In many parts of the world, especia

In many parts of the world, especially in remote areas
of Asian countries, Carica papaya L. (papaya or paw
paw) leaf has been used as a folk medicine for a variety
of ailments such as healing of burns, relief of
asthma symptoms, treatment of intestinal worms,
treatment of digestion problems, fever control and
treatment of amoebic dysentery (Starley et al., 1999;
Canini et al., 2007; Zunjar et al., 2011). Papaya leaf
has also been used to increase appetite, ease menstrual
pain and relieve nausea (Aravind et al., 2013). Furthermore,
papaya leaf juice has been consumed by
people living on the Gold Coast of Australia, with
some anecdotes of successful cases being reported for
its purported anticancer activity (Otsuki et al., 2010).
Additionally, the tender leaf has been consumed as an
alternative to traditional leafy vegetables and as an
additive to tenderise meat (Aravind et al., 2013).
Recent scientific reports suggest that papaya leaf
extract and its latex can be utilised to treat skin lesions
(Mahmood et al., 2005; Gurung &
Skalko-Basnet,
2009), lower the risk of cardiovascular disease (Runnie
et al., 2004), act as an anti-inflammatory (Owoyele
et al., 2008) and an anthelmintic against intestinal
nematode (Satrija et al., 1995). A recent study (Otsuki
et al., 2010) found that papaya leaf extract could prevent
growth of cancer cells, including pancreatic cancer
– one of the most devastating forms of cancer
(Scarlett et al., 2011). This result suggests that papaya
leaf may contain compounds that limit the proliferation
of pancreatic cancer cells. However, because the
study investigated only one pancreatic epithelioid carcinoma
cell line (Panc-1), further study on other types
of pancreatic cancer cells is required to substantiate
this claim.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในหลายส่วนของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกลของประเทศในเอเชีย สกุลมะละกอมะละกอ L. (มะละกอหรือตีนใบตีน) มีการใช้เป็นยาพื้นบ้านต่าง ๆของโรคเช่นการรักษาแผลไฟไหม้ บรรเทาอาการหอบหืด โรคพยาธิลำไส้การรักษาปัญหาการย่อยอาหาร การควบคุมไข้ และรักษาโรค amoebic บิด (Starley et al. 1999Canini et al. 2007 Zunjar et al. 2011) ใบมะละกอยังใช้เพื่อเพิ่มความอยากอาหาร บรรเทาปวดความเจ็บปวด และบรรเทาอาการคลื่นไส้ (สถาพร et al. 2013) นอกจากนี้มีการใช้น้ำใบมะละกอชาวบนโกลด์โคสต์ออสเตรเลียบางเฟื่องฟูของการรายงานสำหรับกรณีที่ประสบความสำเร็จกิจกรรมต้านมะเร็งที่เจตนาของ (Otsuki et al. 2010)นอกจากนี้ ได้ใช้ใบชำระเงินเป็นการทางเลือกผักใบแบบดั้งเดิม และเป็นการสารเติมแต่งเพื่อ tenderise เนื้อ (สถาพร et al. 2013)รายงานวิทยาศาสตร์ล่าสุดขอแนะนำว่า ใบมะละกอสารสกัดและน้ำยางสามารถใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง(มะและ al. 2005 กูรุงและ Skalko-Basnet2009), ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ (Runnieet al. 2004), เป็นต้านการอักเสบ (Owoyeleet al. 2008) และจากลำไส้พยาธินีมาโทดา (Satrija et al. 1995) การศึกษาล่าสุด (Otsukiet al. 2010) พบว่า สารสกัดจากใบมะละกอสามารถป้องกันไม่ให้เจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มะเร็งตับอ่อนรวมทั้ง– หนึ่งในรูปแบบที่รุนแรงที่สุดโรคมะเร็ง(สการ์เลตต์ร้อยเอ็ด 2011) ผลนี้แสดงให้เห็นว่า มะละกอใบอาจประกอบด้วยสารที่จำกัดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งตับอ่อน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการศึกษาตรวจสอบมะเร็ง epithelioid ตับเดียวเท่านั้นรายการเซลล์ (Panc-1), การศึกษาชนิดอื่น ๆของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ต้อง substantiateเรียกร้องนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในหลายส่วนของโลกโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
ของประเทศในเอเชียมะละกอลิตร (มะละกอหรือตีน
ตีน) ใบถูกนำมาใช้เป็นยาพื้นบ้านสำหรับความหลากหลาย
ของโรคเช่นการรักษาจากการเผาไหม้, การบรรเทา
อาการของโรคหอบหืดการรักษา ของหนอนลำไส้
รักษาปัญหาการย่อยอาหารควบคุมไข้และ
รักษาโรคบิดอะมีบา (Starley et al, 1999;.
Canini et al, 2007;.. Zunjar et al, 2011) ใบมะละกอ
ยังได้ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความอยากอาหารบรรเทาประจำเดือน
เจ็บปวดและบรรเทาอาการคลื่นไส้ (Aravind et al., 2013) นอกจากนี้
น้ำผลไม้มะละกอใบได้รับการบริโภคโดย
คนที่อาศัยอยู่ในโกลด์โคสต์ของออสเตรเลียที่มี
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของกรณีที่ประสบความสำเร็จบางอย่างถูกรายงานสำหรับ
กิจกรรมต้านมะเร็งของเจตนา (Otsuki et al., 2010).
นอกจากนี้ใบซื้อได้รับการบริโภคในฐานะที่เป็น
ทางเลือกในการผักใบแบบดั้งเดิมและเป็น
สารเติมแต่ง tenderise เนื้อ (Aravind et al, 2013.).
รายงานทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดชี้ให้เห็นว่าใบมะละกอ
สารสกัดและน้ำยางที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนัง
(ลอย et al, 2005;. Gurung &? Skalko-Basnet,
2009) ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด (Runnie
et al., 2004) ทำหน้าที่เป็นต้านการอักเสบ (Owoyele
et al., 2008) และพยาธิกับลำไส้
ไส้เดือนฝอย (Satrija et al., 1995) . (Otsuki การศึกษาล่าสุด
. et al, 2010) พบว่าสารสกัดจากใบมะละกอสามารถป้องกัน
การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งรวมทั้งมะเร็งตับอ่อน
- หนึ่งในรูปแบบที่ร้ายแรงที่สุดของโรคมะเร็ง
(. Scarlett et al, 2011) ผลที่ได้นี้แสดงให้เห็นว่ามะละกอ
ใบอาจมีสารที่ จำกัด การแพร่กระจาย
ของเซลล์มะเร็งตับอ่อน อย่างไรก็ตามเนื่องจาก
การศึกษาการตรวจสอบเพียงคนเดียวมะเร็งตับอ่อน epithelioid
สายพันธุ์ของเซลล์ (Panc-1) การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทอื่น ๆ
ของเซลล์มะเร็งตับอ่อนจะต้องยืนยัน
การเรียกร้องนี้