One aim of this study was to corrob

One aim of this study was to corroborate if composition differences between organic and conventional milk and dairy products (particularly higher concentrations of unsaturated fatty acids from organic management) recorded on farms in the UK (Ellis et al., 2006; Butler et al., 2008) and at the farm, dairy, and retail levels of the supply chain elsewhere in Europe (Bergamo et al., 2003; Kraft et al., 2003; Collomb et al., 2008; Prandini are also found in processed milk in major retail outlets of the UK. Overall, this study confirms the consensus of previous findings: total PUFA and a range of nutritionally desirable unsaturated fatty acids including VA, CLA9, α-LN, and EPA, as well as n-3:n-6 ratio, were significantly higher in organic compared with conventional milk fat (Table 2 and Figure 1, panels d–h). As in a UK farm survey reported by this group (Butler et al., 2008), the differential between organic and conventional milk was smaller in winter compared with summer. However, unlike the farm results, in this study, differences in retail milk were significant in winter as well as in summer. This inconsistency can probably be explained by the wide range of farms supplying dairy plants processing retail milk, thereby reducing variability between samples and increasing the sensitivity (i.e., smaller changes in milk quality being detected as significant) in the statistical tests used. Elevated concentrations of unsaturated fatty acids in organic milk fat potentially offer greater beneficial fatty acid supply at any given fat intake. Dairy products are our major dietary source of CLA9 and VA (Parodi, 2003), and a switch to those of organic origin in UK could increase total CLA9 consumptio by 30 to 40%. On the other hand, although the extra 60% α-LN and EPA in organic milk may make a useful contribution in a balanced diet, under European Union standards (EFSA, 2009) or the American Heart Association guidelines (Kris-Etherton et al., 2003), it will make a more moderate contribution to achieving recommended n-3 PUFA intakes compared with regular consumption of oily fish.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายหนึ่งของการศึกษานี้ได้ corroborate ถ้าองค์ประกอบความแตกต่างระหว่างอินทรีย์ และธรรมดานมและผลิตภัณฑ์นม (ความเข้มข้นสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดไขมันไม่อิ่มตัวจากการจัดการอินทรีย์) บันทึกไว้ในฟาร์มในสหราชอาณาจักร (Ellis et al. 2006 บัตเลอร์ et al. 2008) และ ที่ฟาร์ม นม และในระดับขายปลีกซัพพลายเชนอื่น ๆ ในยุโรป (Bergamo et al. 2003 คราฟท์ et al. 2003 Collomb et al. 2008 Prandini นอกจากนี้ยังพบในนมแปรรูปในร้านค้าปลีกรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร โดยรวม การศึกษานี้ยืนยันมติของการค้นพบก่อนหน้านี้: รวม PUFA และหลากหลายต้องมีคุณค่าทางโภชนาการไม่อิ่มตัวกรดไขมัน เช่น VA, CLA9 α-LN และ EPA, n-3:n-6 อัตรา มีนัยสำคัญในอินทรีย์เปรียบเทียบกับนมทั่วไปไขมัน (ตารางที่ 2 และรูปที่ 1 แผ่น d – h) ในการ UK ฟาร์มสำรวจรายงาน โดยกลุ่มนี้ (พ่อบ้าน et al. 2008), ความแตกต่างระหว่างนมอินทรีย์ และทั่วไปมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับฤดูร้อนฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากผลฟาร์ม ในการศึกษานี้ ความแตกต่างในนมขายปลีกถูกสำคัญในฤดูหนาวเช่นกันเช่นในฤดูร้อน ไม่สอดคล้องนี้สามารถอาจสามารถอธิบายได้ ด้วยความหลากหลายของฟาร์มพืชผลิตภัณฑ์นมแปรรูปนมขายปลีก จึงช่วยลดความแปรปรวนระหว่างตัวอย่าง และเพิ่มความไวแสง (เช่น มีขนาดเล็กกว่าการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำนมที่ถูกตรวจพบเป็นสำคัญ) ในการทดสอบสถิติที่ใช้ในการจัดหา ยกระดับความเข้มข้นของกรดไขมันไม่อิ่มตัวในไขมันนมอินทรีย์อาจมีมากกว่า กรดไขมันประโยชน์อุปทานที่ปริมาณการบริโภคไขมันใด ๆ กำหนด ผลิตภัณฑ์นมเป็นแหล่งอาหารของเราหลักของ CLA9 และ VA (Parodi, 2003), และสวิตช์ผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ในสหราชอาณาจักรสามารถเพิ่ม consumptio CLA9 รวม 30-40% บนมืออื่น ๆ แม้ว่าα-LN 60% พิเศษและ EPA ในนมอินทรีย์อาจทำให้ผลงานมีประโยชน์ในอาหารสมดุล ภายใต้มาตรฐานของสหภาพยุโรป (EFSA, 2009) หรือแนวทางสมาคมหัวใจอเมริกัน (คริส Etherton et al. 2003), ที่จะทำให้ผลงานมากพอสมควรการบรรลุ n-3 PUFA บริโภคเมื่อเทียบกับการบริโภคปลาที่แนะนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายหนึ่งของการศึกษานี้ยืนยันถ้าความแตกต่างขององค์ประกอบระหว่างนมอินทรีย์และและผลิตภัณฑ์นม (ความเข้มข้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สูงขึ้นของกรดไขมันไม่อิ่มตัวจากการจัดการอินทรีย์) ที่บันทึกในฟาร์มในสหราชอาณาจักร (เอลลิส et al, 2006;.. บัตเลอร์, et al, 2008) และในฟาร์มโคนมและระดับค้าปลีกของห่วงโซ่อุปทานอื่น ๆ ในยุโรป (แบร์กาโม et al, 2003;. คราฟท์ et al, 2003;. Collomb et al, 2008;. Prandini นอกจากนี้ยังพบในนมประมวลผลในหลัก . ร้านค้าปลีกของสหราชอาณาจักรโดยรวม, การศึกษาครั้งนี้เป็นการยืนยันว่ามติของผลการวิจัยก่อนหน้านี้: รวม PUFA และช่วงของกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่พึงประสงค์มีคุณค่าทางโภชนาการรวมทั้ง VA, CLA9, α-LN, และ EPA เช่นเดียวกับ n-3: n-6 อัตราส่วนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอินทรีย์เมื่อเทียบกับไขมันธรรมดานม (ตารางที่ 2 และรูปที่ 1 แผง D-H). ในขณะที่การสำรวจฟาร์มสหราชอาณาจักรรายงานโดยกลุ่มนี้ (บัตเลอร์ et al., 2008) ที่แตกต่างกันระหว่างอินทรีย์และธรรมดา นมมีขนาดเล็กในช่วงฤดู​​หนาวเมื่อเทียบกับในช่วงฤดู​​ร้อน. แต่แตกต่างจากผลการฟาร์มในการศึกษาครั้งนี้มีความแตกต่างในนมค้าปลีกอย่างมีนัยสำคัญในช่วงฤดู​​หนาวเช่นเดียวกับในช่วงฤดู​​ร้อน ไม่สอดคล้องกันนี้น่าจะสามารถอธิบายได้ด้วยหลากหลายของฟาร์มจัดหาพืชนมประมวลผลนมค้าปลีกซึ่งจะช่วยลดความแปรปรวนระหว่างตัวอย่างและการเพิ่มความไวแสง (เช่นการเปลี่ยนแปลงที่มีขนาดเล็กในคุณภาพของนมที่ถูกตรวจพบว่าเป็นสำคัญ) ในการทดสอบทางสถิติที่ใช้ ความเข้มข้นสูงของกรดไขมันไม่อิ่มตัวในไขมันนมอินทรีย์อาจมีอุปทานของกรดไขมันที่เป็นประโยชน์มากขึ้นในการบริโภคไขมันใดก็ตาม ผลิตภัณฑ์นมเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของเรา CLA9 และ VA (Parodi, 2003) และสวิทช์ให้กับผู้ที่เป็นแหล่งกำเนิดของอินทรีย์ในสหราชอาณาจักรสามารถเพิ่ม consumptio CLA9 โดยรวม 30-40% ในทางกลับกันแม้พิเศษ 60% α-LN และ EPA ในนมอินทรีย์อาจทำให้ผลประโยชน์ในอาหารที่สมดุลภายใต้มาตรฐานของสหภาพยุโรป (EFSA 2009) หรือแนวทางสมาคมหัวใจอเมริกัน (กริช-Etherton et al, , 2003) ก็จะทำให้ผลงานมากพอสมควรที่จะบรรลุแนะนำ n-3 PUFA บริโภคเมื่อเทียบกับการบริโภคปกติของปลามัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในจุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อยืนยันถ้าความแตกต่างระหว่างองค์ประกอบอินทรีย์และนมธรรมดา และผลิตภัณฑ์จากนม ( ความเข้มข้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สูงของกรดไขมันไม่อิ่มตัวจากการจัดการอินทรีย์ ) บันทึกไว้ในฟาร์มใน UK ( Ellis et al . , 2006 ; พ่อบ้าน et al . , 2008 ) และที่ฟาร์ม โคนม และระดับค้าปลีกของ ห่วงโซ่อุปทานที่อื่น ๆในยุโรป ( Bergamo et al . , 2003 ; คราฟท์ et al . , 2003 ; collomb et al . , 2008 ; prandini นอกจากนี้ยังพบในนมแปรรูปสาขาร้านค้าปลีกของสหราชอาณาจักร โดยการศึกษานี้ แสดงฉันทามติของก่อนหน้านี้พบทั้งหมด PUFA และช่วงคุณลักษณะทางอาหารกรดไขมันไม่อิ่มตัว ได้แก่ cla9 แอลฟาใน , VA , และ EPA เช่นเดียวกับโรคหัวใจ : มวลอัตราส่วนมีค่าสูงกว่าในอินทรีย์เมื่อเทียบกับนมไขมันปกติ ( ตารางที่ 2 และ รูปที่ 1 แผ่น D ( H ) . ขณะที่ในอังกฤษฟาร์มการสำรวจรายงานโดยกลุ่มนี้ ( พ่อบ้าน et al . , 2008 ) , ความแตกต่างระหว่างอินทรีย์และนมธรรมดาเป็นขนาดเล็กในฤดูหนาวเมื่อเทียบกับฤดูร้อน แต่แตกต่างจากฟาร์ม ผลการศึกษาความแตกต่างในน้ำนมปลีกอย่างมีนัยสำคัญในฤดูหนาวเช่นเดียวกับในฤดูร้อน ไม่อาจจะอธิบายได้หลากหลายของฟาร์มโคนมรายย่อยขายโรงงานแปรรูปนมจึงช่วยลดความแปรปรวนระหว่างกลุ่มตัวอย่าง และเพิ่มความไว ( เช่น มีขนาดเล็กลง การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำนม ถูกตรวจพบว่ามีความหมาย ) สถิติทดสอบที่ใช้ ความเข้มข้นสูงของกรดไขมันไม่อิ่มตัวในไขมันนมอินทรีย์อาจมีมากกว่าประโยชน์ของกรดไขมัน จัดหาที่ให้ไขมันบริโภค นมเป็นแหล่งอาหารหลักของ cla9 และ VA ( ล้อเลียน , 2003 ) และเปลี่ยนไปของอินทรีย์ต้นใน UK อาจจะเพิ่ม consumptio cla9 ทั้งหมดโดย 30 ถึง 40% บนมืออื่น ๆ , แม้ว่าพิเศษ 60% แอลฟาในและ EPA ในนมอินทรีย์อาจจะสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ในอาหารที่สมดุล ภายใต้มาตรฐานของสหภาพยุโรป ( efsa 2009 ) หรือแนวทางที่สมาคมหัวใจอเมริกัน ( กริช etherton et al . , 2003 ) จะให้การสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุแนะนำตัวปานกลาง ภูฟ้าและเมื่อเทียบกับการบริโภคปกติของน้ำมันปลา