Bacteria were isolated from each of

Bacteria were isolated from each of the sampling points and
identified by sequencing 16S rDNA (Table 1). Among 768 isolates,
26 different species were identified, with 39 unidentified isolates.
Ninety-five % of total isolates were identified as Lactobacillus sp.,
with the four most abundant species being Lactobacillus plantarum
(37% of isolates), Lactobacillus casei (17%), Lactobacillus mucosae
(9%), and L. fermentum (8%). These four species are classified as either
facultatively or obligately heterofermentative. Obligately homofermentative
species use the glycolytic (Embden-Meyerhof-Parnas)
pathway to ferment glucose to lactic acid. Obligately heterofermentative
species use the phosphogluconate or phosphoketolase
pathway to produce lactic acid, acetic acid, ethanol, and carbon
dioxide,with other minor products. Facultatively heterofermentative
species normally use glycolysis to produce lactic acid from glucose,
but also possess aldolase and an inducible phosphoketolase, and
under certain conditions can produce lactic acid, acetate, and
ethanol.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบคทีเรียที่แยกจากจุดสุ่มตัวอย่าง และกำหนด โดยลำดับเบส 16S rDNA (ตาราง 1) ระหว่างแยก 768สายพันธุ์ต่าง ๆ 26 ระบุ กับ 39 แยกไม่ระบุ 5 90% ของทั้งหมดแยกเป็นแลคโตบาซิลลัส sp.,มีสายพันธุ์มากที่สุดสี่ถูก plantarum แลคโตบาซิลลัส(37% ของแยก), แลคโตบาซิลลัส casei (17%), mucosae แลคโตบาซิลลัส(9%), และ L. fermentum (8%) ชนิดสี่เหล่านี้แบ่งออกเป็นfacultatively หรือ obligately heterofermentative Obligately homofermentativeชนิดใช้แบบ glycolytic (Embden-Meyerhof-รามา)ระดับหมักกลูโคสกับกรด Obligately heterofermentativeชนิดใช้ phosphogluconate หรือ phosphoketolaseทางเดิน ผลิตกรด กรดอะซิติก เอทานอล คาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เล็กน้อย Facultatively heterofermentativeชนิดใช้ glycolysis ปกติผลิตจากกลูโคส กรดแต่ยัง มี aldolase และมี phosphoketolase inducible และโดยสามารถผลิตกรด acetate และเอทานอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แบคทีเรียที่แยกได้จากแต่ละจุดเก็บตัวอย่างและระบุลำดับ 16S rDNA (ตารางที่ 1)
ในบรรดา 768 ไอโซเลท,
26 ชนิดที่แตกต่างกันมีการระบุมี 39 สายพันธุ์ที่ไม่ปรากฏชื่อ.
เก้าสิบห้า% ของสายพันธุ์รวมถูกระบุว่าเป็น Lactobacillus sp.
กับสี่ชนิดที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดเป็น plantarum แลคโตบาซิลลัส
(37% ของเชื้อ) Lactobacillus casei (17% ), แลคโตบาซิลลัส mucosae
(9%) และแอล fermentum (8%) ทั้งสี่ชนิดที่จัดเป็นทั้ง
facultatively หรือ obligately heterofermentative obligately homofermentative
ชนิดใช้ glycolytic (Embden-Meyerhof-Parnas)
ทางเดินในการหมักกลูโคสกรดแลคติก obligately heterofermentative
ชนิดใช้ phosphogluconate หรือ phosphoketolase
ทางเดินในการผลิตกรดแลคติกกรดอะซิติก,
เอทานอลและคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยผลิตภัณฑ์ย่อยอื่นๆ facultatively heterofermentative
สายพันธุ์ปกติใช้ glycolysis ในการผลิตกรดแลคติกจากน้ำตาลกลูโคส
แต่ยังมี aldolase และ phosphoketolase inducible และภายใต้เงื่อนไขบางสามารถผลิตกรดแลคติกอะซิเตทและเอทานอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบคทีเรียที่แยกได้จากตัวอย่างในแต่ละจุดและ
ระบุลำดับ 16S rDNA ( ตารางที่ 1 ) ระหว่าง 768 สายพันธุ์
26 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันถูกระบุด้วย 39 ระบุเชื้อ เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด
ไอโซเลตที่ถูกระบุว่าเป็น Lactobacillus sp . ,
กับสี่ชุกชุมที่สุดชนิดเป็น Lactobacillus plantarum
( 37% ของสายพันธุ์ , Lactobacillus casei ) ( 17% ) , Lactobacillus mucosae
( 9% ) และ fermentum ( 8% ) ทั้ง 4 ชนิด ตามด้วย
facultatively หรือ obligately heterofermentative . obligately homofermentative
ชนิดใช้ glycolytic ( embden เมเยอร์โฮฟ พาร์นาส )
) หมักกลูโคส กรดแลกติก obligately heterofermentative
ชนิดใช้ phosphogluconate หรือ phosphoketolase
ทางเดินเพื่อผลิตกรด , กรดอะซิติก , เอทานอล และคาร์บอน
ไดออกไซด์กับผลิตภัณฑ์ย่อยอื่น ๆ ชนิด facultatively heterofermentative
ปกติใช้ไกลโคไลซิสเพื่อผลิตกรดแลคติกจากกลูโคส ,
แต่ยังครอบครองลโดเลสและ phosphoketolase inducible และ
ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างสามารถผลิตกรดอะซิเตทและ
เอทานอล