The common laboratory conductivity

The common laboratory conductivity meters employ a potentiometric method and four electrodes. Often, the electrodes are cylindrical and arranged concentrically[citation needed]. The electrodes are usually made of platinum metal. An alternating current is applied to the outer pair of the electrodes. The potential between the inner pair is measured[citation needed]. Conductivity could in principle be determined using the distance between the electrodes and their surface area using the Ohm's law but generally, for accuracy, a calibration is employed using electrolytes of well-known conductivity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมตรนำห้องปฏิบัติการทั่วไปใช้วิธี potentiometric และหุงต 4 มักจะ หุงตเป็นทรงกระบอก และจัด concentrically [ต้องการอ้างอิง] หุงตมักจะทำจากโลหะแพลทินัม กระแสสลับจะใช้กับคู่ภายนอกของการหุงต ศักยภาพระหว่างคู่ภายในมีวัด [อ้างจำเป็น] นำสามารถในหลักกำหนดระยะห่างระหว่างการหุงตและพื้นที่ผิวของพวกเขาโดยใช้กฎของโอห์มใช้ แต่โดยทั่วไป ความถูกต้อง เทียบเป็นลูกจ้างใช้ไลต์รู้จักนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การนำทางห้องปฏิบัติการพบบ่อยเมตรจ้างวิธี potentiometric และสี่ขั้วไฟฟ้า บ่อยครั้งที่ขั้วไฟฟ้าที่มีรูปทรงกระบอกและจัด concentrically [อ้างจำเป็น] ขั้วไฟฟ้ามักจะทำจากโลหะทองคำ กระแสสลับถูกนำไปใช้คู่ด้านนอกของขั้วไฟฟ้า ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างคู่ภายในวัด [อ้างจำเป็น] การนำความสามารถในหลักการที่ถูกกำหนดโดยใช้ระยะห่างระหว่างขั้วไฟฟ้าและพื้นที่ผิวของตนโดยใช้กฎหมายของโอห์ม แต่โดยทั่วไป, ความถูกต้อง, การปรับเทียบเป็นลูกจ้างโดยใช้อิเล็กโทรไลการนำที่รู้จักกันดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ห้องปฏิบัติการทั่วไปไฟฟ้าเมตรจ้างวิธีการศักย์และสี่ขั้วไฟฟ้า บ่อยครั้งที่ขั้วไฟฟ้าเป็นทรงกระบอกและจัด concentrically [ อ้างอิงที่จำเป็น ] ขั้วไฟฟ้าที่มักจะทำจากทองคำขาวเป็นโลหะ เป็นไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้กับคู่ด้านนอกของขั้วไฟฟ้า ศักยภาพระหว่างคู่ภายในวัด [ อ้างอิงที่จำเป็น ]ความ สามารถในหลักการจะกำหนดโดยใช้ระยะห่างระหว่างขั้วไฟฟ้าและพื้นที่ผิวของการใช้กฎหมายของโอห์ม แต่โดยทั่วไปแล้ว เพื่อความถูกต้อง , การสอบเทียบเป็นลูกจ้างใช้อิเล็กโทรไลต์ที่รู้จักกันดี conductivity