DISCUSSIONThe present study examine

DISCUSSION
The present study examined how several sociocognitive factors are associated
with attitudes toward roles in bullying. Namely, we examined how
moral disengagement, empathy, BJW, and the perception of normative
beliefs of the peer group are associated to attitudes about the roles of bully
and defender of the victim. The hypotheses overall were supported, except
for the association with belief in a just world and empathy. In fact, only
moral disengagement and the perception of normative beliefs of the peer
group predicted attitudes regarding roles in bullying. However, although
lower empathy (both affective and cognitive) correlated with positive
attitudes toward the roles of bully (only affective empathy) and higher
empathy (both affective and cognitive) correlated with positive attitudes
toward role of defender, both empathy dimensions did not contribute to the
explained variance when the sociodemographic and moral disengagement
variables were considered. This result regarding moral disengagement is
particularly relevant for intervention because many prevention programs
stress empathy training (e.g., Pecukonis, 1990). We suggest that in addition
to empathy, or even perhaps instead of empathy, programs of antibullying
intervention could emphasize moral agency as inhibition of moral disengagement,
for example, focusing on the humanization of the victim. This
result presents an additional challenge for researchers because moral disengagement
instruments that clearly differentiate the processes by which it
operates need to be developed. In fact, the moral disengagement scale used
in the present study revealed a single-factor solution that does not differentiate
the subprocesses involved in moral disengagement and how these
processes predict positive attitudes toward bullying or negative attitudes
toward defending of victims.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาการศึกษาปัจจุบันตรวจสอบหลายวิธี sociocognitive ปัจจัยเกี่ยวข้องมีเจตคติบทบาท bullying คือ เราตรวจสอบอย่างไรdisengagement คุณธรรม เอาใจใส่ BJW และการรับรู้ของ normativeความเชื่อของกลุ่มเพื่อนเกี่ยวข้องกับทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทของใหญ่โตกว่าและกองหลังของเหยื่อ สมมุติฐานโดยรวมได้รับการสนับสนุน ยกเว้นสำหรับความสัมพันธ์กับความเชื่อเพียงโลกและเอาใจใส่ ในความจริง เท่านั้นdisengagement คุณธรรมและการรับรู้ความเชื่อ normative ของเที่ยวกลุ่มทำนายทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทใน bullying อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเอาใจใส่ด้านล่าง (ทั้งผล และรับรู้) correlated กับบวกเจตคติบทบาทใหญ่โตกว่า (เอาใจใส่ผลเท่านั้น) และสูงcorrelated เอาใจใส่ (ทั้งผล และรับรู้) มีทัศนคติบวกต่อบทบาทของ defender มิติทั้งเอาใจใส่ไม่ไม่นำไปสู่การอธิบายผลต่างเมื่อ sociodemographic และ disengagement คุณธรรมตัวแปรที่พิจารณา ผลนี้เกี่ยวกับ disengagement คุณธรรมคือที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงเนื่องจากโปรแกรมป้องกันมากมายฝึกการเอาใจใส่ความเครียด (เช่น Pecukonis, 1990) เราขอแนะนำที่นอกจากนี้เอาใจใส่ หรือแม้แต่บางทีแทนที่ จะเอาใจ ใส่ โปรแกรมของ antibullyingแทรกแซงอาจเน้นคุณธรรมหน่วยเป็นยับยั้ง disengagement คุณธรรมตัวอย่าง เน้น humanization ของเหยื่อ นี้ผลการนำเสนอความท้าทายเพิ่มเติมสำหรับนักวิจัยเนื่องจาก disengagement คุณธรรมเครื่องมือที่ชัดเจนแตกต่างกระบวนการตามที่ได้ต้องดำเนินการพัฒนา ในความเป็นจริง ใช้สเกล disengagement คุณธรรมในการศึกษาปัจจุบันเปิดเผยปัญหาปัจจัยเดียวที่แตกต่างsubprocesses ที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรม disengagement และวิธีเหล่านี้กระบวนการคาดการณ์บวกเจตคติ bullying หรือทัศนคติเชิงลบต่อการป้องกันของเหยื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อภิปราย
การศึกษาปัจจุบันวิธีการตรวจสอบปัจจัยหลาย sociocognitive ที่เกี่ยวข้อง
กับทัศนคติต่อบทบาทในการกลั่นแกล้ง คือเราตรวจสอบวิธีการ
หลุดพ้นคุณธรรมเอาใจใส่ BJW และการรับรู้ของกฎเกณฑ์
ความเชื่อของกลุ่มเพื่อนที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทของคนพาล
และผู้พิทักษ์ของเหยื่อ สมมติฐานโดยรวมได้รับการสนับสนุนยกเว้น
สำหรับการเชื่อมโยงกับความเชื่อในโลกเพียงและความเห็นอกเห็นใจ ในความเป็นจริงเพียง
หลุดพ้นทางศีลธรรมและการรับรู้ของความเชื่อเชิงบรรทัดฐานของเพียร์
กลุ่มทำนายทัศนคติเกี่ยวกับการมีบทบาทสำคัญในการกลั่นแกล้ง อย่างไรก็ตามแม้ว่า
การเอาใจใส่ที่ต่ำกว่า (ทั้งอารมณ์และองค์ความรู้) มีความสัมพันธ์กับบวก
ทัศนคติต่อบทบาทของคนพาล (เอาใจใส่อารมณ์เท่านั้น) และสูงกว่า
การเอาใจใส่ (ทั้งอารมณ์และองค์ความรู้) มีความสัมพันธ์กับทัศนคติที่ดี
ต่อบทบาทของผู้พิทักษ์ทั้งขนาดเอาใจใส่ไม่ได้นำไปสู่การ
อธิบายความแปรปรวนเมื่อหลุดพ้นยาวนานและศีลธรรม
ตัวแปรได้รับการพิจารณา ผลเกี่ยวกับการหลุดพ้นศีลธรรมนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงเพราะโปรแกรมป้องกันหลาย
เน้นการฝึกอบรมการเอาใจใส่ (เช่น Pecukonis, 1990) เราขอแนะนำว่านอกจาก
จะเอาใจใส่หรือแม้กระทั่งอาจจะแทนการเอาใจใส่โปรแกรม antibullying
แทรกแซงจะเน้นหน่วยงานทางศีลธรรมเช่นการยับยั้งการหลุดพ้นคุณธรรม
เช่นมุ่งเน้นไปที่การมีเมตตากรุณาของเหยื่อ นี้
นำเสนอผลท้าทายเพิ่มเติมสำหรับนักวิจัยเพราะหลุดพ้นศีลธรรม
เครื่องมือที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกระบวนการโดยที่มัน
ดำเนินจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา ในความเป็นจริงในระดับหลุดพ้นทางศีลธรรมที่ใช้
ในการศึกษาครั้งนี้พบว่าโซลูชั่นเดียวปัจจัยที่ไม่แตกต่าง
กระบวนการย่อยที่เกี่ยวข้องในการหลุดพ้นทางศีลธรรมและวิธีการเหล่านี้
กระบวนการทำนายทัศนคติที่ดีต่อการข่มขู่หรือทัศนคติเชิงลบ
ที่มีต่อการปกป้องของเหยื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปราย
การศึกษาตรวจสอบวิธีการ sociocognitive หลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
กับเจตคติต่อบทบาทในการกลั่นแกล้ง คือ เราตรวจสอบวิธีการ
จริยธรรมมุ่งเอาใจใส่ bjw และการรับรู้เชิงบรรทัดฐาน
ความเชื่อของกลุ่มเพื่อนมีความสัมพันธ์กับทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทและพาล
กองหลังของเหยื่อ และโดยรวมได้รับการสนับสนุน ยกเว้น
สำหรับความสัมพันธ์กับความเชื่อว่าโลกนี้ และการเอาใจใส่ ในความเป็นจริงเพียง
คุณธรรมความเป็นอิสระและการรับรู้ ความเชื่อที่เป็นมาตรฐานของกลุ่มเพื่อน
ทำนายทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทในการกลั่นแกล้ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลด
( ทั้งอารมณ์และสติปัญญา ) มีความสัมพันธ์กับทัศนคติที่มีต่อบทบาทของ บวก
พาล ( เฉพาะความรู้สึกอารมณ์ ) และสูงกว่า
เอาใจใส่ ( ทั้งทางอารมณ์และสติปัญญา ) มีความสัมพันธ์กับเจตคติต่อบทบาทของ
กองหลังทั้งเอาใจใส่มิติไม่ได้มีส่วนร่วมกับ
อธิบายความแปรปรวนเมื่ออุตสาหกรรม และจริยธรรม ตัวแปรความเป็นอิสระ
ระดับปานกลาง ผลเกี่ยวกับการเป็นแบบอย่างทางจริยธรรม คือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซง เพราะโปรแกรม

ฝึกความเห็นอกเห็นใจความเครียดการป้องกันหลาย ( เช่นpecukonis , 2533 ) เราขอแนะนำให้นอกจากนี้
กับผู้อื่น หรือแม้แต่บางทีแทนผู้อื่น โปรแกรมของ antibullying
การแทรกแซงอาจเน้นตัวแทนทางศีลธรรมเป็นการยับยั้งผู้นำจริยธรรม
ตัวอย่างเช่น เน้นการมีเมตตากรุณาของเหยื่อ ผลนี้
นำเสนอความท้าทายเพิ่มเติมสำหรับนักวิจัย เพราะจริยธรรมเป็นแบบอย่าง
เครื่องมือที่ชัดเจนแยกกระบวนการโดยที่มัน
งานต้องพัฒนา ในความเป็นจริง ขนาดผู้นำคุณธรรมที่ใช้
ในการศึกษาพบว่าปัจจัยเดียวที่แก้ปัญหาไม่ได้แตกต่าง
subprocesses เกี่ยวข้องกับผู้นำจริยธรรมและวิธีการที่กระบวนการเหล่านี้
ทำนายเจตคติทางบวกต่อการกลั่นแกล้งหรือทัศนคติเชิงลบต่อการปกป้อง
ของเหยื่อ