But Reganold found one scenario whe

But Reganold found one scenario where the research shows that organic yields are consistently greater than conventional: during periods of drought. Organic soil is built up with organic material, which can hold onto water, he says. That means that by the time a farmer plants and grows a crop, the plant has access to more water, so yields increase. For every inch of rainwater soaked up by soil, a plant can produce another 7-8 bushels of wheat, Reganold says.
Organic farming typically uses less energy, too. “When you look at ecosystem services, organic agriculture really shines,” he says. “The value they bring in areas like biodiversity, pollination, soil quality—if you were to put an economic value on those, and some researchers have, then it more than makes up for the higher price or price premium of organic food.”
A 2015 meta-analysis about the economics of organic farming, published in the journal PNAS, even determined that organic farming is more profitable than conventional, earning farmers 22% to 35% more money. They determined that the organic price premium (which was around 30% in the study) only had to be about 5% for organic profits to break even with conventional.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ Reganold พบสถานการณ์หนึ่งที่การวิจัยแสดงว่า ผลผลิตอินทรีย์อย่างสม่ำเสมอมากกว่าธรรมดา: ในช่วงระยะเวลาของภัยแล้ง ดินอินทรีย์ถูกสร้างขึ้น ด้วยวัสดุอินทรีย์ ซึ่งสามารถจุน้ำ เขากล่าวว่า นั่นหมายความ ว่า เวลาเกษตรกรพืช และพืชเติบโต พืชมีถึงน้ำมากขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน สำหรับทุกตารางนิ้วของน้ำฝนแช่ขึ้น โดยดิน พืชสามารถผลิตอื่น 7-8 bushels ของข้าวสาลี Reganold กล่าวว่าการเกษตรอินทรีย์โดยทั่วไปจะใช้พลังงานน้อยกว่า เกินไป เขากล่าวว่า "เมื่อคุณดูบริการระบบนิเวศ เกษตรอินทรีย์จริง ๆ ส่อง "ค่าที่พวกเขานำมาในพื้นที่เช่นความหลากหลายทางชีวภาพ ผสมเกสร คุณภาพดิน — ถ้าคุณได้ใส่ค่าทางเศรษฐกิจ และนักวิจัยบางคนมี แล้วมันมากกว่าทำให้ขึ้นราคาสูงหรือราคาพิเศษของอาหารอินทรีย์. "Meta-analysis 2015 เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของอินทรีย์เกษตร ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS ที่แม้พบว่าเกษตรอินทรีย์มีกำไรมากขึ้นกว่าเดิม รายได้เกษตรกร 22% ถึง 35% เพิ่มเติม เขาได้ทราบว่า พรีเมี่ยมราคาอินทรีย์ (ซึ่งมีประมาณ 30% ในการศึกษา) เท่านั้นก็จะเป็นประมาณ 5% อินทรีย์ผลกำไรคุ้มกับธรรมดา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่ Reganold พบสถานการณ์ที่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าอัตราผลตอบแทนอินทรีย์มีอย่างต่อเนื่องมากขึ้นกว่าเดิม: ในช่วงฤดูแล้ง ดินอินทรีย์จะถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุอินทรีย์ที่สามารถถือไปยังน้ำเขากล่าวว่า นั่นหมายความว่าตามเวลาที่พืชเกษตรกรและเติบโตพืชพืชที่มีการเข้าถึงน้ำมากขึ้นเพื่อให้อัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น สำหรับนิ้วของน้ำฝนทุกแช่ขึ้นมาจากดินพืชสามารถผลิตอีก 7-8 ตกหล่นข้าวสาลี Reganold กล่าว.
เกษตรอินทรีย์มักจะใช้พลังงานน้อยเกินไป "เมื่อคุณมองไปที่การบริการของระบบนิเวศเกษตรอินทรีย์จริงๆส่อง" เขากล่าว "ค่าที่พวกเขานำในพื้นที่เช่นความหลากหลายทางชีวภาพผสมเกสรดอกไม้ดินที่มีคุณภาพถ้าคุณมีการใส่ค่าทางเศรษฐกิจในเหล่านั้นและนักวิจัยบางคนมีแล้วมันมากกว่าทำให้ขึ้นราคาหรือราคาพรีเมี่ยมที่สูงขึ้นของอาหารอินทรีย์."
2015 meta-analysis เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของการทำเกษตรอินทรีย์ที่ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS ที่กำหนดไว้ว่าการทำเกษตรอินทรีย์ที่มีผลกำไรมากขึ้นกว่าเดิมรายได้เกษตรกรเงิน 22% ถึง 35% มากขึ้น พวกเขาเชื่อว่าพรีเมี่ยมราคาอินทรีย์ (ซึ่งเป็นประมาณ 30% ในการศึกษา) เท่านั้นจะต้องมีประมาณ 5% สำหรับกำไรอินทรีย์ที่จะทำลายแม้จะมีการชุมนุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ reganold เจอสถานการณ์ที่ วิจัยแสดงให้เห็นว่าผลผลิตอินทรีย์อย่างต่อเนื่องมากกว่าปกติ : ในช่วงเวลาของภัยแล้ง ดินอินทรีย์ที่สร้างขึ้นจากวัสดุอินทรีย์ ซึ่งสามารถจับน้ำ เขากล่าว นั่นหมายความว่า เมื่อถึงเวลาที่เกษตรกรปลูกพืช และพืช พืชมีการใช้น้ำมากขึ้น ดังนั้น ผลผลิตเพิ่มขึ้น ทุกนิ้วของน้ำฝนชุ่มด้วยดิน พืชสามารถผลิตข้าวสาลี อีก 7-8 bushels reganold กล่าวเกษตรอินทรีย์โดยทั่วไปจะใช้พลังงานน้อยลงด้วย " เมื่อคุณมองไปที่บริการของระบบนิเวศ การเกษตรอินทรีย์จริงๆส่อง " เขากล่าว " ค่าพวกเขานำในพื้นที่ เช่น ความหลากหลายทางชีวภาพ การผสมเกสร คุณภาพดิน ถ้าคุณต้องใส่ค่าทางเศรษฐกิจนั้น นักวิจัยบางคนมีแล้วมันมากกว่าทำให้ขึ้นสำหรับราคาที่สูงขึ้น หรือ พรีเมี่ยม ราคาของอาหารอินทรีย์ " .การวิเคราะห์อภิมานเป็น 2015 เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของการทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ , ตีพิมพ์ในวารสารสารโพลีนิวเคลียร์ แม้ตั้งใจว่าเกษตรอินทรีย์จะเป็นประโยชน์มากกว่าปกติ รายได้เกษตรกรร้อยละ 22 ถึง 35 % มากกว่าเงิน พวกเขาตัดสินว่า พรีเมี่ยม ราคาอินทรีย์ ( ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 30 % ในการศึกษา ) มีประมาณ 5% สำหรับกำไรอินทรีย์ที่จะทำลายแม้กระทั่งกับแบบปกติ