ECONOMIC BENEFITS OF CEREAL-LEGUMEI

ECONOMIC BENEFITS OF CEREAL-LEGUME
INTERCROPPING SYSTEMS
According to Seran and Brintha [9] the intercropping
system gave higher cash return to smallholder farmers
than growing as the monocrops. Gunasena et al. [146]
studying maize-soybean intercropping system, found that
the gross economic returns were increased by the
intercropping. Mucheru-Muna et al. [23], using benefit
cost ratio, found that the MBILI system with beans as the
intercrop resulted in 40.0 percent higher net benefits
relative to the traditional system with beans, and 50-70
percent higher benefits, relative to the MBILI system
with cowpea or groundnut. Using the same BCR, SegunOlasanmi,
and Bamire [147] mentioned that maizecowpea
intercropping was found to be profitable than
their sole crops. On the other hand, using monetary
advantage index (MAI), Osman et al. [148] reported that
intercropping with 2 rows of cowpea and 1 row of millet
gave significantly higher economic return than mixture
with one row of each of the crops. Using the same MAI,
increase the income for smallholder farmers, and
compensate losses due to uneven condition. Oseni [149]
found that intercropping with 2 rows of sorghum and 1
row of cowpea gave higher economic benefits compared
to the other planting arrangements and the sole crops.
These results suggest that intercropping could improve
the system’s productivity, [148]. Intercropping could
enhance total productivity of the system with low input
investment by changing planting population and
configuration [150]. Ullah et al. [151] found that
soybean+maize in 90 cm spaced double row strips gave
maximum maize grain equivalent yield and maximum
land equivalent ratio). Similarly all intercropping systems
gave substantially higher net income over mono-cropping
with highest net income (Rs. 56043.50/ha) in case of
maize+soybean followed by sole crop of maize (Rs.
52654 /ha). Dhima et al. [50] found bean+oat (65:35) and
bean+wheat (55:45) as the most profitable intercropping
system with higher intercropping advantages.
Despite the benefits of cereal-legumes intercropping
systems in SFS, there are some limitation that need to be
solved so as to attain progress [22], [152], [153]. For
instance, in some of countries within the region the soils
are acidic with limited phosphorus availability [154],
which is harmful for ANF process and therefore lessen
the N contribution of the legume component to system
[10]. This is worsened by the current use of mineral

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจของธัญพืชพืชตระกูลถั่วระบบ INTERCROPPINGไปตามวิสัญญีและ Brintha [9] การ intercroppingระบบสูงกว่าเงินสดคืนให้เกษตรกรรายย่อยกว่าการเติบโตเป็น monocrops การ Gunasena et al. [146]ศึกษาระบบ intercropping ข้าวโพดกากถั่วเหลือง พบว่าเพิ่มผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมวลรวมintercropping Mucheru-Muna et al. [23], การใช้ประโยชน์ต้นทุนอัตราส่วน พบว่าระบบ MBILI ที่ มีถั่วเป็นการintercrop ส่งผลให้ผลประโยชน์สุทธิสูงขึ้นร้อยละ 40.0เมื่อเทียบกับระบบแบบดั้งเดิมถั่วกับ 50-70เปอร์เซ็นต์สูงกว่าประโยชน์ สัมพันธ์กับระบบ MBILIแดงถั่วดำหรือถั่วลิสง ใช้อาร์เดียว SegunOlasanmiและ Bamire [147] กล่าวถึงว่า maizecowpeaintercropping พบจะมีผลกำไรกว่าพืชของพวกเขาแต่เพียงผู้เดียว บนมืออื่น ๆ ใช้เงินประโยชน์จากดัชนี (เชียงใหม่), Osman et al. [148] รายงานว่าintercropping ถั่วนั่ง 2 แถวและ 1 แถวของข้าวฟ่างให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงกว่าส่วนผสมกับหนึ่งแถวของแต่ละพืช ใช้ไม้เดียวกันเพิ่มรายได้สำหรับเกษตรกรรายย่อย และชดเชยความเสียหายจากสภาพที่ไม่สม่ำเสมอ Oseni [149]พบว่า intercropping กับแถวที่ 2 ของข้าวฟ่างและ 1แถวของเร็นให้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจที่สูงขึ้นเมื่อเทียบการเตรียมการปลูกอื่น ๆ และพืชแต่เพียงผู้เดียวผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำว่า intercropping สามารถปรับปรุงผลผลิตของระบบ, [148] Intercropping อาจเพิ่มผลผลิตรวมของระบบด้วยการป้อนข้อมูลต่ำลงทุน โดยการเปลี่ยนแปลงประชากรที่ปลูก และการกำหนดค่า [150] Ullah et al. [151] พบว่าถั่วเหลือง + ข้าวโพดใน 90 ซม.สองแถวแถบให้เว้นระยะห่างผลผลิตเทียบเท่าเม็ดข้าวโพดที่สูงสุดและสูงสุดที่ดินเทียบอัตราส่วน) ระบบ intercropping ในทำนองเดียวกันทั้งหมดให้กำไรสุทธิสูงกว่าโมโนการครอบตัดด้วยรายได้สูงสุดสุทธิ (รูปี 56043.50/ฮา) กรณีข้าวโพด + กากถั่วเหลืองตาม ด้วยพืชแต่เพียงผู้เดียวของข้าวโพด (อาร์เอส52654 / ฮา) Dhima et al. [50] พบถั่ว + ข้าวโอ๊ต (65:35) และถั่ว + ข้าวสาลี (55:45) เป็น intercropping กำไรมากที่สุดระบบ มีข้อดี intercropping สูงกว่าแม้ประโยชน์ของธัญพืชถั่ว intercroppingระบบ SFS มีข้อจำกัดบางอย่างที่จำเป็นต้องแก้ไขเพื่อให้บรรลุความคืบหน้า [22], [152], [153] สำหรับอินสแตนซ์ บางประเทศในภูมิภาคดินมีเปรี้ยวมีฟอสฟอรัสจำกัด [154],ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับกระบวนการ ANF และดังนั้น ลดส่วน N ส่วนประกอบถั่วระบบ[10] . นี้จะแย่ลงจากการใช้แร่ปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของธัญพืชถั่ว
ระบบการปลูก
ตามที่ Seran และ Brintha [9] แซม
ระบบให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อเงินสดเกษตรกรรายย่อย
กว่าการเติบโตเป็น monocrops Gunasena et al, [146]
การศึกษาระบบการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ถั่วเหลืองพบว่า
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจขั้นต้นเพิ่มขึ้นโดย
แซม Mucheru-มูนา et al, [23] โดยใช้ประโยชน์
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายพบว่าระบบ MBILI ที่มีถั่วเป็น
แซมส่งผลให้ร้อยละ 40.0 ผลประโยชน์สุทธิเพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับระบบแบบดั้งเดิมกับถั่วและ 50-70
เปอร์เซ็นต์ผลประโยชน์ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ MBILI
กับถั่วพุ่มหรือ ถั่วลิสง ใช้ BCR เดียวกัน SegunOlasanmi,
และ Bamire [147] บอกว่า maizecowpea
แซมพบว่าจะทำกำไรได้มากกว่า
พืช แต่เพียงผู้เดียวของพวกเขา บนมืออื่น ๆ ที่ใช้ทางการเงิน
ดัชนีประโยชน์ (MAI), ออสมัน, et al [148] รายงานว่า
แซมมี 2 แถวของถั่วพุ่มและ 1 แถวของข้าวฟ่าง
ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงกว่าผสม
กับหนึ่งแถวของแต่ละพืช ใช้ MAI เดียวกัน
เพิ่มรายได้สำหรับเกษตรกรรายย่อยและ
ชดเชยการสูญเสียเนื่องจากสภาพที่ไม่สม่ำเสมอ Oseni [149]
พบว่าแซมมี 2 แถวของข้าวฟ่างและ 1
แถวของถั่วพุ่มให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นเมื่อเทียบ
กับการเตรียมการปลูกอื่น ๆ และพืช แต่เพียงผู้เดียว.
ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าแซมสามารถปรับปรุง
ประสิทธิภาพการผลิตของระบบ [148] แซมสามารถ
เพิ่มผลผลิตรวมของระบบที่มีการป้อนข้อมูลต่ำ
การลงทุนโดยการเปลี่ยนประชากรการปลูกและ
การกำหนดค่า [150] Ullah et al, [151] พบว่า
ถั่วเหลือง + ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใน 90 ซม. ระยะห่างแถบสองแถวให้
เมล็ดข้าวโพดสูงสุดอัตราผลตอบแทนเทียบเท่าและสูงสุด
ที่ดินอัตราส่วนเทียบเท่า) ในทำนองเดียวกันทุกระบบแซม
ให้รายได้สุทธิสูงขึ้นอย่างมากในช่วงโมโนการปลูกพืช
ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด (อาร์เอส. 56043.50 / ไร่) ในกรณีของ
ข้าวโพดถั่วเหลือง + ตามด้วยการปลูกพืชเพียงอย่างเดียวของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (อาร์เอส.
52,654 / ไร่) Dhima et al, [50] พบถั่ว + ข้าวโอ๊ต (65:35) และ
ถั่วข้าวสาลี + (55:45) ในขณะที่แซมมีกำไรมากที่สุด
ระบบที่มีข้อได้เปรียบในการปลูกที่สูงขึ้น.
แม้จะมีประโยชน์ของธัญพืชพืชตระกูลถั่วแซม
ระบบ SFS มีข้อ จำกัด บางอย่างที่ต้อง จะได้รับการ
แก้ไขเพื่อให้บรรลุความคืบหน้า [22], [152], [153] สำหรับ
ตัวอย่างเช่นในบางส่วนของประเทศในภูมิภาคดิน
เป็นกรดที่มีความพร้อมที่ จำกัด ฟอสฟอรัส [154]
ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับกระบวนการ ANF และดังนั้นจึงช่วยลด
ผลงานที่ไม่มีส่วนประกอบของพืชตระกูลถั่วในระบบ
[10] นี้จะแย่ลงจากการใช้ในปัจจุบันของแร่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของ cereal-legumeการปลูกพืชร่วมระบบตาม seran และ brintha [ 9 ] และระบบให้กลับเงินสดสูงกว่าเกษตรกรที่โครงสร้างกว่าขึ้นเป็น monocrops . gunasena et al . [ 146 ]ข้าวโพด ถั่วเหลือง และ ศึกษาระบบ พบว่ารวมผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยการปลูกพืชแซม . mucheru Muna et al . [ 23 ] , การใช้ประโยชน์อัตราส่วนค่าใช้จ่าย พบว่า ระบบ mbili กับถั่วเป็นพืชแซม ( 40.0 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าผลประโยชน์สุทธิเมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิมที่มีถั่วและ 50-70เปอร์เซ็นต์ผลประโยชน์สูงกว่า เมื่อเทียบกับระบบ mbiliหรือกับถั่วลิสง ใช้ segunolasanmi BCR , เดียวกัน ,และ bamire [ 147 ] กล่าวว่า maizecowpeaและพบว่าเป็นประโยชน์กว่าของตนแต่เพียงผู้เดียวในพืช บนมืออื่น ๆที่ใช้เงินดัชนีความได้เปรียบ ( เชียงใหม่ ) , อุสมาน et al . [ 148 ] รายงานว่าและ 2 แถวและแถวของข้าวฟ่าง 1 พุ่มให้สูงกว่าผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมากกว่าส่วนผสมกับหนึ่งแถวของแต่ละพืช ใช้เหมือนใหม่เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โครงสร้าง และชดเชยการสูญเสียเนื่องจากสภาพไม่เท่ากัน oseni [ 149 ]พบว่า การปลูกข้าวฟ่างและ 1 กับ 2 แถวแถวปลูกให้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพื่ออื่น ๆข้อตกลงและปลูกพืช แต่เพียงผู้เดียวผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าระบบสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ , [ 148 ] และ สามารถเพิ่มผลผลิตโดยรวมของระบบกับข้อมูลน้อยการลงทุนโดยการปลูกและประชากรการตั้งค่า [ 150 ] ullah et al . [ 151 ] พบว่าข้าวโพด ถั่วเหลือง + 90 เซนติเมตร เว้นระยะคู่แถวแถบให้ข้าวโพดเมล็ดสูงสุดเทียบเท่าผลผลิตสูงสุดอัตราส่วนเทียบเท่าที่ดิน ) ในทำนองเดียวกันทั้งหมดและระบบให้สูงขึ้นอย่างมาก การรายได้เหนือ โมโนด้วยรายได้สูงสุด ( อาร์เอส 56043.50 / ฮา ) ในกรณีของข้าวโพด + ถั่วเหลืองตามด้วยพืช แต่เพียงผู้เดียวของข้าวโพด ( Rs .52654 / ฮา ) dhima et al . [ 50 ] พบถั่ว + ข้าวโอ๊ต ( ไฟฟ้า ) และข้าวสาลี ถั่ว + ( 55 : 45 ) เป็นระบบที่ทำกำไรมากที่สุดระบบที่มีค่าและประโยชน์แม้ประโยชน์ของพืชตระกูลถั่วธัญพืชและในระบบ SFS มีข้อจำกัดว่าต้องเป็นแก้ไขเพื่อให้บรรลุความก้าวหน้า [ 22 ] , [ 152 ] , [ 153 ] สำหรับตัวอย่าง ในบาง ประเทศในเขตดินเป็นกรดที่มีความพร้อมจำกัดฟอสฟอรัส [ 154 ]ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับกระบวนการ ANF จึงเบาบางลงN ผลงานของถั่วองค์ประกอบระบบ[ 10 ] นี้เป็น worsened โดยปัจจุบันการใช้แร่