The meeting was attended by Lao Pri

The meeting was attended by Lao Prime Minister Thongloun Sisoulith, Prime Minister of Cambodia Somdet Hun Sen, Thai Prime Minister Prayut Chan-O-Cha, Asean economic ministers and Asean business leaders.

During the event President of the Lao National Chamber of Commerce and Industry and Chairman of the Asean Business Advisory Council, Mr Oudet Souvannavong, described the Mekong Region as an important sub-region within Asean.

It has a combined population of 235 million, average per capita income of US$2,927 and an average growth rate of 5.8 percent, making the Asean Mekong Region truly an emerging economy with many capacities and diversities.

The Mekong Region has a growing and relatively youthful population and its shared borders with countries of similar but distinct cultures and an exotic environment open the door to tourism as well as integrated regional trade, investment and business, particularly in manufacturing, logistics, infrastructure, communications, technology and agricultural food industries.

While most countries are suffering from the effects of the global economic downturn, Asean Mekong countries are doing surprisingly well by slowly building up together to become one of Asean’s New Growth Areas.

Such prosperity will not only benefit the five countries but also add value to Asean and its solidarity. The coming into being of the Asean Economic Community in this sub-region is expected to build an economic bloc and move Asean forward at a more even pace, on the basis of self-reliance and shared prosperity.

Asean-BAC is taking the initiative to promote and enhance sub-regional economic development to hasten economic integration. It is important that sub-regional areas such as the Mekong Region, the BIMP EAGA or the East Asean Growth Area, which have different geographical and economical situations, are growing in the same path.

For the Mekong Region, in-land connectivity and economic discrepancy are challenges for economic development, so leveraging the gap between Cambodia, Laos, Myanmar and Vietnam is one of the objectives of Asean economic integration.

In the view of the private sector, to be able to leverage the economic gaps of the economies in the Mekong Region there is a need for stronger and faster economic integration through the development of sub-regional value chains that foster cross-border exchanges and intra-regional investment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การประชุมมีกรรมการ Thongloun Sisoulith ลาวนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี Prayut จัง-O-ชะอำ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และผู้นำธุรกิจอาเซียนในช่วงเหตุการณ์ประธานลาวชาติหอการค้า และอุตสาหกรรม และประธานสภาอาเซียนธุรกิจปรึกษา นาย Oudet Souvannavong อธิบายภูมิภาคแม่น้ำโขงเป็นอนุภูมิภาคที่สำคัญในอาเซียนมีประชากรรวม 235 ล้าน รายได้ต่อหัวของสหรัฐอเมริกา $2,927 และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.8 ทำแม่โขงภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริงเศรษฐกิจเกิดใหม่ มีความจุมากและความหลากหลายภูมิภาคแม่น้ำโขงมีประชากรค่อนข้างอ่อนเยาว์ และการเจริญเติบโต และของเส้นขอบที่ใช้ร่วมกันกับประเทศของวัฒนธรรมที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกันและมีสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่เปิดประตูสู่การท่องเที่ยวเป็นการค้าในภูมิภาครวม การลงทุน และ ธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต โลจิสติกส์ โครงสร้าง สื่อสาร เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมอาหารเกษตร ในขณะที่หลายประเทศกำลังทุกข์ทรมานจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก ประเทศอาเซียนแม่โขงกำลังทำแปลกใจกัน โดยการค่อย ๆ สร้างกันจะกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่เจริญเติบโตใหม่ของอาเซียน ความเจริญดังกล่าวจะไม่เพียงห้าประเทศที่ได้รับประโยชน์ แต่ยัง เพิ่มค่าอาเซียนและความสามัคคีของ มาเป็นกำลังของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนุภูมิภาคนี้คาดว่าจะสร้างค่ายการเศรษฐกิจ และย้ายไปข้างหน้าอาเซียนก้าวยิ่ง บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเองและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันBAC อาเซียนคือการริเริ่มเพื่อส่งเสริม และเพิ่มการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคเพื่อเร่งบูรณาการเศรษฐกิจ มันเป็นสิ่งสำคัญที่มีการเติบโตพื้นที่อนุภูมิภาค เช่น ภูมิภาคแม่น้ำโขง BIMP EAGA ตะวันออกอาเซียนเติบ โต ซึ่งมีสถานการณ์แตกต่างกันทางภูมิศาสตร์ และเศรษฐกิจ ในเส้นทางเดียวกัน ภูมิภาคลุ่มน้ำโขง การเชื่อมต่อในที่ดินและความขัดแย้งทางเศรษฐกิจเป็นความท้าทายสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากช่องว่างระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามให้ เป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอาเซียน ในมุมมองของภาคเอกชน เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากช่องว่างทางเศรษฐกิจของเศรษฐกิจในภูมิภาคแม่น้ำโขงมีเป็นต้องแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจเร็วรวมผ่านการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าภูมิภาคที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้ามพรมแดนและการลงทุนภายในภูมิภาค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ประชุมได้เข้าร่วมโดยลาวนายกรัฐมนตรี Thongloun Sisoulith นายกรัฐมนตรีกัมพูชาสมเด็จฮุนเซนนายกรัฐมนตรีของไทยประยุทธ์จันทร์โอชา, เศรษฐกิจอาเซียนและผู้นำทางธุรกิจอาเซียน.

ในกรณีที่ประธานหอการค้าแห่งชาติลาวพาณิชย์และอุตสาหกรรม และประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนนาย Oudet Souvannavong อธิบายภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นสิ่งสำคัญอนุภูมิภาคภายในอาเซียน.

มันมีประชากรรวมกัน 235 ล้านบาทรายได้ต่อหัวเฉลี่ย $ 2,927 สหรัฐและมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.8 ทำให้ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงอาเซียนอย่างแท้จริงเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีความจุจำนวนมากและหลากหลาย.

ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีการเจริญเติบโตและความอ่อนเยาว์ของประชากรและเส้นขอบที่ใช้ร่วมกันกับประเทศของวัฒนธรรมที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกันและสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่เปิดประตูไปสู่การท่องเที่ยวเช่นเดียวกับแบบบูรณาการ การค้าระดับภูมิภาคการลงทุนและธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต, การขนส่ง, โครงสร้างพื้นฐาน, การสื่อสาร, เทคโนโลยีและเกษตรอาหารอุตสาหกรรม.

ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ที่กำลังทุกข์ทรมานจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกประเทศอาเซียนโขงกำลังทำน่าแปลกใจที่ดีโดยค่อย ๆ สร้างขึ้นมาด้วยกันไป กลายเป็นหนึ่งในอาเซียนของพื้นที่การเจริญเติบโตใหม่.

เจริญรุ่งเรืองดังกล่าวไม่เพียง แต่จะได้รับประโยชน์ห้าประเทศ แต่ยังเพิ่มมูลค่าให้กับอาเซียนและความเป็นปึกแผ่น ที่เข้ามาในความเป็นอยู่ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในครั้งนี้อนุภูมิภาคที่คาดว่าจะสร้างกลุ่มทางเศรษฐกิจและย้ายอาเซียนไปข้างหน้าในอัตราที่มากยิ่งขึ้นบนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเองและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน.

ASEAN-BAC คือการคิดริเริ่มที่จะ ส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคเร่งรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ มันเป็นสิ่งสำคัญว่าพื้นที่อนุภูมิภาคเช่นภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่ BIMP EAGA หรืออาเซียนตะวันออกพื้นที่การเจริญเติบโตซึ่งมีสถานการณ์ทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจที่แตกต่างกันมีการเจริญเติบโตในเส้นทางเดียวกัน.

สำหรับภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในที่ดินและการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจ ความแตกต่างที่มีความท้าทายในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้การใช้ประโยชน์จากช่องว่างระหว่างกัมพูชาลาวพม่าและเวียดนามเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอาเซียน.

ในมุมมองของภาคเอกชนเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากช่องว่างทางเศรษฐกิจของเศรษฐกิจใน ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีความจำเป็นสำหรับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นและเร็วขึ้นโดยการพัฒนาห่วงโซ่มูลค่าของอนุภูมิภาคที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้ามพรมแดนและการลงทุนภายในภูมิภาค