After commercial success at the box

After commercial success at the box office, a sequel, Apocalypse, was released in 2004. This was followed in 2007 by Extinction, in 2010 by Afterlife and in 2012 by Retribution. Anderson did not direct the second and third films due to filming commitments with Alien vs. Predator and Death Race,[40] but instead functioned as the scriptwriter and producer on both. These films were directed by Alexander Witt and Russell Mulcahy respectively, while Anderson returned to direct the fourth and fifth films in the franchise

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากความสำเร็จที่สำนักงานกล่อง ภาค Apocalypse ถูกปล่อยออกมาในปี 2004 นี้ถูกตามใน 2007 ดับ 2010 โดย Afterlife และ ในปี 2012 ตามมา แอนเดอร์สันได้โดยตรงฟิล์มสอง และที่สามเนื่องจากถ่ายทำผูกพันกับคนต่างด้าวเทียบกับพรีเดเตอร์และแข่งตาย, [40] แต่แยกแต่ เป็นการเขียนบทและโปรดิวเซอร์ทั้งสองอย่าง ภาพยนตร์เหล่านี้ถูกกำกับ โดยอเล็กซานเดอร์วิตและรัสเซล Mulcahy ตามลำดับ ในขณะที่แอนเดอร์สันกลับไปโดยตรงฟิล์มสี่ และห้าในแฟรนไชส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ที่บ็อกซ์ออฟฟิศเป็นผลสืบเนื่องคติได้รับการปล่อยตัวในปี 2004 นี้ตามในปี 2007 โดยการสูญพันธุ์ในปี 2010 โดยชีวิตหลังความตายและในปี 2012 โดยการลงโทษ เดอร์สันไม่ได้นำภาพยนตร์ที่สองและสามเนื่องจากการถ่ายทำภาระผูกพันกับต่างประเทศกับการแข่งขันล่าและความตาย [40] แต่แทนที่จะทำหน้าที่เป็นนักเขียนบทละครและผู้ผลิตทั้ง ภาพยนตร์เหล่านี้ถูกกำกับโดยอเล็กซานเดอวิตต์และรัสเซลมัลคาไฮตามลำดับในขณะที่เดอร์สันกลับไปโดยตรงภาพยนตร์ที่สี่และห้าในแฟรนไชส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากความสำเร็จเชิงพาณิชย์ในบ็อกซ์ออฟฟิศ , sequel , คัมภีร์ของศาสนาคริสต์ , ถูกปล่อยออกมาในปี 2004 นี้ตามมาในปี 2007 โดยการสูญพันธุ์ ในปี 2553 โดยชีวิตหลังความตายและ 2012 โดยกรรม แอนเดอร์สัน ไม่ตรงตัวที่สองและสามภาพยนตร์ เนื่องจากถ่ายกับคนต่างด้าว VS Predator ผูกพันและการแข่งขันความตาย [ 40 ] แต่แทนที่จะทำหน้าที่เป็นนักเขียนบทและโปรดิวเซอร์ทั้งสอง .ภาพยนตร์เหล่านี้ถูกกำกับโดย Alexander Witt และ Russell Mulcahy ตามลำดับ ขณะที่แอนเดอร์สันกลับมากำกับภาพยนตร์ที่สี่และห้าในแฟรนไชส์