Transformational leadership is assu

Transformational leadership is assumed to enhance employees’ creativity. However,
results of meta-analytic research on the relations between transformational leadership
and creativity have fallen short of expectations. The authors argue that, besides leadership
style, the creativity technique that a leader employs is an important means of
stimulating employees’ creativity. In addition, it is assumed that leadership styles and
creativity techniques may have different effects, depending on the measure of creativity
output (quantitative vs qualitative). Therefore, in an experimental setting, the effects of
different creativity techniques (provocation technique vs brainwriting) and leadership
styles (transformational vs transactional) on both quantitative and qualitative creativity
were examined. Results showed that transformational leadership and provocation technique
led to higher levels of qualitative creativity than transactional leadership and
brainwriting, respectively. Conversely, transactional leadership and brainwriting were
more effective for quantitative creativity. The additional benefit of the provocation
technique in qualitative creativity was found to be higher in the transactional leadership
condition than in the transformational leadership condition. Moreover, personal initiative
made a significant and independent contribution to both qualitative and quantitative
creativity. Implications for practice and future research are discussed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาวะผู้นำถือว่าเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน อย่างไรก็ตามผลการวิจัยที่สำคัญคือ meta-ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำและความคิดสร้างสรรค์ได้ลดลงขาดความคาดหวัง ผู้เขียนโต้แย้ง ที่นอกเหนือจากความเป็นผู้นำสไตล์ เทคนิคความคิดสร้างสรรค์ที่ผู้นำใช้เป็นพาหนะสำคัญกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน นอกจากนี้ จะถือว่าเป็นผู้นำที่ลักษณะ และเทคนิคความคิดสร้างสรรค์อาจมีลักษณะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการวัดความคิดสร้างสรรค์ผลผลิต (เชิงปริมาณกับเชิงคุณภาพ) ดังนั้น ในการทดลอง ผลกระทบของเทคนิคการสร้างสรรค์แตกต่างกัน (provocation เทคนิคเทียบกับ brainwriting) และเป็นผู้นำลักษณะ (ภาวะกับทรานแซคชัน) บนความคิดสร้างสรรค์ทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพได้ตรวจสอบ ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่าเทคนิคเป็นผู้นำและ provocation ภาวะนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความคิดสร้างสรรค์เชิงคุณภาพมากกว่าผู้นำธุรกรรม และbrainwriting ตามลำดับ ในทางกลับกัน นำทรานแซคชันและ brainwriting ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับความคิดสร้างสรรค์เชิงปริมาณ ประโยชน์เพิ่มเติมของ provocation ในพบเทคนิคในการสร้างสรรค์เชิงคุณภาพจะสูงในนำทรานแซคชันเงื่อนไขกว่าในสภาพภาวะผู้นำ ยิ่งไปกว่านั้น ความคิดริเริ่มส่วนบุคคลทำส่วนสำคัญ และอิสระทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณความคิดสร้างสรรค์ ผลวิจัยในอนาคตและแนวทางปฏิบัติกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงจะถือว่าเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน อย่างไรก็ตาม
ผลการวิจัยการวิเคราะห์อภิมาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง
และความคิดสร้างสรรค์ได้ลดลงระยะสั้นของความคาดหวัง ผู้เขียนยืนยันว่านอกเหนือจากการเป็นผู้นำ
สไตล์เทคนิคความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นผู้นำที่มีพนักงานเป็นวิธีที่สำคัญในการ
กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน นอกจากนี้มันจะสันนิษฐานว่ารูปแบบความเป็นผู้นำและ
ความคิดสร้างสรรค์เทคนิคอาจมีผลกระทบที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับตัวชี้วัดของความคิดสร้างสรรค์
การส่งออก (ปริมาณ vs เชิงคุณภาพ) ดังนั้นในการตั้งค่าการทดลองผลของ
เทคนิคการคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างกัน (เทคนิคการยั่วยุ vs brainwriting) และความเป็นผู้นำ
รูปแบบ (การเปลี่ยนแปลงเทียบกับการทำธุรกรรม) กับความคิดสร้างสรรค์ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
ที่ได้รับการตรวจสอบ ผลการศึกษาพบว่าภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและเทคนิคการยั่วยุ
นำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของความคิดสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพกว่าการเป็นผู้นำในการทำธุรกรรมและ
brainwriting ตามลำดับ ตรงกันข้ามความเป็นผู้นำในการทำธุรกรรมและ brainwriting มี
ประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับความคิดสร้างสรรค์เชิงปริมาณ ประโยชน์เพิ่มเติมของการยั่วยุ
เทคนิคความคิดสร้างสรรค์ในเชิงคุณภาพพบว่าสูงขึ้นในการเป็นผู้นำในการทำธุรกรรม
สภาพกว่าในสภาพภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ความคิดริเริ่มส่วนบุคคลที่
มีส่วนสำคัญและเป็นอิสระทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ
ความคิดสร้างสรรค์ ผลกระทบต่อการปฏิบัติและการวิจัยในอนาคตจะกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของพนักงานว่าเพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม ผลของการวิจัยเชิงวิเคราะห์เมตา
บนความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์
ได้ลดลงในระยะสั้นของความคาดหวัง ผู้เขียนยืนยันว่า นอกจากภาวะผู้นำ
, ความคิดสร้างสรรค์เทคนิคที่ผู้นำใช้เป็นสำคัญ หมายถึง พนักงานของ
กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้เป็นสันนิษฐานว่ารูปแบบภาวะผู้นำและ
เทคนิคความคิดสร้างสรรค์อาจจะมีผลที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับการวัดผลผลิตของความคิดสร้างสรรค์
( เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ดังนั้นในการตั้งค่าการทดลองผลของเทคนิคความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างกัน ( สิ่งเร้า )

brainwriting VS ) และภาวะผู้นำรูปแบบ ( การเปลี่ยนแปลง vs ทราน ) ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดสร้างสรรค์
. ผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง และเทคนิค การปลุกปั่น
LED ระดับที่สูงขึ้นของการสร้างสรรค์เชิงคุณภาพมากกว่าภาวะผู้นำการแลกเปลี่ยนและ
brainwriting ตามลำดับ ในทางกลับกัน ผู้นำและมีการ brainwriting
มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับความคิดสร้างสรรค์เชิงปริมาณประโยชน์เพิ่มเติมของการสร้างสรรค์เชิงคุณภาพเทคนิค
ในพบในภาวะความเป็นผู้นำ
ธุรกรรมกว่าในเงื่อนไขภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ บุคคลริเริ่ม
ทำสำคัญและอิสระสนับสนุนได้ทั้งเชิงคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์เชิงปริมาณ

สำหรับการปฏิบัติและการวิจัยในอนาคตว่า