2.2. Layered designFigure 1 shows t

2.2. Layered design
Figure 1 shows the layered design of Cloud computing architecture. Physical Cloud resources
along with core middleware capabilities form the basis for delivering IaaS and PaaS. The user-level
middleware aims at providing SaaS capabilities. The top layer focuses on application services
(SaaS) by making use of services provided by the lower-layer services. PaaS/SaaS services are
often developed and provided by third-party service providers, who are different from the IaaS
providers [3].
Cloud applications: This layer includes applications that are directly available to end-users. We
define end-users as the active entity that utilizes the SaaS applications over the Internet. These
applications may be supplied by the Cloud provider (SaaS providers) and accessed by end-users
either via a subscription model or on a pay-per-use basis. Alternatively, in this layer, users deploy
their own applications. In the former case, there are applications such as Salesforce.com that supply
business process models on clouds (namely, customer relationship management software) and
social networks. In the latter, there are e-Science and e-Research applications, and Content-Delivery
Networks.
User-Level middleware: This layer includes the software frameworks, such asWeb 2.0 Interfaces
(Ajax, IBM Workplace), that help developers in creating rich, cost-effective user-interfaces for
browser-based applications. The layer also provides those programming environments and composition
tools that ease the creation, deployment, and execution of applications in clouds. Finally, in
this layer several frameworks that support multi-layer applications development, such as Spring
and Hibernate, can be deployed to support applications running in the upper level.
Core middleware: This layer implements the platform-level services that provide run-time environment
for hosting and managing User-Level application services. The core services at this layer
include Dynamic SLA Management, Accounting, Billing, Execution monitoring and management,
and Pricing (are all the services to be capitalized?). The well-known examples of services operating
at this layer are Amazon EC2, Google App Engine, and Aneka. The functionalities exposed by this
layer are accessed by both SaaS (the services represented at the top-most layer in Figure 1) and
IaaS (services shown at the bottom-most layer in Figure 1) services. Critical functionalities that
need to be realized at this layer include messaging, service discovery, and load-balancing. These
functionalities are usually implemented by Cloud providers and offered to application developers
at an additional premium. For instance, Amazon offers a load-balancer and a monitoring service
(Cloudwatch) for the Amazon EC2 developers/consumers. Similarly, developers building applications
on Microsoft Azure clouds can use the .NET Service Bus for implementing message passing
mechanism.
System Level: The computing power in Cloud environments is supplied by a collection of data
centers that are typically installed with hundreds to thousands of hosts [2]. At the System-Level
layer, there exist massive physical resources (storage servers and application servers) that power
the data centers. These servers are transparently managed by the higher-level virtualization [12]
services and toolkits that allow sharing of their capacity among virtual instances of servers. These
VMs are isolated from each other, thereby making fault tolerant behavior and isolated security
context possible.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2. ชั้นออกรูปที่ 1 แสดงการออกแบบชั้นของเมฆคอมพิวเตอร์สถาปัตยกรรม เมฆทรัพยากรทางกายภาพพร้อมกับความสามารถหลักมิดเดิลแวร์เป็นพื้นฐานสำหรับการส่งมอบ IaaS และ PaaS ระดับผู้ใช้มิดเดิลแวร์มีจุดมุ่งหมายที่ให้ความสามารถของซาส ชั้นบนเน้นบริการแอพลิเคชัน(ซาส) ด้วยการใช้บริการ โดยบริการชั้นล่าง บริการ PaaS/ซา สพัฒนา และบริการ โดยผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ที่แตกต่างจากการ IaaS มักผู้ให้บริการ [3]เมฆแอพลิเคชัน: ชั้นนี้ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์ที่พร้อมใช้งานผู้ใช้โดยตรง เรากำหนดผู้ใช้งานเป็นเอนทิตีเปิดใช้งานที่ใช้โปรแกรมประยุกต์ซาสอินเทอร์เน็ต เหล่านี้โปรแกรมประยุกต์อาจให้ โดยผู้ให้บริการคลาวด์ (ซาสผู้ให้บริการ) และการเข้าถึง โดยผู้ใช้หรือ ผ่านแบบบอกรับสมาชิก บนพื้นฐานค่าจ้างต่อใช้ หรือ ในชั้นนี้ ผู้ใช้งานโปรแกรมประยุกต์ของตนเอง ในกรณีเดิม มีโปรแกรมประยุกต์เช่น Salesforce.com ที่จัดหากระบวนการทางธุรกิจรุ่นบนเมฆ (ได้แก่ ลูกค้าสัมพันธ์บริหารซอฟต์แวร์) และเครือข่ายทางสังคม หลัง มี e-วิทยาศาสตร์ และงานวิจัยอี และจัด ส่งเนื้อหาเครือข่ายมิดเดิลแวร์ระดับผู้ใช้: ชั้นนี้ประกอบด้วยซอฟต์แวร์กรอบ อินเตอร์เฟสเช่น asWeb 2.0(อาแจ็กซ์ IBM ที่ทำงาน), ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสร้างร่ำรวย คุ้มค่าอินเตอร์เฟซสำหรับการใช้งานเบราว์เซอร์ ชั้นที่มีสภาพแวดล้อมและองค์ประกอบเหล่านั้นเขียนโปรแกรมเครื่องมือที่ช่วยสร้าง ปรับใช้ และการดำเนินการของโปรแกรมประยุกต์ในเมฆ สุดท้าย ในนี้ชั้นกรอบต่าง ๆ ที่สนับสนุนการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์หลายชั้น เช่นสปริงไฮเบอร์ เนต และสามารถใช้งานได้เพื่อสนับสนุนโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานในระดับบนได้มิดเดิลแวร์หลัก: ชั้นนี้ใช้บริการแพลตฟอร์มระดับที่ให้รันไทม์สภาพแวดล้อมสำหรับโฮสติ้ง และการจัดการระดับผู้ใช้โปรแกรมประยุกต์บริการ บริการหลักที่ชั้นนี้รวมไดนามิก SLA บริหาร บัญชี การเรียกเก็บเงิน ตรวจสอบการดำเนินการ และการ จัดการและราคา (มีบริการทั้งหมดจะถูกบันทึกเป็นสินทรัพย์) ตัวอย่างที่รู้จักบริการปฏิบัติในชั้นนี้มี Amazon EC2, Google App Engine และอเน ฟังก์ชันการทำงานที่เปิดเผยตามนี้ชั้นเข้าถึงได้ทั้งซาส (บริการแทนในชั้นที่สุดในรูปที่ 1) และIaaS (บริการแสดงอยู่ที่ชั้นล่างสุดในรูปที่ 1) บริการ ฟังก์ชันที่สำคัญที่จำเป็นต้องถูกรับรู้ในชั้นนี้ประกอบด้วยข้อความ บริการค้นหา และสมดุล เหล่านี้ฟังก์ชันการทำงานมักจะดำเนินการ โดยผู้ให้บริการคลาวด์ และเสนอให้นักพัฒนาแอพลิเคชันที่เป็นพรีเมี่ยมเพิ่มเติม ตัวอย่าง Amazon มีการสร้างสมดุลและบริการตรวจสอบ(Cloudwatch) สำหรับนักพัฒนา Amazon EC2/ผู้ บริโภค ทำนอง นักพัฒนาสร้างโปรแกรมประยุกต์บน Microsoft Azure เมฆสามารถใช้รถบริการ.NET สำหรับการดำเนินงานผ่านข้อความกลไกการระบบระดับ: มาพลังคอมพิวเตอร์ในสภาพแวดล้อมของเมฆ โดยรวบรวมข้อมูลศูนย์ที่มีการติดตั้งโดยทั่วไป มีหลายร้อยหลายพันคนของโฮสต์ [2] ในระดับระบบชั้น มีทรัพยากรทางกายภาพขนาดใหญ่ (เก็บเซิร์ฟเวอร์และเซิร์ฟเวอร์แอพลิเคชัน) อำนาจศูนย์ข้อมูล เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะถูกจัดการโปร่งใส โดยการจำลองเสมือนสูงกว่า [12]บริการและข่าวที่อนุญาตให้ใช้ร่วมกันของกำลังการผลิตในอินสแตนซ์เสมือนของเซิร์ฟเวอร์ เหล่านี้VMs จะแยกจากกัน ทำพฤติกรรมป้องกันความผิดพลาดข้อบกพร่องและความปลอดภัยแยกบริบทที่เป็นไปได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.2 การออกแบบชั้น
รูปที่ 1 แสดงการออกแบบชั้นของสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์เมฆ ทรัพยากรทางกายภาพเมฆ
พร้อมกับความสามารถในการมิดเดิลแวร์หลักเป็นพื้นฐานสำหรับการส่งมอบและ IaaS PaaS ระดับผู้ใช้
มิดเดิลแวร์มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความสามารถในการ SaaS ชั้นบนสุดจะเน้นที่การใช้บริการ
(SaaS) โดยการใช้บริการโดยบริการชั้นล่าง PaaS / บริการ SaaS จะ
พัฒนาและมักจะให้โดยบุคคลที่สามผู้ให้บริการที่มีความแตกต่างจาก IaaS
ผู้ให้บริการ [3].
การใช้งานคลาวด์: ชั้นนี้รวมถึงการใช้งานที่มีอยู่โดยตรงไปยังผู้ใช้ปลายทาง เรา
กำหนดผู้ใช้ขั้นปลายเป็นนิติบุคคลที่ใช้งานที่ใช้งาน SaaS ผ่านทางอินเทอร์เน็ต เหล่านี้
อาจจะมีการใช้งานที่จัดทำโดยผู้ให้บริการคลาวด์ (ผู้ให้บริการ SaaS) และเข้าถึงได้โดยผู้ใช้สิ้น
ทั้งผ่านรูปแบบการสมัครหรือบนพื้นฐานจ่ายต่อการใช้งาน อีกทางเลือกหนึ่งในชั้นนี้ผู้ใช้ปรับ
การใช้งานของตัวเอง ในกรณีที่อดีตมีการใช้งานเช่น Salesforce.com ที่จัดหา
แบบจำลองกระบวนการทางธุรกิจบนเมฆ (คือซอฟต์แวร์การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า) และ
เครือข่ายทางสังคม ในระยะหลังมี E-วิทยาศาสตร์และใช้งาน e-วิจัยและเนื้อหาการจัดส่ง
เครือข่าย.
มิดเดิลแวร์ระดับผู้ใช้: ชั้นนี้รวมถึงกรอบซอฟต์แวร์เช่น asWeb 2.0 อินเตอร์เฟซ
(อาแจ็กซ์, IBM สถานที่ทำงาน) ที่จะช่วยให้นักพัฒนาในการสร้างที่อุดมไปด้วย ค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพของผู้ใช้อินเตอร์เฟซสำหรับ
การใช้งานเบราว์เซอร์ ชั้นนอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมการเขียนโปรแกรมและองค์ประกอบของ
เครื่องมือที่สร้างความสะดวกในการใช้งานและการดำเนินการของการใช้งานในเมฆ สุดท้ายใน
กรอบนี้ชั้นหลายอย่างที่สนับสนุนการใช้งานหลายชั้นพัฒนาเช่นฤดูใบไม้ผลิ
และ Hibernate สามารถนำไปใช้สนับสนุนการใช้งานที่ทำงานอยู่ในระดับบน.
มิดเดิลแวร์หลัก: ชั้นนี้ดำเนินการให้บริการแพลตฟอร์มระดับที่ให้สภาพแวดล้อมเวลาทำงาน
สำหรับการเป็นเจ้าภาพและการจัดการบริการโปรแกรมระดับผู้ใช้ บริการหลักที่ชั้นนี้
รวมถึงการบริหารจัดการแบบไดนามิก SLA บัญชีการเรียกเก็บเงินการตรวจสอบการดำเนินการและการบริหารจัดการ
และการตั้งราคา (ได้รับการบริการทั้งหมดที่จะได้รับทุน?) ตัวอย่างที่รู้จักกันดีในการให้บริการการดำเนินงาน
ที่ชั้นนี้ Amazon EC2, Google App Engine และ Aneka ฟังก์ชันนี้เปิดเผยโดย
ชั้นมีการเข้าถึงโดยทั้ง SaaS (บริการที่เป็นตัวแทนที่ด้านบนสุดชั้นในรูปที่ 1) และ
IaaS (บริการแสดงที่ชั้นล่างมากที่สุดในรูปที่ 1) บริการ ฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญที่
จะต้องมีการตระหนักในชั้นนี้ ได้แก่ การส่งข้อความการค้นพบการบริการและการโหลดสมดุล เหล่านี้
ฟังก์ชันการทำงานที่จะดำเนินการตามปกติแล้วโดยผู้ให้บริการคลาวด์และเสนอขายให้กับนักพัฒนาแอพลิเคชัน
ที่พรีเมี่ยมเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่นอเมซอนมีโหลดสมดุลและการบริการการตรวจสอบ
(CloudWatch) สำหรับนักพัฒนา Amazon EC2 / ผู้บริโภค ในทำนองเดียวกันนักพัฒนาสร้างโปรแกรมประยุกต์
บนเมฆ Azure ไมโครซอฟท์สามารถใช้บริการรถโดยสาร .NET สำหรับการดำเนินการผ่านข้อความ
กลไก.
ระบบระดับ: อำนาจการใช้คอมพิวเตอร์ในสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่จัดจำหน่ายโดยการเก็บรวบรวมข้อมูล
ศูนย์ที่ติดตั้งโดยปกติจะมีหลายร้อยหลายพันของครอบครัว [ 2] ในระบบระดับ
ชั้นที่มีอยู่ทรัพยากรทางกายภาพขนาดใหญ่ (เซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งาน) พลังงานที่
ศูนย์ข้อมูล เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีการจัดการอย่างโปร่งใสโดยการทำงานแบบเสมือนระดับสูง [12]
การบริการและชุดเครื่องมือที่ช่วยให้ใช้งานร่วมกันของกำลังการผลิตของพวกเขาในหมู่กรณีเสมือนจริงของเซิร์ฟเวอร์ เหล่านี้
VMs จะแยกจากกันจึงทำให้ความผิดพฤติกรรมใจกว้างและความปลอดภัยที่แยก
บริบทที่เป็นไปได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.2 . ชั้นคิดว่าชั้นออกแบบ
1 แสดงการออกแบบสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์เมฆ รูปแบบพื้นฐานสำหรับการส่งมอบแบบ IaaS เมฆและทรัพยากรทางกายภาพ (
พร้อมกับความสามารถหลัก ระดับ
ผู้ใช้ middleware มุ่งหวังที่ให้ใช้ความสามารถ ชั้นบนเน้นบริการโปรแกรม
( SaaS ) โดยการใช้บริการให้บริการชั้นล่างคอม / บริการ SaaS เป็น
มักจะพัฒนาและให้บริการโดยบุคคลที่สามผู้ให้บริการที่แตกต่างจากผู้ให้บริการ IaaS
[ 3 ] .
โปรแกรมเมฆ : ชั้นนี้รวมถึงโปรแกรมประยุกต์ที่ถูกโดยตรงเพื่อวางผู้ใช้ เราเป็นองค์กรผู้ใช้
กำหนดงานที่ใช้ SaaS การใช้งานผ่านทางอินเทอร์เน็ต เหล่านี้
โปรแกรมอาจจะให้บริการเมฆ ( ผู้ให้บริการ SaaS ) และเข้าถึงได้โดยผู้ใช้
ให้ผ่านรูปแบบการสมัครหรือจ่ายต่อการใช้งานพื้นฐาน หรืออีกวิธีหนึ่ง ในชั้นนี้ ผู้ใช้ปรับใช้
โปรแกรมประยุกต์ของตัวเอง ในกรณีแรกมีการใช้งานเช่น Salesforce.com ที่จัดหา
กระบวนการทางธุรกิจแบบจำลองเมฆ ( คือลูกค้าสัมพันธ์ซอฟต์แวร์การจัดการ
) และเครือข่ายทางสังคม ในระยะหลัง มี e-science และโปรแกรมการวิจัย และเครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา (
.
) ผู้ใช้ : ชั้นนี้รวมถึงซอฟต์แวร์ต่างๆ เช่น asweb 2.0 interfaces
( อาแจ็กซ์ , IBM ที่ทำงาน ) ที่ช่วยให้นักพัฒนาในการสร้างที่อุดมไปด้วย , ส่วนติดต่อผู้ใช้ที่มีประสิทธิภาพสำหรับ
เบราว์เซอร์ที่ใช้งานชั้นยังให้สภาพแวดล้อมการเขียนโปรแกรมและเครื่องมือองค์ประกอบ
ที่ง่าย การสร้าง การใช้ และการประยุกต์ใช้ในเมฆ ในที่สุด , ใน
ชั้นนี้กรอบการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ที่สนับสนุนหลายชั้น เช่น ฤดูใบไม้ผลิ
และไฮเบอร์เนต สามารถใช้งานเพื่อสนับสนุนการใช้งานที่วิ่งอยู่ในระดับสูง .
แกนกลาง :ชั้นนี้ใช้ระดับแพลตฟอร์มการบริการที่ให้ความเร็วระดับโฮสติ้งและการจัดการสิ่งแวดล้อม
สำหรับผู้ใช้บริการโปรแกรม บริการหลักที่ชั้นนี้
รวมถึงการจัดการ , การบัญชี , การเรียกเก็บเงินการตรวจสอบ SLA แบบไดนามิกและการจัดการ
และราคา ( มีบริการทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ? ) ที่ ตัวอย่างที่รู้จักกันดีของบริการผ่าตัดที่ชั้นนี้มี Amazon EC2
,Google App Engine และ Aneka . ฟังก์ชันเปิดเผยโดยชั้นนี้
เข้าถึงได้ โดยทั้งสอง SaaS ( บริการแสดงที่ด้านบนสุด ชั้น ในรูปที่ 1 ) และ
IaaS ( บริการแสดงที่ด้านล่างสุดเลเยอร์ในรูปที่ 1 ) บริการ ฟังก์ชันที่สำคัญที่ต้องตระหนักใน
ชั้นนี้รวมถึงการส่งข้อความบริการค้นหาและโหลดสมดุล เหล่านี้
ฟังก์ชันที่มักจะใช้โดยผู้ให้บริการเมฆและเสนอที่จะพัฒนาโปรแกรม
ที่พิเศษเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น Amazon เสนอ balancer โหลดและตรวจสอบบริการ
( cloudwatch ) สำหรับ Amazon EC2 นักพัฒนา / ผู้บริโภค นอกจากนี้นักพัฒนาแอปพลิเคชันบนอาคาร
Microsoft Azure เมฆสามารถใช้รถบัสบริการสุทธิสำหรับการใช้ข้อความ

ผ่านกลไกระดับระบบ : พลังคอมพิวเตอร์ในสภาพแวดล้อมที่เมฆมา โดยการเก็บรวบรวมข้อมูล
ศูนย์ที่มักจะติดตั้งกับหลายร้อยหลายพันของครอบครัว [ 2 ] ที่ระดับ
ระบบชั้นมีอยู่ทรัพยากรทางกายภาพ ( เซิร์ฟเวอร์และเซิร์ฟเวอร์การจัดเก็บขนาดใหญ่ ) ที่พลังงาน
ศูนย์ข้อมูล เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะถูกจัดการอย่างโปร่งใส โดยระดับ virtualization [ 12 ]
บริการและชุดเครื่องมือที่ช่วยให้ใช้งานร่วมกันของความจุของพวกเขาระหว่างอินสแตนซ์เสมือนของเซิร์ฟเวอร์ วัดเหล่านี้
ถูกแยกจากกันและกัน ทำให้พฤติกรรมใจกว้างความผิด และแยกการรักษาความปลอดภัย
บริบทที่สุด