1.50

PING 192.168.1.50 (192.168.1.50): 56 data bytes

64 bytes from 192.168.1.50: icmp_seq=0 ttl=64 time=0.075 ms

64 bytes from 192.168.1.50: icmp_seq=1 ttl=64 time=0.096 ms

64 bytes from 192.168.1.50: icmp_seq=2 ttl=64 time=0.155 ms

64 bytes from 192.168.1.50: icmp_seq=3 ttl=64 time=0.151 ms

3. Ping the default gateway from the host. If the ping works it shows that your host is able to communicate with the network and the default gateway.

>ping 192.168.1.1

PING 192.168.1.1 (192.168.1.1): 56 data bytes

64 bytes from 192.168.1.1: icmp_seq=0 ttl=64 time=0.075 ms

64 bytes from 192.168.1.1: icmp_seq=1 ttl=64 time=0.096 ms

64 bytes from 192.168.1.1: icmp_seq=2 ttl=64 time=0.155 ms

64 bytes from 192.168.1.1: icmp_seq=3 ttl=64 time=0.151 ms

4. Finally ping the remote host, ServerA or ServerB in our case. If the ping is successful, this means there is a DNS or application layer protocol problem between the host and ServerA. However, in our case the ping fails.

>ping 192.168.2.65

PING 192.168.2.65 (192.168.2.65): 56 data bytes

Request timeout for icmp_seq 0

Request timeout for icmp_seq 1

Request timeout for icmp_seq 2

Request timeout for icmp_seq 3

Now that you have used the Cisco recommended way to determine that the problem lies in the network, it is time to look at the addressing. In this exercise, you need to look at the IP address, subnet mask and default gateway configured (as shown in Figure 2-6) to see if they are correctly configured. You can simply look at the subnet mask and see which are valid host addresses in that subnet to see if valid IP addresses have been configured. Take a step-by-step approach as shown below to narrow down the problem area:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. ปิงที่อยู่ IP ของตัวเองเป็นเจ้าภาพ หากประสบความสำเร็จแล้วก็แสดงให้เห็นว่า NIC ของโฮสต์ที่ทำงานได้ดี.> ping 192.168.1.50 ปิง 192.168.1.50 (192.168.1.50): 56 ข้อมูลไบต์64 ไบต์จาก 192.168.1.50: icmp_seq = 0 TTL = 64 เวลา = 0.075 มิลลิวินาที64 ไบต์จาก 192.168.1.50: icmp_seq = 1 TTL = 64 เวลา = 0.096 มิลลิวินาที64 ไบต์จาก 192.168.1.50: icmp_seq = 2 TTL = 64 เวลา = 0.155 มิลลิวินาที64 ไบต์จาก 192.168.1.50: icmp_seq = 3 TTL = 64 เวลา = 0.151 มิลลิวินาที3 ping เกตเวย์เริ่มต้นจากโฮสต์ ถ้า ping ทำงานมันแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ของคุณสามารถที่จะสื่อสารกับเครือข่ายและเกตเวย์เริ่มต้น.> ping 192.168.1.1 PING 192.168.1.1 (192.168.1.1): 56 ข้อมูลไบต์64 ไบต์จาก 192.168.1.1: icmp_seq = 0 TTL = 64 เวลา = 0.075 มิลลิวินาที64 ไบต์จาก 192.168.1.1: icmp_seq = 1 TTL = 64 เวลา = 0.096 มิลลิวินาที64 ไบต์จาก 192.168.1.1: icmp_seq = 2 TTL = 64 เวลา = 0.155 มิลลิวินาที64 ไบต์จาก 192.168.1.1: icmp_seq = 3 TTL = 64 เวลา = 0.151 มิลลิวินาที4 สุดท้าย ping พื้นที่ห่างไกล, ServerA ServerB หรือในกรณีของเรา ถ้า ping จะประสบความสำเร็จนี้หมายถึงการมี DNS หรือชั้นการประยุกต์ใช้โปรโตคอลปัญหาระหว่างโฮสต์และ ServerA อย่างไรก็ตามในกรณีของเรา ping ล้มเหลว.> ping 192.168.2.65 ปิง 192.168.2.65 (192.168.2.65): 56 ข้อมูลไบต์คำขอหมดเวลาสำหรับicmp_seq 0 คำขอหมดเวลาสำหรับ icmp_seq 1 คำขอหมดเวลาสำหรับ icmp_seq 2 คำขอหมดเวลาสำหรับ icmp_seq 3 ตอนนี้คุณ ได้ใช้ซิสโก้แนะนำวิธีการตรวจสอบว่าปัญหาอยู่ในเครือข่ายก็เป็นเวลาที่จะมองไปที่ที่อยู่ ในการออกกำลังกายนี้คุณต้องมองไปที่ที่อยู่ IP, หน้ากาก subnet และเกตเวย์เริ่มต้นการกำหนดค่า (ดังแสดงในรูปที่ 2-6) เพื่อดูว่าพวกเขามีการกำหนดค่าได้อย่างถูกต้อง คุณก็สามารถดูซับเน็ตและดูซึ่งเป็นที่อยู่ของโฮสต์ที่ถูกต้องในเครือข่ายย่อยนั้นเพื่อดูว่าที่อยู่ IP ที่ถูกต้องได้รับการกำหนดค่า ใช้วิธีการขั้นตอนโดยขั้นตอนดังต่อไปนี้ให้แคบลงพื้นที่ปัญหา:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . ปิงที่อยู่ IP ของโฮสต์ตัวเอง ถ้ามันสำเร็จแล้ว แสดงว่าโฮสต์ของ NIC ทำงานดี

>

192.168.1.50 ปิงปิง 192.168.1.50 ( 192.168.1.50 ) : 56 ข้อมูลไบต์

64 ไบต์จาก 192.168.1.50 : icmp_seq = 0 TTL = 64 เวลา = 0.075 MS

64 ไบต์จาก 192.168.1.50 : icmp_seq = 1 TTL = 64 เวลา = ชินางสาว

64 ไบต์จาก 192.168.1.50 : icmp_seq = 2 TTL = 64 เวลา = 0.155 MS

64 ไบต์จาก 192.168.1.50 :icmp_seq = 3 TTL = 64 เวลา 0.151 MS =

3 ping เกตเวย์ปริยาย จากเจ้าภาพ ถ้าผิงทำงานให้โฮสต์ของคุณสามารถสื่อสารกับเครือข่ายและเกตเวย์โดยปริยาย

>

192.168.1.1 ปิงปิง 192.168.1.1 ( 192.168.1.1 ) : 56 ข้อมูลไบต์

64 ไบต์จาก 192.168.1.1 : icmp_seq = 0 TTL = 64 เวลา = 0.075 MS

64 ไบต์จาก 192.168.1.1 : icmp_seq = 1 TTL = 64 เวลา 0.096 MS =
64 ไบต์จาก 192.168.1.1 :icmp_seq = 2 TTL = 64 เวลา = 0.155 MS

64 ไบต์จาก 192.168.1.1 : icmp_seq = 3 TTL = 64 เวลา 0.151 MS =

4 . ในที่สุด ping โฮสต์ระยะไกล servera หรือ serverb ในกรณีของเรา ถ้า ping ประสบความสำเร็จ ซึ่งหมายถึงมีปัญหา DNS หรือโปรโตคอลชั้นโปรแกรมระหว่างโฮสต์และ servera . อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเรา ปิง ปิง 192.168.2.65 ล้มเหลว

>

ผิง 192.168.2.65 ( 192.168.2.65 56 ข้อมูลไบต์

)ขอให้ช่วงเวลา icmp_seq 0

ขอให้ช่วงเวลา icmp_seq 1

ขอให้ช่วงเวลา icmp_seq 2

ขอให้ช่วงเวลา icmp_seq 3

ตอนนี้ที่คุณได้ใช้บริการแนะนำวิธีการตรวจสอบว่าปัญหาอยู่ในเครือข่าย มันต้องดูอยู่ ในแบบฝึกหัดนี้ คุณจะต้องดูที่ IP addressหน้ากาก subnet และกำหนดค่าเกตเวย์ปริยาย ( ดังแสดงในรูปที่ 2 ) เพื่อดูว่าพวกเขามีการกำหนดค่าอย่างถูกต้อง คุณสามารถดูที่หน้ากาก subnet และดูที่ถูกต้องโฮสต์ที่อยู่ใน subnet เพื่อดูว่า IP ที่ถูกต้องได้รับการแต่ง ใช้วิธีการทีละขั้นตอนตามที่แสดงด้านล่างให้แคบลง พื้นที่ปัญหา