In the present work, we examined as

In the present work, we examined associations between oppressive, sexist beliefs and consideration of cosmetic surgery for oneself and also endorsement of cosmetic surgery for one’s romantic partner. A total of 554 German-speaking volunteers from the community, mainly in Austria, completed measures of consideration of cosmetic surgery and three measures of sexist attitudes, while a subset of participants in romantic relationships completed a measure of endorsement of cosmetic surgery for their partners along with the measures of sexism. Preliminary analyses showed that women and single respondents were more likely to consider having cosmetic surgery than men and committed respondents, respectively. Further analyses showed that consideration of cosmetic surgery for oneself was significantly associated with sexist attitudes, particularly hostile attitudes to women. In addition, among participants in a relationship, sexist attitudes were associated with endorsement of cosmetic surgery for one’s partner. These results indicate that attitudes to cosmetic surgery for oneself and one’s partner are shaped by gender-ideological belief systems in patriarchal societies. Possible implications for understanding the motivations for having cosmetic surgery, among both single respondents and couples, are discussed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการทำงานปัจจุบันที่เราตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างกดขี่ผู้หญิงความเชื่อและการพิจารณาของการผ่าตัดเครื่องสำอางสำหรับตัวเองและการรับรองของศัลยกรรมความงามสำหรับคู่ของโรแมนติกของคน ๆ หนึ่ง รวมของ 554 อาสาสมัครที่พูดภาษาเยอรมันจากชุมชนส่วนใหญ่ในออสเตรียเสร็จมาตรการของการพิจารณาของการผ่าตัดเครื่องสำอางและสามมาตรการทัศนคติของผู้หญิงในขณะที่ส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมในความสัมพันธ์ที่โรแมนติกเสร็จตัวชี้วัดของการรับรองของศัลยกรรมความงามสำหรับคู่ค้าของพวกเขาพร้อม มาตรการของการกีดกันทางเพศ การวิเคราะห์เบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงและผู้ตอบแบบสอบถามเดียวมีแนวโน้มที่จะพิจารณามีการศัลยกรรมความงามกว่าผู้ชายและผู้ตอบแบบสอบถามมีความมุ่งมั่นตามลำดับ การวิเคราะห์เพิ่มเติมพบการพิจารณาการผ่าตัดเครื่องสำอางสำหรับตัวเองมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับทัศนคติของผู้หญิงทัศนคติที่เป็นมิตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิง นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมในความสัมพันธ์ทัศนคติผู้หญิงมีความสัมพันธ์กับการรับรองของศัลยกรรมความงามสำหรับคู่ของคน ๆ หนึ่ง ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าทัศนคติในการศัลยกรรมความงามสำหรับตัวเองและคู่ของคนที่มีรูปทรงโดยระบบความเชื่ออุดมการณ์ทางเพศในสังคมปิตาธิปไต ผลกระทบที่เป็นไปได้สำหรับการทำความเข้าใจแรงจูงใจสำหรับการศัลยกรรมความงามในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งเดี่ยวและคู่ที่จะกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในงานปัจจุบัน เราตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างกดขี่กีดกันทางเพศ , ความเชื่อและการศัลยกรรมเพื่อตนเองและการรับรองของการศัลยกรรมที่โรแมนติกคู่ รวมเรื่องที่พูดภาษาเยอรมัน อาสาสมัครจากชุมชนเป็นหลักในการพิจารณามาตรการของออสเตรีย เสร็จสิ้นการศัลยกรรมความงาม และสามการวัดทัศนคติไม่ดีละก็ในขณะที่บางส่วนของผู้เข้าร่วมในความสัมพันธ์ที่โรแมนติกเสร็จสิ้นการวัดการรับรองของศัลยกรรมสำหรับพันธมิตรของพวกเขาพร้อมกับมาตรการของเพศนิยม . วิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าผู้หญิงกลุ่มเดียวมีแนวโน้มที่จะพิจารณาการศัลยกรรมมากกว่าผู้ชาย และความมุ่งมั่น ผู้ตอบแบบสอบถาม ตามลำดับการวิเคราะห์เพิ่มเติม พบว่า การศัลยกรรมด้วยตนเองมีความสัมพันธ์กับทัศนคติกีดกันทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือทัศนคติต่อผู้หญิง นอกจากนี้ ในบรรดาผู้เข้าร่วมในความสัมพันธ์ ทัศนคติกีดกันทางเพศสัมพันธ์กับการรับรองของการศัลยกรรมของพันธมิตรผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า ทัศนคติในการศัลยกรรมด้วยตนเอง และคู่มีรูปร่างตามเพศอุดมการณ์ความเชื่อในระบบชายเป็นใหญ่ในสังคม . ผลกระทบที่เป็นไปได้เพื่อความเข้าใจแรงจูงใจสำหรับการศัลยกรรม ทั้งเดี่ยวและคู่ ของผู้ตอบแบบสอบถาม จะกล่าวถึง