Forget the expensive skin creams, t

Forget the expensive skin creams, tomatoes may provide the best defence to keeping skin looking young and safe from sun damage, say scientists.
Tests show that eating tomato paste could help protect against sunburn and skin ageing caused by sunlight exposure.

The age-defying ingredient is lycopene – the natural pigment that makes tomatoes red – with highest levels found in processed or cooked tomatoes used in ketchup, paste, soup and juice.

tomatoes helps boost the skin and protect against sunburn
Professor Mark Birch-Machin from Newcastle University, will present details of the research today (thurs) at the Royal Society of Medicine in London.

In the study, women eating a diet rich in processed tomatoes had increased skin protection, as seen by a reduction in skin redness and less DNA damage from ultraviolet (UV) exposure.

Researchers compared the skin of 20 women, half of whom were given five tablespoons (55g) of standard tomato paste with 10g of olive oil every day for 12 weeks.

The effects on their skin were compared with the remaining volunteers, aged between 21 and 47, eating just olive oil for the same length of time.

The volunteers were exposed to UV rays found in sunlight at the beginning and end of the trial.

The researchers found significant improvement in the skin’s ability to protect itself against UV among those eating tomato paste.

Compared with the other women, the tomato-eating group had 33 per cent more protection against sunburn in the form of less redness.

The researchers calculated that protection offered by the tomato paste to be equivalent to a sunscreen with a sun protection factor (SPF) of 1.3.

Skin samples taken from groups before and after trial showed an increase in levels of procollagen, a molecule which gives skin its structure and loss of which leads to skin ageing and lack of elasticity.

There was also less damage to mitochondrial DNA in the skin, which is also believed to be linked to skin ageing.

Dermatology scientist Prof Birch-Machin said the tomato paste eaten was not overly excessive, but the amount that would be consumed from a lot of tomato-based meals.

He said ‘Eating tomatoes will not make you invincible in the sun but it may be a useful addition to sun protection along with sunscreen, shade and clothing.

‘The protective effect of eating tomatoes on our mitochondria is important as they are the energy producers in all our body cells including skin.

‘Therefore being kind to our mitochondria is likely to contribute to improved skin health, which in turn may have an anti-ageing effect.’

Lycopene is a powerful antioxidant, which can reduce the inflammatory response to UV damage by neutralising harmful molecules that are produced in the skin as a result.

Sun damage from UV exposure includes premature wrinkles and skin cancer.

The highest levels of lycopene are found in processed tomatoes used in ketchup, soup and juice which are more easily absorbed into the body.

The typical daily intake of a British adult is less than one milligram, about 25 times less than the amount found in studies to protect against disease.

Previous research suggests 8oz of tomato juice, 150gm of pasta sauce, or one lycopene tablet a day are sufficient to boost blood lycopene levels.

Other international experts at the meeting, which is supported by Heinz, include Professor Indika Edirisinghe, from the Illinois Institute of Technology in the US, who suggests processed tomatoes can improve high blood pressure in people at risk of heart disease.

Studies on 28 volunteers following high and low tomato diets for 6 weeks found that blood pressure in men and women was significantly lower in those with elevated blood pressure.

Work by Dr Mridula Chopra from the University of Portsmouth suggests cooked tomatoes may intercept cancer growth or even kill prostate cancer cells.

Dr Chopra’s research shows that lycopene inhibits the proliferation of prostate cancer lines.

In test tube studies, lycopene reduced the adhesion and invasion properties of prostate cancer and has been shown to intercept mechanisms important to cancer initiation, progression and cell death.

While further clinical trials are needed, Dr Chopra said further trials are need, but in the meantime he recommends eating three to four servings of processed tomato products per week for prostate health.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลืมครีมผิวราคาแพง มะเขือเทศอาจให้ป้องกันดีที่สุดเพื่อรักษาผิวมองหนุ่ม และปลอดภัยจากแสงแดดทำลาย กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์การทดสอบแสดงว่า กินมะเขือเทศช่วยให้ผิวริ้วรอยที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดด และป้องกันผิวเกรียมแดดส่วนผสมอายุ defying lycopene-รงควัตถุธรรมชาติที่ทำให้มะเขือเทศสีแดง – ระดับสูงสุดที่พบในการประมวลผล หรือใช้ในซอสมะเขือเทศ มะเขือเทศสุกวาง น้ำซุป และน้ำผลไม้ได้มะเขือเทศช่วยกระตุ้นผิวหนัง และป้องกันผิวเกรียมแดดศาสตราจารย์หมายเบิร์ช-Machin จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล จะนำเสนอรายละเอียดของการวิจัยวันนี้ (พฤหัสบดี) ที่รอยัลโซไซตี้ของยาในลอนดอนในการศึกษา ผู้หญิงที่กินอาหารที่อุดมไปด้วยมะเขือเทศแปรรูปได้เพิ่มคุ้มครองผิว เห็น โดยลดผิวแดง และน้อย กว่าความเสียหายของดีเอ็นเอจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เปิดเผยนักวิจัยเทียบผิวหนังของผู้หญิง 20 ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับ 5 ช้อนโต๊ะ (55 กรัม) ของมาตรฐานมะเขือกับน้ำมันมะกอก 10 กรัมทุกวันในสัปดาห์ที่ 12ผลกระทบบนผิวของพวกเขาถูกเปรียบเทียบกับที่เหลือทหารอาสา อายุระหว่าง 21 และ 47 กินน้ำมันมะกอกเพียงในระยะเวลาเดียวกันอาสาสมัครได้สัมผัสกับรังสียูวีในแสงแดดที่เริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการทดลองนักวิจัยพบการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญในความสามารถของผิวหนังเพื่อป้องกันรังสียูวีที่กินมะเขือเทศเมื่อเทียบกับผู้หญิงอื่น ๆ กลุ่มกินมะเขือเทศได้ร้อยละ 33 ต่อเพิ่มเติมป้องกันการโดนตัวแดงน้อยนักวิจัยคำนวณว่าป้องกัน โดยมะเขือจะเทียบเท่ากับครีมกันแดดด้วยปัจจัยป้องกันแสงแดด (SPF) ของ 1.3ตัวอย่างผิวหนังนำมาจากกลุ่มก่อน และ หลังการทดลองพบว่าการเพิ่มขึ้นในระดับของ procollagen โมเลกุลซึ่งช่วยให้ผิวของโครงสร้างและการสูญเสียที่นำไปสู่ผิวริ้วรอยและขาดความยืดหยุ่นนอกจากนี้ยังมีความเสียหายน้อยกว่า mitochondrial DNA ในผิว ซึ่งยังเชื่อกันว่าเชื่อมโยงกับผิวดีนักวิทยาศาสตร์ผิวหนังกล่าวว่า ศาสตราจารย์เบิร์ช Machin มะเขือกินไม่มากเกินไปมากเกินไป แต่ยอดเงินที่จะใช้จากจำนวนมากของอาหารที่ใช้มะเขือเทศเขากล่าวว่า ' กินมะเขือเทศจะไม่ทำให้อยู่ยงคงกระพันในแสงอาทิตย์ แต่อาจเพิ่มประโยชน์การป้องกันแสงแดดครีมกันแดด ร่ม และเสื้อผ้า' มีผลป้องกันการกินมะเขือเทศใน mitochondria ของเราเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลิตพลังงานในเซลล์ร่างกายทั้งหมดของเรารวมถึงผิวหนัง'จึง เป็นชนิดที่ mitochondria ของเราจะช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อต้านริ้วรอย'Lycopene เป็นที่มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถลดการตอบสนองการอักเสบความเสียหาย UV โดยโมเลกุลที่เป็นอันตราย neutralising ที่ผลิตในผิวดังนั้นแสงแดดความเสียหายจากรังสีรวมถึงริ้วรอยก่อนวัย และโรคมะเร็งผิวหนังอยู่ในระดับสูงสุดของ lycopene ในประมวลผลมะเขือเทศใช้ซอสมะเขือเทศ ซุป และน้ำที่จะดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่ายขึ้นการบริโภคประจำวันโดยทั่วไปของผู้ใหญ่อังกฤษได้น้อยกว่าหนึ่ง milligram, 25 ครั้งที่น้อยกว่ายอดเงินที่พบในการศึกษาการป้องกันโรคงานวิจัยก่อนหน้านี้แนะนำ 8 ออนซ์ของน้ำมะเขือเทศ 150 กรัมของพาสต้าซอส หรือหนึ่ง lycopene เม็ดวันเพียงพอเพื่อเพิ่มระดับเลือด lycopeneอื่น ๆ ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติในการประชุม ซึ่งได้รับการสนับสนุน โดย Heinz รวมศาสตราจารย์ Indika Edirisinghe จากสถาบันเทคโนโลยีอิลลินอยส์ในสหรัฐอเมริกา ผู้แนะนำการแปรรูปมะเขือเทศช่วยให้ความดันโลหิตสูงในคนที่มีความเสี่ยงของโรคหัวใจศึกษาในอาสาสมัคร 28 ต่อมะเขือเทศอาหารสูงและต่ำในเวลา 6 สัปดาห์พบว่า ความดันโลหิตในผู้หญิงและผู้ชายต่ำในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงทำงาน โดยดร.โชปรา Mridula จากมหาวิทยาลัยรู้สึกแนะนำมะเขือเทศสุกอาจขัดขวางการเจริญเติบโตของมะเร็ง หรือแม้กระทั่งฆ่าเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากการวิจัย Dr โชปราแสดง lycopene ที่ยับยั้งการงอกของบรรทัดมะเร็งต่อมลูกหมากในการศึกษาทดสอบหลอด lycopene คุณสมบัติยึดเกาะและการบุกรุกของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง และจะดักกลไกสำคัญตายเริ่มต้น ความก้าวหน้า และเซลล์มะเร็งในขณะที่เพิ่มเติม คลินิกบ้าง Dr โชปรากล่าวเพิ่มเติมทดลองต้องการ แต่ในระหว่างนี้ เขาแนะนำให้กิน 3-4 กระปุกผลิตภัณฑ์มะเขือเทศแปรรูปต่อสัปดาห์สุขภาพต่อมลูกหมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลืมครีมบำรุงผิวที่มีราคาแพงมะเขือเทศอาจให้การป้องกันที่ดีที่สุดในการรักษาผิวอ่อนเยาว์และปลอดภัยจากแสงแดด, นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า.
การทดสอบแสดงให้เห็นว่าการรับประทานอาหารที่วางมะเขือเทศจะช่วยป้องกันการถูกแดดเผาและผิวหนังริ้วรอยที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดด. ส่วนผสม defying อายุ คือไลโคปีน - เม็ดสีธรรมชาติที่ทำให้มะเขือเทศสีแดง -. ที่มีระดับสูงสุดที่พบในมะเขือเทศสุกประมวลผลหรือใช้ในซอสมะเขือเทศวางซุปและน้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มผิวและป้องกันผิวไหม้ศาสตราจารย์มาร์คเบิร์ช-Machin จากนิวคาสเซิมหาวิทยาลัยจะนำเสนอ รายละเอียดของการวิจัยในวันนี้ (พฤหัสบดี) ที่ราชสมาคมการแพทย์ในกรุงลอนดอน. ในการศึกษาผู้หญิงกินอาหารที่อุดมด้วยมะเขือเทศประมวลผลได้เพิ่มการปกป้องผิวเท่าที่เห็นจากการลดลงในสีแดงของผิวและทำลายดีเอ็นเอน้อยลงจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV ) เปิดรับ. นักวิจัยเปรียบเทียบผิวของผู้หญิง 20, ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับห้าช้อนโต๊ะ (55 กรัม) วางมะเขือเทศกับมาตรฐาน 10g ของน้ำมันมะกอกทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์. ผลกระทบบนผิวของพวกเขาถูกนำมาเปรียบเทียบกับอาสาสมัครที่เหลืออายุระหว่าง 21 และ 47, การรับประทานอาหารเพียงน้ำมันมะกอกสำหรับระยะเวลาเดียวกันของเวลา. อาสาสมัครได้รับการสัมผัสกับรังสี UV พบในแสงแดดที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการพิจารณาคดี. นักวิจัยพบการปรับปรุงที่สำคัญในความสามารถของผิวในการป้องกันตัวเองจากรังสียูวีในหมู่ผู้ การรับประทานอาหารที่วางมะเขือเทศ. เมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่น ๆ , มะเขือเทศกินกลุ่มมีร้อยละ 33 การป้องกันมากขึ้นกับการถูกแดดเผาในรูปแบบของสีแดงน้อย. นักวิจัยคำนวณว่าการป้องกันที่นำเสนอโดยวางมะเขือเทศที่จะเทียบเท่ากับครีมกันแดดที่มีการป้องกันแสงแดด ปัจจัย (SPF) 1.3. ตัวอย่างผิวหนังนำมาจากกลุ่มก่อนและหลังการทดลองแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของระดับของ procollagen, โมเลกุลซึ่งจะช่วยให้ผิวของโครงสร้างและการสูญเสียที่นำไปสู่ริ้วรอยและการขาดความยืดหยุ่น. มีความเสียหายนอกจากนี้ยังมีน้อยคือการ ยลดีเอ็นเอในผิวซึ่งก็ยังเชื่อว่าจะเชื่อมโยงกับริ้วรอยผิว. ผิวหนังนักวิทยาศาสตร์ศาสตราจารย์เบิร์ช-Machin กล่าววางมะเขือเทศกินมากเกินไปก็ไม่ได้มากเกินไป แต่จำนวนเงินที่จะได้รับจากการบริโภคจำนวนมากของอาหารมะเขือเทศตาม. เขา บอกว่าการกินมะเขือเทศจะไม่ทำให้คุณอยู่ยงคงกระพันในดวงอาทิตย์ แต่มันอาจจะมีประโยชน์ในการป้องกันแสงแดดพร้อมกับครีมกันแดดร่มเงาและเสื้อผ้า. 'ป้องกันผลกระทบจากการกินมะเขือเทศใน mitochondria ของเราเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาเป็นผู้ผลิตพลังงานในทุก เซลล์ในร่างกายของเรารวมทั้งผิว. 'ดังนั้นเป็นชนิดเพื่อ mitochondria ของเรามีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นซึ่งในทางกลับกันอาจมีผลกระทบต่อการต่อต้านริ้วรอย.' ไลโคปีนเป็นสารที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถลดการตอบสนองต่อการอักเสบจะเกิดความเสียหายโดยรังสียูวี neutralizing โมเลกุลที่เป็นอันตรายที่มีการผลิตในผิวเป็นผล. ความเสียหายดวงอาทิตย์จากการสัมผัสรังสียูวีรวมถึงการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง. ระดับสูงสุดของไลโคปีนที่พบในมะเขือเทศแปรรูปใช้ในซอสมะเขือเทศซุปและน้ำผลไม้ซึ่งจะถูกดูดซึมได้ง่ายขึ้นเข้าไปในร่างกาย . การบริโภคประจำวันทั่วไปของผู้ใหญ่ชาวอังกฤษน้อยกว่าหนึ่งมิลลิกรัมประมาณ 25 ครั้งน้อยกว่าจำนวนเงินที่พบในการศึกษาเพื่อป้องกันโรค. วิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็น 8oz ของน้ำมะเขือเทศ 150gm ของซอสพาสต้าหรือหนึ่งไลโคปีนแท็บเล็ตวันนี้เป็น เพียงพอที่จะเพิ่มระดับไลโคปีนในเลือด. ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศอื่น ๆ ในที่ประชุมซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยไฮนซ์รวมถึงศาสตราจารย์ Indika Edirisinghe จากสถาบันเทคโนโลยีอิลลินอยส์ในสหรัฐที่แสดงให้เห็นการประมวลผลมะเขือเทศสามารถปรับปรุงความดันโลหิตสูงในคนที่มีความเสี่ยงของหัวใจ โรค. การศึกษาเมื่อวันที่ 28 อาสาสมัครดังต่อไปนี้อาหารมะเขือเทศสูงและต่ำเป็นเวลา 6 สัปดาห์พบว่าความดันโลหิตในผู้ชายและผู้หญิงอย่างมีนัยสำคัญลดลงในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง. ทำงานโดยดร Mridula Chopra จาก University of Portsmouth แนะนำมะเขือเทศสุกอาจขัดขวางการเจริญเติบโตของมะเร็ง หรือแม้กระทั่งการฆ่าเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก. การวิจัยดร Chopra แสดงให้เห็นว่าไลโคปีนยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเส้นมะเร็งต่อมลูกหมาก. ในการศึกษาในหลอดทดลอง, ไลโคปีนที่ลดลงการยึดเกาะและคุณสมบัติการรุกรานของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและได้รับการแสดงที่จะสกัดกั้นกลไกสำคัญที่จะริเริ่มมะเร็งก้าวหน้าและ การตายของเซลล์. ในขณะที่การทดลองทางคลินิกที่มีความจำเป็นต่อไปดร Chopra กล่าวว่าการทดลองต่อไปจะต้อง แต่ในขณะเดียวกันเขาแนะนำให้กิน 3-4 เสิร์ฟของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศแปรรูปต่อสัปดาห์สำหรับสุขภาพต่อมลูกหมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลืมแพงครีมผิวมะเขือเทศอาจให้การป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อรักษาผิวดูอ่อนเยาว์และปลอดภัยจากความเสียหายของดวงอาทิตย์ นักวิทยาศาสตร์กล่าว .
การทดสอบแสดงให้เห็นว่าการรับประทานมะเขือเทศช่วยป้องกันผิวไหม้และริ้วรอยผิวที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดด

อายุ defying ส่วนประกอบเป็นไลโคปีนและรงควัตถุตามธรรมชาติที่ทำให้มะเขือเทศสีแดง และระดับสูงสุดที่พบในมะเขือเทศปรุงสุกแปรรูป หรือใช้ในซอสมะเขือเทศ , วาง , ซุปและน้ำผลไม้

มะเขือเทศช่วยเพิ่มผิวและป้องกันผิวไหม้
ศาสตราจารย์มาร์คเบิร์ช , จากนิวคาสเซิมหาวิทยาลัย จะเสนอรายละเอียดของงานวิจัยวันนี้ ( พฤ ) ที่สมาคมการแพทย์ในลอนดอน

ในการศึกษาผู้หญิงที่กินอาหารที่อุดมไปด้วยมะเขือเทศแปรรูปได้เพิ่มการคุ้มครองผิว เห็นได้จากการลดการอักเสบผิวและลดความเสียหายของดีเอ็นเอจากรังสีอัลตราไวโอเลต ( UV ) เปิดรับ

ด้านผิวของผู้หญิง 20 , ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับ 5 ช้อนโต๊ะ ( 55g ) มะเขือเทศกับมาตรฐาน 10g ของน้ำมัน มะกอกทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ .

ผลกระทบต่อผิวของพวกเขาเปรียบเทียบกับอาสาสมัคร ที่เหลืออายุระหว่าง 21 และ 47 กินแค่น้ำมันมะกอกสำหรับความยาวของเวลาเดียวกัน

อาสาสมัครสัมผัสกับรังสียูวีที่พบได้ในแสงแดดที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการทดลอง .

นักวิจัยพบการปรับปรุงที่สำคัญในความสามารถของผิวในการปกป้อง ตัวเองกับ UV ในหมู่ผู้กินมะเขือเทศ

เมื่อเทียบกับผู้หญิง อื่น ๆ , มะเขือเทศกินกลุ่มได้ร้อยละ 33 เพิ่มเติมป้องกันผิวไหม้ในรูปแบบของการอักเสบน้อย

นักวิจัยคำนวณว่า การเสนอ โดยวางมะเขือเทศจะเทียบเท่ากับครีมกันแดดที่มีปัจจัยป้องกันแสงแดด ( SPF ) 1.3 .

ตัวอย่างผิวหนังไปจากกลุ่ม ก่อนและหลัง การทดลองแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของระดับโปรคอลลาเจน ,โมเลกุล ซึ่งช่วยให้ผิวของโครงสร้างและการสูญเสียที่นำไปสู่ริ้วรอยและผิวขาดความยืดหยุ่น

ยังมีน้อยกว่าความเสียหายของดีเอ็นเอในผิวหนัง ซึ่งยังเชื่อว่าจะเชื่อมโยงกับริ้วรอยผิว

ผิวพรรณ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ดร เบิร์ช , วางมะเขือเทศกินไม่ได้สุดเหวี่ยงที่มากเกินไป แต่ จำนวนเงินที่ต้องใช้จากมาก

ใช้มะเขือเทศอาหารเขาบอกว่ากินมะเขือเทศจะไม่ทำให้คุณอยู่ยงคงกระพันในดวงอาทิตย์ แต่มันอาจจะมีประโยชน์สำหรับการป้องกันแสงแดดด้วยครีมกันแดด เงา และ เสื้อผ้า

' ป้องกันผลของการรับประทานมะเขือเทศในไมโตคอนเดรีย ( mitochondria ) ของเราเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาจะผลิตพลังงานในร่างกายรวมทั้งเซลล์ผิวหนังของเรา

'therefore มีประเภทของเราค่อนข้างมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการปรับปรุงผิวสุขภาพซึ่งในทางกลับอาจจะมีการต่อต้านริ้วรอยผล '

ไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถลดการตอบสนองการอักเสบเพื่อความเสียหาย UV โดย neutralising โมเลกุลที่เป็นอันตรายที่ผลิตในผิวผล แสงแดด

จากแสง UV รวมถึงริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง

สูงสุดระดับไลโคปีนคือ ที่พบในมะเขือเทศแปรรูปใช้ในซอสมะเขือเทศซุปและน้ำผลไม้ที่มีมากขึ้นสามารถดูดซึมเข้าไปในร่างกาย การรับประทานทุกวัน

ปกติของผู้ใหญ่ อังกฤษไม่เกิน 1 มิลลิกรัม ประมาณ 25 ครั้ง น้อยกว่าปริมาณที่พบในการศึกษาเพื่อป้องกันโรค

ก่อนหน้านี้การวิจัยชี้ให้เห็น 8oz น้ำมะเขือเทศ 150gm ของซอสพาสต้า หรือหนึ่ง ไลโคปีนเม็ดวัน มีเพียงพอที่จะเพิ่มระดับไลโคปีนในเลือด

ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศอื่น ๆในการประชุม ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Heinz , รวม indika edirisinghe ศาสตราจารย์จากสถาบันเทคโนโลยีอิลลินอยส์ในสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นมะเขือเทศแปรรูปสามารถปรับปรุงความดันโลหิตสูงในคนที่มีความเสี่ยงของโรคหัวใจ .

การศึกษาใน 28 อาสาสมัครตามสูงต่ำและมะเขือเทศอาหารเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่าความดันโลหิตในหญิงและชายลดลงในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง

งานโดย ดร. mridula Chopra จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ แสดงว่าสุกมะเขือเทศอาจขัดขวางการเจริญเติบโตของมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือแม้แต่ฆ่าเซลล์มะเร็ง .

ดร. Chopra การวิจัยพบว่าไลโคปีนยับยั้งการแพร่กระจายของมะเร็งต่อมลูกหมากเส้น

ในการศึกษาหลอดทดสอบ ไลโคปีน ลดการยึดเกาะและสมบัติการรุกรานของมะเร็งต่อมลูกหมากและได้รับการแสดงเพื่อขัดขวางกลไกสำคัญกำเนิดมะเร็ง ความก้าวหน้าและเซลล์ตาย

ส่วนเพิ่มเติมการทดลองทางคลินิกเป็น ดร. Chopra กล่าวว่ามีการทดลองเพิ่มเติม ต้องการแต่ตอนนี้ เขาแนะนำให้กินสามสี่ชุดมะเขือเทศแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่อสัปดาห์เพื่อสุขภาพต่อมลูกหมาก