4. ConclusionsCotton fabrics were t

4. Conclusions
Cotton fabrics were treated with whey protein isolate to improve their dye ability with tannin-rich dye extracted from the bark of X. granatum. Soy protein isolate was also used for comparison. The dyed fabrics appeared reddish-brown with the deepestshade obtained at pH values around 5. The enhancement in thecolor strength was correlated with an increase in the following:protein concentration, dye concentration, dyeing time and dyeing temperature. The improvement in the dye absorption after protein retreatment is ascribed to insoluble complex formation between tannin and proteins, which relies mainly on hydrogen bonding and hydrophobic interactions. The dyed fabrics show mostly good to excellent color fastness properties; however, the fastness ratings to light and crocking in the wet state varied depending on the color strength. A small deterioration in the tensile and tearing performance was observed in fabrics treated with protein, although treatment resulted in slight increases in the sample stiffness. Both protein treatment and dyeing improved the ultraviolet shielding efficiency of the cotton fabrics.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. บทสรุปผ้าฝ้ายได้รับการรักษา ด้วยเวย์โปรตีน isolate เพื่อปรับปรุงความสามารถของสีย้อมกับแทนนินที่อุดมไปด้วยสีย้อมที่สกัดจากเปลือกของ X. granatum นอกจากนี้ยังใช้ isolate โปรตีนถั่วเหลืองสำหรับการเปรียบเทียบ การย้อมผ้าปรากฏสีน้ำตาลกับ deepestshade ได้ที่ค่า pH ค่าประมาณ 5 เพิ่มความแข็งแรงของ thecolor คือมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นต่อไปนี้: โปรตีน ความเข้มข้นย้อม ย้อมสีอุณหภูมิ และเวลาในการย้อมสี เป็นกำหนดปรับปรุงในการดูดซึมสีย้อมหลัง retreatment โปรตีนการก่อตัวที่ซับซ้อนระหว่างแทนนินและโปรตีน ไม่ละลายน้ำซึ่งอาศัยพันธะไฮโดรเจนและแบบโต้ตอบ ผ้าย้อมส่วนใหญ่แสดงถึงคุณสมบัติความคงทนของสีที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับของความคงทนต่อแสงและการ crocking ในสภาพเปียกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความแรงของสี การเสื่อมสภาพเล็กในการทำงานของแรงดึง และการฉีกขาดถูกตรวจสอบผ้าที่ถือว่า มีโปรตีน แม้ว่าการรักษาส่งผลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในความแข็งตัวอย่าง ประสิทธิภาพของผ้าฝ้ายป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตทั้งรักษาโปรตีนและย้อมสีขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. สรุป
ผ้าฝ้ายได้รับการรักษาที่มีโปรตีนเวย์เพื่อเพิ่มความสามารถของพวกเขาด้วยการย้อมสีย้อมแทนนินที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากเปลือกของ X. granatum โปรตีนถั่วเหลืองยังถูกนำมาใช้สำหรับการเปรียบเทียบ ผ้าย้อมปรากฏตัวสีน้ำตาลแดงกับ deepestshade ที่ได้รับค่าพีเอชที่รอบ 5. การเพิ่มประสิทธิภาพในความแข็งแรง thecolor มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นดังต่อไปนี้ความเข้มข้นของโปรตีนเข้มข้นของสีย้อมเวลาย้อมสีย้อมสีและอุณหภูมิ การปรับปรุงในการดูดซึมสีย้อมหลังจาก retreatment โปรตีนคือกำหนดเชิงซ้อนที่ไม่ละลายน้ำระหว่างแทนนินและโปรตีนซึ่งอาศัยส่วนใหญ่ในพันธะไฮโดรเจนและการมีปฏิสัมพันธ์กับน้ำ ผ้าย้อมแสดงส่วนใหญ่ที่ดีที่จะคุณสมบัติความคงทนของสีที่ดีเยี่ยม อย่างไรก็ตามการจัดอันดับความคงทนต่อแสงและ crocking ในสภาพเปียกผันแปรได้ขึ้นอยู่กับความแรงของสี เสื่อมสภาพขนาดเล็กในแรงดึงและการฉีกขาดประสิทธิภาพการทำงานพบว่าในเนื้อผ้าที่รับการรักษาด้วยโปรตีนแม้ว่าการรักษาผลในการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตึงตัวอย่าง ทั้งการรักษาโปรตีนและการย้อมสีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตจากผ้าฝ้าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . สรุปผ้าฝ้ายที่ได้รับการรักษาด้วยเวย์โปรตีนไอโซเลต เพื่อปรับปรุงความสามารถในการย้อมด้วยสีย้อมที่สกัดได้จากเปลือกแทนนินที่อุดมไปด้วยของ X granatum . โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง ก็ใช้สำหรับการเปรียบเทียบ การย้อมผ้าปรากฏสีน้ำตาลแดงกับ deepestshade อุณหภูมิค่า pH ประมาณ 5 การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นในต่อไปนี้ : โปรตีน , สี ความเข้มข้น อุณหภูมิและเวลาย้อมย้อมสี การปรับปรุงหลังจากการรักษาซ้ำในการดูดซึมสีย้อมโปรตีนที่ไม่ละลายน้ำ สร้างหมวดซับซ้อนระหว่างโปรตีนและสารแทนนิน ซึ่งต้องอาศัยหลักในการเชื่อมไฮโดรเจนและปฏิกิริยาไฮโดรโฟบิก . การย้อมผ้าแสดงส่วนใหญ่ดีคุณสมบัติความคงทนของสีที่ดี อย่างไรก็ตาม ความคงทนของสีต่อแสงและการจัดอันดับ crocking ในสภาวะเปียกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสีแรง ระดับการปฏิบัติงานในการดึงและการฉีกขาดขนาดเล็กพบในผืนผ้าด้วยโปรตีน แม้ว่าการรักษามีผลในการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตัวอย่างมีความแข็ง ทั้งการย้อมโปรตีนและปรับปรุงประสิทธิภาพการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตของผ้าฝ้ายผ้า