บทที่ 1
บทนำ
1.1 ที่มาและความสำคัญ
วัยเรียนและวัยรุ่นเป็นวัยที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องจากวัยก่อนเรียน โดยจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมากในช่วงวัยรุ่น ดังนั้น ร่างกายจึงมีความต้องการพลังงานและสารอาหารค่อนข้างสูงการมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ถูกต้องจะช่วยให้เด็กได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกายที่จะส่งเสริมให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการได้เต็มที่และเพียงพอสำหรับการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายซึ่งมีค่อนข้างมากในช่วงวัยนี้
เนื่องจากเด็กในวัยเรียนและวัยรุ่น มีความต้องการพลังงานและสารอาหารค่อนข้างสูง จึงควรส่งเสริมให้เด็กกินอาหาร 5 หมู่ และแต่ละหมู่ควรมีความหลากหลายในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายและการประกอบกิจกรรม ควรกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ เพราะการงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งอาจทำให้ขาดพลังงานและสารอาหารได้ เนื่องจากกระเพาะอาหารของเด็กมีความจุจำกัด สำหรับการกินอาหารแต่ละมื้อ และการกินอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น นม ผลไม้จะช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา และน้ำอัดลมประเภทโคลา การดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลมชนิดใดๆ ก็ตามและขนมขบเคี้ยวอาจทำให้อ้วนและขาดสารอาหารบางอย่างได้ เนื่องจากอาหารเหล่านี้ให้พลังงานเป็นส่วนใหญ่แต่ให้สารอาหารอื่นๆ น้อยมาก นอกจากนี้ขนมขบเคี้ยวยังมีเกลือ โซเดียม มากอีกด้วย ถ้าเด็กกินในปริมาณมากเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้สำหรับอาหารประเภทฟาสต์ฟูดที่กำลังได้รับความนิยมในเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น เป็นอาหารที่มีไขมัน ในปริมาณที่มากและเป็นไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ จึงไม่ควรกินบ่อย หรือถ้าจะกินก็ควรเลือกกินอาหารประเภทสลัดร่วมด้วย(www.lopburicity.net)
ในปัจจุบันน้ำอัดลมนั้นได้รับความนิยมมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมาบริโภคน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่าน้ำอัดลมมีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ส่วนคือน้ำ (น้ำนี้จะต้องเป็นน้ำสะอาดสามารถใช้น้ำประปาแต่ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากน้ำบาดาลที่ผ่านการกรองและฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีน), น้ำตาล, สารปรุงแต่งที่เรียกว่าหัวน้ำเชื้อซึ่งเป็นส่วนผสมของสารที่ให้กลิ่นและสี, และกรดคาร์บอนิกซึ่งถูกอัดเข้าในภาชนะบรรจุบางครั้งมีส่วนผสมของน้ำผลไม้เล็กน้อยน้ำอัดลมแต่ละยี่ห้อก็มีส่วนผสมลับเฉพาะของตนเองกรดคาร์บอนิกในภาชนะบรรจุเมื่อสัมผัสอากาศจะแยกตัวเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับน้ำเป็นฟองที่เกิดขึ้นเวลาเปิดขวดหรือกระป๋องการเขย่าก็เป็นการกระตุ้นปฏิกิริยาของกรดคาร์บอนิกให้เกิดเร็วขึ้นและมากขึ้นฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็เกิดมากขึ้นจนล้นภาชนะได้
ผลงานวิจัยได้รับการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ท ผ่านทางเว็บไซต์ของวารสารการแพทย์ นิว อิงแลนด์ ระบุว่า สถิติการบริโภคน้ำอัดลม และเครื่องดื่มรสผลไม้ในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจากเมื่อราว 30 ปีก่อนถึง 2 เท่า ส่งผลให้อัตราส่วนประชากรชาวอเมริกันที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ในช่วงเวลาเดียวกันผลงานวิจัยชิ้นแรก ที่อ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันทั้งชายและหญิงกว่า 33,000 คน พบว่า การบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูงส่งผลกระทบต่อกลไกทางพันธุกรรม ทำให้เกิดความแปรปรวนและอาจนำไปสู่การเพิ่มของน้ำหนักตัว อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภค ความถี่ในการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงการออกกำลังกายส่วนผลงานวิจัยอีก 2 ชิ้น อ้างอิงผลจากการทดลองให้เด็ก และผู้ใหญ่รับประทานเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล เช่น น้ำแร่บรรจุขวด หรือน้ำอัดลม และเครื่องดื่มรสหวานที่ใช้สารปรุงแต่งความหวานแทนน้ำตาลแท้ โดยตั้งสมมติฐานว่า สามารถทำให้น้ำหนักลดได้ โดยผลงานวิจัยชิ้นที่ 2 อาศัยกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้ป่วยวัยรุ่นที่มีน้ำหนักเกิน ของโรงพยาบาลเด็กเมืองบอสตัน 224 คน โดยให้บริโภคเครื่องดื่มที่โฆษณาว่า “ปราศจากน้ำตาล” หรือ “0 แคลอรี่” นาน 1 ปี พบว่า เด็กเหล่านี้มีน้ำหนักตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 0.68 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับเด็กอีกกลุ่ม ที่ดื่มน้ำอัดลมปกติ มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5 กิโลกรัม
ขณะที่ผลงานวิจัยชิ้นที่ 3 จากมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัมส์ ของเนเธอร์แลนด์ ใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กอายุระหว่าง 4-11 ปี 641 คน โดยกลุ่มหนึ่งให้ดื่มเครื่องดื่มรสผลไม้ และน้ำอัดลม ส่วนอีกกลุ่มบริโภคเครื่องดื่มลักษณะเดียวกัน แต่มีน้ำตาลน้อยกว่า เป็นเวลา 18 เดือน ปรากฏว่า เด็กที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อย มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.39 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับกลุ่มเด็กที่บริโภคเครื่องดื่มน้ำตาลสูง ซึ่งมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.36 กิโลกรัมพญ.ซอนญ่า คาปริโอ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล ของสหรัฐ กล่าวว่า ผลงานวิจัยทั้ง 3 ชิ้น แสดงให้เห็นว่า น้ำตาลมีผลต่อน้ำหนักตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะนำไปวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางควบคุม และปรับพฤติกรรมการบริโภค เพื่อลดภาวะน้ำหนักเกินตั้งแต่ในวัยเด็กต่อไป ( http//forum.khonkaenlink.info)
นอกจากนี้ ผศ.ทพญ.ปิยะนารถ จาติเกตุ นักวิชาการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า จากการสำรวจการบริโภคเครื่องดื่มของนักเรียน จากกลุ่มตัวอย่าง 9,300 คน ในโรงเรียน 14 จังหวัด แบ่งเป็นนักเรียน 8,400 คน ผู้ปกครอง 700 คน ครู 273 คน น่าตกใจที่พบนักเรียนในโรงเรียนที่ขายน้ำอัดลม ดื่มน้ำอัดลมบ่อยกว่านักเรียนโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมถึง 7.3 เท่า ซึ่งนักเรียนมัธยมจะดื่มน้ำอัดลมมากกว่าประถม 3.9 เท่า หญิงดื่มบ่อยกว่าชาย 1.4 เท่า นอกจากน้ำเปล่าแล้วหากเป็นโรงเรียนในกรุงเทพฯ ที่มีน้ำอัดลม เด็กจะดื่มน้ำอัดลมมากกว่าเครื่องดื่มอื่น 37.3% ส่วนโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมไม่มีเด็กคนไหนตอบว่าดื่มน้ำอัดลมเลยหนึ่ง ในปัจจัยสำคัญของการดื่มน้ำอัดลมของนักเรียน ส่วนหนึ่งเกิดจากการขายน้ำอัดลมในโรงเรียน ซึ่งผู้ขายเครื่องดื่มในโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมส่วนใหญ่ คือ สหกรณ์หรือร้านค้าของโรงเรียน 44% ส่วนโรงเรียนที่มีน้ำอัดลม มีทั้งแม่ค้าและสหกรณ์หรือร้านค้าของโรงเรียน 47.2% โดยโรงเรีย
บทที่ 1บทนำ1.1 ที่มาและความสำคัญ วัยเรียนและวัยรุ่นเป็นวัยที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องจากวัยก่อนเรียน โดยจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมากในช่วงวัยรุ่น ดังนั้น ร่างกายจึงมีความต้องการพลังงานและสารอาหารค่อนข้างสูงการมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ถูกต้องจะช่วยให้เด็กได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกายที่จะส่งเสริมให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการได้เต็มที่และเพียงพอสำหรับการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายซึ่งมีค่อนข้างมากในช่วงวัยนี้ เนื่องจากเด็กในวัยเรียนและวัยรุ่นมีความต้องการพลังงานและสารอาหารค่อนข้างสูงจึงควรส่งเสริมให้เด็กกินอาหาร 5 บางละมุงและแต่ละหมู่ควรมีความหลากหลายในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายและการประกอบกิจกรรมควรกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อเพราะการงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งอาจทำให้ขาดพลังงานและสารอาหารได้เนื่องจากกระเพาะอาหารของเด็กมีความจุจำกัดสำหรับการกินอาหารแต่ละมื้อและการกินอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเช่นนมผลไม้จะช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนมากขึ้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนเช่นกาแฟชาและน้ำอัดลมประเภทโคลาการดื่มน้ำหวานน้ำอัดลมชนิดใด ๆ ก็ตามและขนมขบเคี้ยวอาจทำให้อ้วนและขาดสารอาหารบางอย่างได้เนื่องจากอาหารเหล่านี้ให้พลังงานเป็นส่วนใหญ่แต่ให้สารอาหารอื่น ๆ น้อยมากนอกจากนี้ขนมขบเคี้ยวยังมีเกลือโซเดียมมากอีกด้วยถ้าเด็กกินในปริมาณมากเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้สำหรับอาหารประเภทฟาสต์ฟูดที่กำลังได้รับความนิยมในเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นเป็นอาหารที่มีไขมันในปริมาณที่มากและเป็นไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพจึงไม่ควรกินบ่อยหรือถ้าจะกินก็ควรเลือกกินอาหารประเภทสลัดร่วมด้วย (www.lopburicity.net)ในปัจจุบันน้ำอัดลมนั้นได้รับความนิยมมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมาบริโภคน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่าน้ำอัดลมมีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ส่วนคือน้ำ (น้ำนี้จะต้องเป็นน้ำสะอาดสามารถใช้น้ำประปาแต่ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากน้ำบาดาลที่ผ่านการกรองและฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีน), น้ำตาล, สารปรุงแต่งที่เรียกว่าหัวน้ำเชื้อซึ่งเป็นส่วนผสมของสารที่ให้กลิ่นและสี, และกรดคาร์บอนิกซึ่งถูกอัดเข้าในภาชนะบรรจุบางครั้งมีส่วนผสมของน้ำผลไม้เล็กน้อยน้ำอัดลมแต่ละยี่ห้อก็มีส่วนผสมลับเฉพาะของตนเองกรดคาร์บอนิกในภาชนะบรรจุเมื่อสัมผัสอากาศจะแยกตัวเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับน้ำเป็นฟองที่เกิดขึ้นเวลาเปิดขวดหรือกระป๋องการเขย่าก็เป็นการกระตุ้นปฏิกิริยาของกรดคาร์บอนิกให้เกิดเร็วขึ้นและมากขึ้นฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็เกิดมากขึ้นจนล้นภาชนะได้ผลงานวิจัยได้รับการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ท ผ่านทางเว็บไซต์ของวารสารการแพทย์ นิว อิงแลนด์ ระบุว่า สถิติการบริโภคน้ำอัดลม และเครื่องดื่มรสผลไม้ในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจากเมื่อราว 30 ปีก่อนถึง 2 เท่า ส่งผลให้อัตราส่วนประชากรชาวอเมริกันที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ในช่วงเวลาเดียวกันผลงานวิจัยชิ้นแรก ที่อ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันทั้งชายและหญิงกว่า 33,000 คน พบว่า การบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูงส่งผลกระทบต่อกลไกทางพันธุกรรม ทำให้เกิดความแปรปรวนและอาจนำไปสู่การเพิ่มของน้ำหนักตัว อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภค ความถี่ในการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงการออกกำลังกายส่วนผลงานวิจัยอีก 2 ชิ้น อ้างอิงผลจากการทดลองให้เด็ก และผู้ใหญ่รับประทานเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล เช่น น้ำแร่บรรจุขวด หรือน้ำอัดลม และเครื่องดื่มรสหวานที่ใช้สารปรุงแต่งความหวานแทนน้ำตาลแท้ โดยตั้งสมมติฐานว่า สามารถทำให้น้ำหนักลดได้ โดยผลงานวิจัยชิ้นที่ 2 อาศัยกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้ป่วยวัยรุ่นที่มีน้ำหนักเกิน ของโรงพยาบาลเด็กเมืองบอสตัน 224 คน โดยให้บริโภคเครื่องดื่มที่โฆษณาว่า “ปราศจากน้ำตาล” หรือ “0 แคลอรี่” นาน 1 ปี พบว่า เด็กเหล่านี้มีน้ำหนักตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 0.68 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับเด็กอีกกลุ่ม ที่ดื่มน้ำอัดลมปกติ มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5 กิโลกรัมขณะที่ผลงานวิจัยชิ้นที่ 3 จากมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัมส์ ของเนเธอร์แลนด์ ใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กอายุระหว่าง 4-11 ปี 641 คน โดยกลุ่มหนึ่งให้ดื่มเครื่องดื่มรสผลไม้ และน้ำอัดลม ส่วนอีกกลุ่มบริโภคเครื่องดื่มลักษณะเดียวกัน แต่มีน้ำตาลน้อยกว่า เป็นเวลา 18 เดือน ปรากฏว่า เด็กที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อย มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.39 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับกลุ่มเด็กที่บริโภคเครื่องดื่มน้ำตาลสูง ซึ่งมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.36 กิโลกรัมพญ.ซอนญ่า คาปริโอ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล ของสหรัฐ กล่าวว่า ผลงานวิจัยทั้ง 3 ชิ้น แสดงให้เห็นว่า น้ำตาลมีผลต่อน้ำหนักตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะนำไปวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางควบคุม และปรับพฤติกรรมการบริโภค เพื่อลดภาวะน้ำหนักเกินตั้งแต่ในวัยเด็กต่อไป ( http//forum.khonkaenlink.info)นอกจากนี้ ผศ.ทพญ.ปิยะนารถ จาติเกตุ นักวิชาการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า จากการสำรวจการบริโภคเครื่องดื่มของนักเรียน จากกลุ่มตัวอย่าง 9,300 คน ในโรงเรียน 14 จังหวัด แบ่งเป็นนักเรียน 8,400 คน ผู้ปกครอง 700 คน ครู 273 คน น่าตกใจที่พบนักเรียนในโรงเรียนที่ขายน้ำอัดลม ดื่มน้ำอัดลมบ่อยกว่านักเรียนโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมถึง 7.3 เท่า ซึ่งนักเรียนมัธยมจะดื่มน้ำอัดลมมากกว่าประถม 3.9 เท่า หญิงดื่มบ่อยกว่าชาย 1.4 เท่า นอกจากน้ำเปล่าแล้วหากเป็นโรงเรียนในกรุงเทพฯ ที่มีน้ำอัดลม เด็กจะดื่มน้ำอัดลมมากกว่าเครื่องดื่มอื่น 37.3% ส่วนโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมไม่มีเด็กคนไหนตอบว่าดื่มน้ำอัดลมเลยหนึ่ง ในปัจจัยสำคัญของการดื่มน้ำอัดลมของนักเรียน ส่วนหนึ่งเกิดจากการขายน้ำอัดลมในโรงเรียน ซึ่งผู้ขายเครื่องดื่มในโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมส่วนใหญ่ คือ สหกรณ์หรือร้านค้าของโรงเรียน 44% ส่วนโรงเรียนที่มีน้ำอัดลม มีทั้งแม่ค้าและสหกรณ์หรือร้านค้าของโรงเรียน 47.2% โดยโรงเรีย
การแปล กรุณารอสักครู่..
