on plasma antioxidant capacity and

on plasma antioxidant capacity and a number of risk factors in patients with coronary artery disease. While some human intervention studies evaluating effects of tea consumption on selective biomarkers of oxidative stress have been confronted with certain confounding lifestyle factors, this study was designed to minimize effects of smoking and alcohol on levels of the measured biomarkers. It is impossible for all subjects to maintain the same food consumption throughout the study period. The subjects were asked to maintain their former diet during the study and it was expected that the randomized design could balance eventual bias between the study and control groups. Nevertheless their daily diet was monitored and diet form data indicated that the fat/lipid content of the population diet did not change significantly during the intervention trial.
The baseline mean values of fasting serum glucose in both normal male and female tea and control groups were higher than the international standard values which vary between 70 and 111 mg/dL It is noteworthy to situate these data in the context whereby health reports indicate a 23,6% incidence of diabetes in the Mauritian population (age 25-74) and further emphasize that for every known case of diabetes, there was one newly diagnosed case (Ministry of Health and Quality of Life, Mauritius, 2009). Consumption of the black tea infusate for 12 weeks significantly reduced the fasting glucose level by 20% in males and 15% in females. An antihyperglycemic effect of black tea can therefore be anticipated

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชาหม่อนและปัจจัยเสี่ยงในผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ ในขณะที่บางการศึกษาบุคคลประเมินผลกระทบของการบริโภคชาบนเลือก biomarkers oxidative เครียดมีการเผชิญกับสาเหตุบาง confounding ศึกษานี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบของการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ระดับ biomarkers วัด มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเรื่องทั้งหมดเพื่อรักษาปริมาณอาหารเดียวกันตลอดระยะเวลาการศึกษา เรื่องที่ต้องรักษาอาหารเดิมของพวกเขาในระหว่างการศึกษา และก็คาดว่าแบบ randomized ไม่สมดุลความโน้มเอียงในระหว่างกลุ่มศึกษาและควบคุม อย่างไรก็ตามมีการตรวจสอบอาหารประจำวันของพวกเขา และอาหารข้อมูลบ่งชี้ว่า เนื้อหาไขมัน/ไขมันของอาหารประชากรได้ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในระหว่างการทดลองการแทรกแซง หลักการหมายถึง ค่าของเซรั่มที่ถือศีลอดกลูโคสในชาชาย และหญิงทั้งปกติ และกลุ่มควบคุมได้สูงกว่าค่ามาตรฐานสากลซึ่งแตกต่างกันระหว่าง 70 และ 111 mg/dL เป็นที่น่าสังเกตไปแล้วข้อมูลเหล่านี้ในบริบทโดยรายงานสุขภาพระบุเป็น 23,6% เกิดเบาหวานในประชากร Mauritian (อายุ 25-74) และเน้นการเพิ่มเติม ว่าสำหรับทุกกรณีรู้จักโรคเบาหวาน มีการวินิจฉัยใหม่กรณีเดียว (กระทรวงสุขภาพและคุณภาพชีวิต มอริเชียส 2009) ปริมาณการใช้ infusate ชาดำ 12 สัปดาห์อย่างมีนัยสำคัญลดระดับกลูโคสถือศีลอด โดย 20% ในผู้ชายและ 15% ในหญิง ดังนั้นสามารถคาดการผล antihyperglycemic ของชาดำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสารต้านอนุมูลอิสระพลาสม่าและจำนวนของปัจจัยเสี่ยงในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในขณะที่บางการศึกษาการแทรกแซงของมนุษย์การประเมินผลกระทบของการบริโภคชาใน biomarkers เลือกของความเครียดออกซิเดชันได้รับการเผชิญหน้ากับปัจจัยการดำเนินชีวิตบางอย่างที่รบกวนการศึกษาครั้งนี้ได้รับการออกแบบเพื่อลดผลกระทบของการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับของ biomarkers วัด มันเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกวิชาในการรักษาการบริโภคอาหารเหมือนเดิมตลอดระยะเวลาการศึกษา วิชาที่ถูกถามในการรักษาอาหารเดิมของพวกเขาในระหว่างการศึกษาและได้รับการคาดหวังว่าการออกแบบจะสุ่มสมดุลอคติที่สุดระหว่างการศึกษาและกลุ่มควบคุม อย่างไรก็ตามอาหารประจำวันของพวกเขาได้รับการตรวจสอบและข้อมูลในแบบฟอร์มการรับประทานอาหารที่ชี้ให้เห็นว่าไขมัน / ไขมันของอาหารประชากรที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการพิจารณาคดีการแทรกแซง.
พื้นฐานหมายถึงค่าของน้ำตาลกลูโคสในซีรั่มการอดอาหารในทั้งชายปกติและชาหญิงและกลุ่มควบคุมมีค่าสูง กว่าค่ามาตรฐานสากลที่แตกต่างกันระหว่าง 70 และ 111 mg / dL มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะตั้งอยู่ข้อมูลเหล่านี้ในบริบทโดยรายงานบ่งบอกถึงสุขภาพที่อุบัติการณ์ 23,6% ของโรคเบาหวานในประชากรมอริเชียส (อายุ 25-74) และต่อไปเน้นว่า ทุกกรณีที่รู้จักกันในชื่อของโรคเบาหวานมีกรณีหนึ่งการวินิจฉัยใหม่ (กระทรวงสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตมอริเชียส 2009) การบริโภคของ infusate ชาดำเป็นเวลา 12 สัปดาห์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญระดับน้ำตาลในการอดอาหาร 20% ในเพศชายและ 15% ในเพศหญิง ผลของการลดน้ำตาลขนานชาดำดังนั้นจึงสามารถคาดการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และสารต้านอนุมูลอิสระความจุและจำนวนของปัจจัยความเสี่ยงในผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ ในขณะที่การแทรกแซงของมนุษย์การศึกษาผลกระทบของการบริโภคชาในการประเมินความก้าวหน้าของการเผชิญกับความเครียดออกซิเดชันมีบางปัจจัยที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงชีวิต การศึกษานี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบของการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ในระดับของวัดใหม่ .มันเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกวิชาเพื่อรักษาอาหารเดียวกันตลอดระยะเวลาการศึกษา วิชาที่ถูกถามเพื่อรักษาอาหารเก่าของพวกเขาในระหว่างการศึกษา และคาดว่าที่ออกแบบสามารถสมดุลในที่สุดอคติระหว่างศึกษา และกลุ่มควบคุมอย่างไรก็ตามอาหารทุกวันของพวกเขาถูกตรวจสอบ และอาหารจากข้อมูลพบว่า ปริมาณไขมัน / ไขมันของประชากรอาหารไม่ได้เปลี่ยนแปลงในระหว่างการแทรกแซงศาล
( หมายถึงค่าของการอดอาหารกลูโคสในเลือดในภาวะปกติ ชายและหญิง และกลุ่มชาควบคุมสูงกว่ามาตรฐานระหว่างประเทศ คุณค่าที่แตกต่างกันระหว่าง 70 และ 111 มิลลิกรัม / เดซิลิตร เป็นที่น่าสังเกตเพื่อตั้งข้อมูลเหล่านี้ในบริบทซึ่งรายงานสุขภาพระบุ 236 % อุบัติการณ์ของโรคเบาหวานในประชากรชาว ( อายุ 25-74 ) และเน้นว่าทุกกรณีที่รู้จักโรคเบาหวานมีการวินิจฉัยใหม่กรณีของกระทรวงสุขภาพและคุณภาพชีวิต , มอริเชียส , 2009 ) การบริโภคของ infusate ชาดำ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ สามารถลดระดับน้ำตาล ระดับ 20% ในเพศชายและร้อยละ 15 ในเพศหญิงผล antihyperglycemic ชาดำจึงสามารถคาดการณ์